หนังสือดีที่ชวนอ่าน ตอน 3 : สวยร้อยเมตร


เรื่องใกล้ตัวเช่นนี้ เราทุกคนก็รู้จนลืมแล้ว แต่ก็เผลอไปกับวิธีคิดที่ติดลบอย่างลืมตัว สวยร้อยเมตร... จึงเป็นอีกเรื่องราวที่ช่วยสะกิดให้เรากลับสู่ภวังค์ของความมีสติ...และเกิดปัญญา เพื่อความสุขกาย สบายใจ และเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันอย่างเห็นธรรม

หนังสือดีที่ชวนอ่าน ตอน 3 : สวยร้อยเมตร

           หนังสือ “ กุญแจใจ ... Key to your heart” เคล็ดวิธีน้อมเข้าหาตน เพื่อเปิดดูใจ ผู้เขียนคือ สิริมตี นิมมานเหมินท์ เป็นหนังสือที่ถูกอกถูกใจดิฉันเป็นอย่างยิ่ง ผู้มอบให้ด้วยความรักและปรารถนาดี คืออาจารย์แพทย์หญิงนันทา อ่วมกุล เป็นหนังสือดีที่ชวนอ่านเล่มถัดไปที่ขออนุญาตแนะนำค่ะ เป็นหนังสือธรรมะที่อ่านเพลินและเสริมสติปัญญา แม้ผู้ที่ไม่เคยสนใจธรรมะมาก่อนก็น่าจะได้ประโยชน์เช่นกัน ไม่มากก็น้อย การใช้ภาษาที่อ่านง่ายน่าจะเหมาะกับคนทุกเพศทุกวัย คุณหญิงสุมณฑา พรหมบุญ ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิวัฏธรรม กล่าวในคำนิยมของหนังสือเล่มนี้ ซึ่งดิฉันก็มีความเห็นคล้อยตามด้วย เพราะเหตุที่สามารถได้รวดเดียวจบอย่างสนุกสนานในวันเดียว

         คุณสิริมตี นิมมานเหมินท์ ผู้เขียนจบการศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาโยธา สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินทรแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และศึกษาต่อปริญญาโทด้านเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อม ที่อิมพีเรียลคอลเลจ มหาวิทยาลัยลอนดอน ประเทศอังกฤษ

       “กุญแจใจ” เป็นผลงานเล่มแรกของเธอที่เขียนขึ้นจากประสบการณ์ที่ได้ฝึกคิดตามหลักความเป็นจริง หรือที่เรียกว่า การปฏิบัติธรรมแนวปัญญา ดิฉันเห็นว่า มีเนื้อหาน่าสนใจอ่านได้สาระและสุขใจ จึงหยิบมาเขียนเชิญชวนทุกท่านอ่านอีกเล่มหนึ่งค่ะ

                หนังสือเล่มนี้มีทั้งหมด 208 หน้า ขนาดประมาณ เอ5 กระมัง รูปภาพประกอบน่ารักที่จะนำมาเสนอในบทความฉบับนี้ ได้เลือกมา 1 หัวเรื่อง เรื่อง “สวยร้อยเมตร” โดยคัดย่อมาเขียนให้อ่านกัน ผู้สนใจอ่านฉบับเต็มได้จากหนังสือ กุญแจใจ สำนักพิมพ์อมรินทร์ พิมพ์ครั้งที่3 สิงหาคม 2549 หน้า 133 – 135 สวยร้อยเมตร ผู้เขียนเล่าในขณะเดินทางไปพร้อมญาติธรรมเพื่อขึ้นไปปฏิบัติธรรมที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมเคพีวายที่ตั้งอยู่บนเขา [KPY Biddhist Monastery(U.S.A.)] ว่า

         ... เนื้อที่ของศูนย์เคพีวายคลอบคลุมเขาเตี้ยๆหลายลูกด้วยกัน เราจะออกเดินป่าเพื่อหาอุบายธรรมจากเขาลูกหนึ่งไปเขาอีกลูกหนึ่งเป็นประจำทุกวัน วันหนึ่งขณะที่นั่งอยู่บนภูเขาลูกหนึ่ง มองไปเห็นเขาอีกลูกมีหญ้าขึ้นเขียวขจี น่าวิ่งเล่นมาก ดูแล้วต่างจากเขาลูกที่เรานั่งอยู่ซึ่งมีพื้นหญ้าทั้งหยาบและเป็นบ่ออย่างสิ้นเชิง ฉันจึงชวนที่ไปด้วยกันเดินต่อไปยังเขาลูกที่เห็นตรงหน้า เมื่อไปถึงเขาลูกนั้น พยายามหาว่าที่เราเห็นหญ้าเขียวๆเรียบๆอยู่บริเวณไหน แต่ก็หาไม่เจอ สิ่งที่เห็นไม่ต่างจากเขาลูกที่เราจากมาเลย หญ้าก็หยาบและขรุขระเหมือนกัน ตรงข้ามกับภาพที่เราเห็นจากระยะไกลอย่างสิ้นเชิง ฉันได้ฉุกคิดว่า สิ่งที่ฉันเห็นจะสะท้อนความจริงมากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับระยะที่ฉันมอง ถ้ามองจากระยะที่ไกล ภาพที่เห็นก็ขาดความชัดเจนคลุมเครือจนทำให้เข้าใจคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง และคิดไปว่าสิ่งที่เห็นไกลๆนั้นดีกว่า น่าสัมผัสมากกว่าสิ่งที่มีอยู่ ทั้งที่เมื่อเข้าไปอยู่ใกล้ๆก็ไม่ต่างกัน ฉันได้เห็นตัวเองว่า ฉันเองเคยหลงกลภาพระยะไกลที่ไม่ใช่ความจริงอย่างนี้มาแล้วหลายต่อหลายเรื่อง แต่ก็ยังรู้ไม่ทันจนวันนี้ ยกตัวอย่างเช่น ... ... หลายครั้งที่ฉันตัดสินคนจากการได้คุยกับเขาเพียงไม่กี่ครั้ง และปักใจว่าเขาเป็นคนอย่างที่ฉันคิดจริงๆ เมื่อได้เรียนรู้ ทำความรู้จักกันมากขึ้น กลับพบว่าเขาไม่เป็นอย่างที่ฉันคิดไว้แต่แรก บางครั้งเขาก็ดีกว่าที่คิด แต่บางครั้งก็ไม่เป็นอย่างนั้น เมื่อได้เห็นพฤติกรรมที่ไม่คาดคิดทำให้ฉันผิดหวัง ไม่พอใจ หรือบางครั้งก็เกลียดเขาไปเลย เพราะใจปักหลักเชื่อสิ่งที่เห็นรางๆในตอนแรกไปเสียสนิทแล้ว ถึงตอนนี้ฉันได้รู้แล้วว่า ฉันไม่สามารถตัดสินใครได้เลย เพราะเพียงการพูดคุยทำให้ฉันได้รู้จักคนคนนั้นเพียงบางส่วนของเขา ซึ่งก็ยังสามารถเปลี่ยนแปลงได้อีกตามกาลเวลา แม้แต่ฉันเองก็ยังเปลี่ยน การอ่านข่าวหรือรับฟังข่าวสารก็เช่นกัน หลายครั้งที่ฉันเผลอเชื่อเสียสนิทใจ โดยไม่ได้พิจารณาไตร่ตรองเสียก่อนว่า สิ่งที่ได้รับรู้นั้นน่าเชื่อถือเพียงใด จริงๆแล้วไม่มีทางที่ใครจะสามารถถ่ายทอดทุกรายละเอียดของสิ่งที่เกิดขึ้นได้โดยผ่านตัวหนังสือหรือคำพูด ต้องตระหนักถึงความจริงข้อนี้เพื่อไม่ให้เป็นคนงมงาย ฉะนั้น อย่าปักใจเชื่ออะไรง่ายๆ ต้องศึกษาให้ดี ใช้ปัญญาไตร่ตรองอย่างรอบคอบ อย่างมีเหตุมีผล แยกแยะให้ออกว่า อะไรคือความจริง อะไรคือภาพลวงตา โดยใช้สิ่งที่พบเห็นมาในอดีตทั้งของตัวเองและของคนอื่นมาเป็นหลักฐาน

           ความเห็นส่วนตัวของดิฉัน ... เรื่องใกล้ตัวเช่นนี้ เราทุกคนก็รู้จนลืมแล้ว แต่ก็เผลอไปกับวิธีคิดที่ติดลบอย่างลืมตัว สวยร้อยเมตร... จึงเป็นอีกเรื่องราวที่ช่วยสะกิดให้เรากลับสู่ภวังค์ของความมีสติ...และเกิดปัญญา เพื่อความสุขกาย สบายใจ และเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันอย่างเห็นธรรม .....................................

หมายเลขบันทึก: 56436เขียนเมื่อ 30 ตุลาคม 2006 14:30 น. ()แก้ไขเมื่อ 9 มิถุนายน 2012 10:02 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท