วันนี้ก่อนนอนเปิดทีวีช่องประจำคือ food network ไปเจอรายการชื่อ honey we're killing the kids ของ BBC ประเทศอังกฤษ
น่าสนใจเลยมาบอกต่อค่ะ
(ภาพจาก http://www.bbc.co.uk/health/tv_and_radio/honey/)
(ภาพจาก http://www.bbc.co.uk/health/tv_and_radio/honey/series1honey_hammonds.shtml )
วันนี้เป็นเรื่องราวของครอบครัวแฮมมอนด์ที่ ลูกสองคน ดูทีวี อาทิตย์ละ 24 ชม. นอนไม่พอ พ่อแม่เองเหนื่อยมาจากที่ทำงาน ไม่ทำกับข้าว ซื้ออาหารที่มีแป้ง น้ำตาล ไขมัน เกลือสูงเข้าบ้านตลอด นอกจากนั้นพ่อแม่ทั้งคู่ยังสูบบุหรี่หนัก ไม่คู่อยมีกิจกรรมกับลูกนอกจากนั่งนอนดูทีวีกับลูกในห้องนั่งเล่น หรือไม่ก็ปล่อยให้ลูกอยู่กับทีวี และ วีดีโอเกมส์ในห้องนอน ลูกๆก็กินขนมถุง ขนมหวาน ตลอดวัน แม้กระทั้งเวลาก่อนนอน
_________________________________
รายการนี้ให้ลูกทั้งสองคนมาตรวจสุขภาพ วัดผลการเรียนรู้ วัดสมาธิ (attention span) และ ทดสอบสมรรถภาพ
ผลการทดสอบทุกอย่างถูกนำไปแปลเป็นรูปภาพกราฟฟิก ว่า ถ้าทั้งครอบครัวยังมีพฤติกรรมแบบนี้ เด็กสองคนนี้จะหน้้าตาเป็นอย่างไรตอนอายุ 40
แบรดลี่ ตอน 10 ขวบ กับภาพทำนายแบรดลี่ตอนอายุ 40 ปี
โจ ตอน 5 ขวบ กับภาพทำนายโจตอนอายุ 40 ปี
รูปนี้ทางรายการให้พ่อกับแม่ดู (เด็กไม่ได้เห็นค่ะ) ฉายภาพสาดเข้ากำแพง รูปเบ่อเริ่มเฮิ่ม เต็มจอ พ่อแม่เด็กก็อึ้งกิมกี่ไปเลยค่ะ
รูปนี้ก็เป็นเครื่องมือใช้เป็นแรงจูงใจ (แบบลบ)ให้พ่อแม่เปลี่ยนพฤติกรรมเสี่ยงต่างๆ
จากนั้นพิธิกรค่อยบอกว่านอกจากจะหน้าตาแบบนี้แล้วยังเสี่ยงเป็นโรคอะไรบ้าง จะมีผลต่อการเรียนรู้ยังไง จะมีอายุยืนประมาณกี่ปี ฯลฯ
พอปิดเครื่องฉายสไลด์ พิธีกรก็เรียกน้องสองคนนี้เข้ามาในห้องด้วย มาคุยกันทั้งครอบครัวว่าเราควรจะทำอย่างไรกันต่อไปดี
ก็มีกฎ (golden rules) แค่ 3 ข้อ คือ
_________________________________
รายการนี้ก็สอนและติดตามผลเป็นรายอาทิตย์ว่าดีขึ้นไม๊ สิ่งที่น่าสนใจคือนิสัยที่ดูเหมือนจะแก้ยาก บางอย่างไม่ยากอย่างที่คิด เช่น การทำให้เข้านอนเป็นเวลา นั้นแค่ให้แม่อ่านหนังสือก่อนนอนให้ลูกฟัง วันแรกใช้เวลาครึ่งชม.ก็หลับ วันต่อๆมาก็ใช้เวลาน้อยลง แถมแม่ได้ใช้เวลาอยู่กับลูกมากขึ้นด้วย
เรื่องดูทีวีให้น้อยลง ก็เหมือนจะยาก แต่เด็กไม่ได้ติดทีวีเท่าที่คิด เค้าแค่ไม่มีอย่างอื่นทำมากกว่า ทางรายการแนะนำว่าให้ลองเปลี่ยนเป็นอ่านหนังสือมั่ง โดยไม่ใช่หาหนังสือมาให้อ่านที่บ้าน แต่ทางรายการแนะนำให้พ่อแม่พาลูกไปห้องสมุดสาธารณะแล้วไปอ่านด้วยกัน (ก็เป็นการสร้างกิจกรรมร่วมกันอีกแบบหนึ่ง)
_________________________________
3 อาทิตย์ผ่านไป แม่พาโจไปว่ายน้ำ พ่อพาแบรดลี่ไปเดินในสวนสาธารณะ แทนที่พ่อกับแม่จะเลิกงานแล้วก็กลับมากินข้าว ล้างจาน แล้วก็นั่งพักบนโซฟา สูบบุหรี่ดูทีวีจนถึงเวลานอน การ "ทำเพื่อลูก" ก็เปลี่ยนพฤติกรรมพ่อแม่ไปได้ด้วย
_________________________________
พอครบ 3 อาทิตย์ พิธีกรก็เรียกพ่อกับแม่เข้ามาอีกที โดยการให้กำลังใจ ให้ reinforcement ทางบวก โดยการนำรูปของน้องสองคนแบบ หล่อๆมาให้ดูมั่ง ว่าถ้าสามารถคงนิสัยใหม่ๆเหล่านี้ได้นั้น น้องสองคนขดหน้าตาแบบนี้ .... พ่อแม่อมยิ้มกันใหญ่เลยค่ะ
_________________________________
ครูอ้อยอยู่ที่โรงเรียนก็เคยถามนักเรียน
สอดแทรกให้ข้อคิดให้เขาได้เปรียบเทียบสิ่งใด และไม่ดี สิ่งใดควรปฏิบัติและสิ่งใดไม่ควรปฏิบัติ
แต่นักเรียนก็อยู่กับครูอ้อยวันละไม่กี่ชั่วโมงเองค่ะ
ครูอ้อยเร็วมากค่ะ ยังuploadบันทึก อันที่แก้แล้วไม่เสร็จเลย ครูอ้อยก็แวะมาทักทายแล้ว : )
ขอบคุณมากค่ะ ใช่เลยค่ะ เวลาที่เด็กไม่ได้อยู่โรงเรียนก็มีความสำคัญมากมาย
นี้ตอนเปิดทีวี ว่าจะดูรายการทำกับข้าวแป๊บๆแล้วเข้านอน ดันมาเจอรายการนี้ เลยดูไป เขียนบันทึกนี้ไป ไม่ได้นอนซักที เริ่มง่วงแล้วค่ะ : P
ขอตัวไปนอนก่อนนะคะ ราตีสวัสดิ์ค่ะ : )
เป็นรายการที่น่าสนใจมากครับ..ให้เห็นรูปภาพแบบนี้ มีผลอย่างมากในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
เพราะหลายครั้งที่เราให้ สุขศึกษา แต่ไม่ประสบความสำเร็จ ต้องหาวิธีการรณรงค์ต่างๆเพื่อให้กลุ่มเป้าหมายตระหนัก
ให้เห็นโลงศพก่อนดีกว่าครับ จะได้หลั่งน้ำตาคิดที่จะแก้ไข ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพจริงๆจังๆเสียที
ขอบคุณบันทึกดีๆนะครับผม
อาจารย์คะ
ขอบคุณสำหรับบันทึกนี้ มีประโยชน์มาก จะไปต่อยอดในการสร้างเสริมสุขภาพของบุคลากรของคณะค่ะ
ยินดีค่ะ ขอบคุณทุกคนเลยค่ะ ที่แวะมา
ยิ่งถ้าช่วยกันนำไปต่อยอด ยิ่งน่าดีใจใหญ่เลยค่ะ
กฎ (golden rules)
******************
ข้อสุดท้าย หญิงไทยมักไม่สูบบุหรี่(หนัก)
เชียร์อีกให้เขียนส่งนิตยสาร (เผยแพร่)
ข้อสุดท้ายเปลี่ยนเป็นเล่นกีฬา หรือ ทำกิจกรรมร่วมกันทั้งครอบครัวสักอย่างที่มีประโยชน์ ;P
สวัสดีค่ะ
เพิ่งเริ่มเข้ามาอ่านค่ะ ดีมากเลยค่ะ ต้องติดตามตอนต่อไปแล้วหล่ะ มีประโยชน์ค่ะ บางครั้งเราก็ลืมให้เวลากับเด็ก เข้ามาอ่านแล้วทำให้ต้องสนใจเขาให้มากขึ้น
ขอบคุณนะคะสำหรับข้อมูลดี ดี