วันนี้เราเดินทางมาถึงวันสุดท้ายของสัปดาห์ที่ 5 แล้วซินะ
โจทย์กระโจนเข้ามาให้ได้ทำ ต้ังแต่เย็นวันอาทิตย์ ถามใจหนักไหม หนักอยู่นะ
ขณะที่รับรู้เหตุการณ์ ทำได้เพียง ฟัง จิตมันเข้าที่ ลมหายใจ กายไม่ขยับ (แบบเข้าไปอยู่ที่safe zone)
แต่พอรุ่งเช้าออกมา รู้สึก เจ็บทุกขข์อยู่ภายในพยายามดิ้นรน
คิดว่า เต็มที่ แม้จะรู้ว่า ไม่ดีพอ การเผชิญหน้า ด้วยความอดทน ที่มีสติ มาเพียงเป็นช่วง ๆ ส่วนปัญญานั้น ไม่ค่อยจะเกิดสักเท่าไหร่
ก็ยังแค่แก้ไขเป็นอย่างๆไป แต่ก็พอมองเห็นทางรำไรในความมืดมัว
ใจหนึ่งก็สมน้ำหน้าตัวเอง ครูชี้ทางให้ฝึกมาตั้งนาน เป็นไงหล่ะ
เจอของจริงเข้าไป หงายเก๋ง
ทุกๆเช้าที่เห็นข้อความจากครู ใจก็รู้สึกปีติ ซึ้งใจ ในความเมตตาของท่าน
วันอังคารกับวันพุธ เห็นท่าจะไม่ไหว ไปวิ่งขอกำลังจากปฏิปทาที่ครูชี้ทางมาตลอด ตั้งใจขอกำลังใจ เสริมสติ สร้างพลัง
มันง่ายที่คนเราจุทำผิดซ้ำ ๆ กับความเคยชินเก่า ๆ
แต่เป็นความกล้าหาญที่ยอมรับและกล้าก้าวเดินออกมาจากมัน
หนูเองยังผุดๆ โผล่ ๆ แต่ก็ได้ครูคอยเมตตา
ครั้งนี้คือการ ลุกขึ้นมา ก้าวออกจากความเคยชินเน่า ๆ ด้วยเดิมพันของชีวิต ของตนเองและคนที่เรารัก
จะหาญกล้าแค่ไหน ตอบไม่ได้เลย
เพราะที่ผ่านมาพิสูจน์แล้วว่า กระจอก
แค่โจทย์ที่ครูให้ ก็ทำไม่ได้สำเร็จสมบูรณ์
แต่ครั้งนี้ หนูหมดเวลา เล่นซ่อนแอบ ถึงเวลาที่ที่ต้องแลก
ก็มีแค่ได้ กับ......ก็เท่านั้นเอง
เขียนไปเจียนมาไม่ใช่บันทึกสรุป แต่เขียนระบายความในใจ กราบขออภัย
เพราะความรู้สึกในใจ ยังทำได้แค่ อดทน หายใจ จนให้รอยยิ้มเกิดแต่ภายในก็เท่านั้นเอง
เป็นการ เติมพลังกันตายไปเป็นครั้งคราว
_ภาพประกอบจากFacebook
ภาพน่ารักมากค่ะ