คิดก่อนกิน


เมื่อวานวิ่ง 5K หรือ 15 รอบสนามกีฬากลางของหาดใหญ่ โดยใช้เวลาเกือบ 1 ชั่วโมงค่ะ เวลาวิ่งทำให้นึกถึงว่าแต่ก่อนเราชอบทานอาหารตามใจปาก ทำให้ร่างกายมีงอกตรงโน้นตรงนี้

หกเดือนที่ผ่านมานี้จึงเริ่มฟิตตัวเองอย่างเอาจริงเอาจัง และก่อนจะทานอะไรจะพยายามนึกถึงว่า เราต้องออกกำลังกายหนักแค่ไหนจึงจะเอาสิ่งที่จะกินออกไปให้หมด

จึงขอนำภาพนี้มาเตือนสตินักกินทุกท่านให้คิดก่อนที่จะกินนะคะ เช่น กิน cheesecake เข้าไป 1 ชิ้น ต้องเดินเร็วประมาณ 148 นาที หรือเกือบ 2 ชั่วโมงครึ่ง เชียวนะคะ

http://www.womenshealthmag.com/files/wh6_uploads/images/eat-less.gif

หมายเลขบันทึก: 565860เขียนเมื่อ 10 เมษายน 2014 16:45 น. ()แก้ไขเมื่อ 10 เมษายน 2014 16:48 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)

ว่าทำไม อะไร ๆ ถึงคั่งค้างในตัวผมเยอะแยะเลยครับ

Gee, I definitely have been out of circulation.

"crunches, elliptical, Pilates, lunges" are now in 'exercises' (for women?).

I thought I learned to push-up, chin-up, squash-down, reach-up, bend-down, touch-toes... even to "plank" ;-) I'd better go back to class.

==It would be interesting to see for comparison what we would have to do to digest some fruits and veggies, say 1 mango = 30 minutes on the swing, 1 carrot = 15 minutes on the rock ;-) ==

BTW. Our bodies are highly efficient in converting food to fat (to store) and energy (to spend). We know many Buddhist monks who live healthily into the 90s on one one meal a day.

กินไข่ ๑ ฟอง มีคอเลสเตอรอล ๓๐๐ มก.

วันไหนกินไข่ไปแล้ว ๑ ฟอง เท่ากับว่าต้องไม่กินคอเลสเตอรอลจากอาหารอื่นอีก 555

ออกกำลังกายเพิ่มไขมันดี (HDL) มันช่วยนำคอเลสเตอรอลไปทำลายที่ตับ

ไม่มีวิธัีอื่นเพิ่ม HDL

พวกที่กินๆ นอนๆ จึงเสี่ยงโรคหัวใจหลอดเลือด

อย่างอ.จันนี่ไขมันดีเพิ่ม ไขมันเลวคงจะกลัว ไม่มาใกล้ โรคห่างไกล ที่สำคัญคือ หุ่นสวยยยย....

ยินดีด้วยค่ะ

คิดเสมอ แต่ก็มากไปเสมอค่ะ อาหารยากมากสำหรับพี่ดาอร่อยไปหมด

ออกกำลังกายน้อยไปจะพยายามให้มากขึ้นค่ะ ขอบคุณมากนะคะ

...คิดบ้าง ลืมบ้างค่ะอาจารย์ ...ขอบคุณมากค่ะ

ขอร่วมเป็นกำลังใจให้ท่านอ.จันทวรรณด้วยครับ

การเผาผลาญที่ดีสามารถทำให้เรามีวันที่ทานตามใจปากได้ครับ

ดังนั้นเราจึงไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิดที่ได้ทานของหวานจานโปรดหรือคำนวณแคลอรี่กันอย่างซีเรียส

ผมเองก็ชอบทานชีสเค้กมากครับ แต่ก็ไม่มีพุงนะครับ   555

ขอเสริมความเข้าใจในเรื่องการเผาผลาญอีกนิดครับว่า

การออกกำลังกายแบบ burn เช่นเดิน-วิ่ง ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน จะช่วยเผาผลาญได้แต่เฉพาะในช่วงที่ทำอยู่เท่านั้น

แต่การยกน้ำหนักซึ่งเพิ่มมวลกล้ามเนื้อให้หนาแน่น(กระชับ)และแข็งแรงขึ้น จะช่วยเผาผลาญได้ตลอดเวลา 24 ชม.

นอกจากนี้ยังช่วยเสริมมวลกระดูกให้หนาแน่นขึ้นอีกด้วย(เพราะเป็น weight bearing)

ด้วยเหตุนี้ในต่างประเทศทั้งชาย-หญิงจึงหันมาฝึกยกน้ำหนักควบคู่ไปกับการ burn ด้วย

ในขณะที่ชาวไทยยังไม่เห็นความจำเป็นและสาวๆก็กลัวจะมีกล้ามกัน

สรุปคือ ผู้ที่ burn ต้องระวังเรื่องนับแคลอรี่มากกว่าผู้ที่ทำทั้งสองอย่างครับ

ผู้สนใจทราบรายละเอียดเพิ่มสามารถหาอ่านได้ฟรีในเวบนี้นะครับ

http://www.greenlifefitness.net/

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท