ชีวิตที่พอเพียง : ๒๐๕๙. เที่ยว ริโอ เดอ จาเนโร


 

          ผมบอกกับคณะ ๘ คน ที่ไปด้วยกัน ตอนใกล้ค่ำวันที่ ๗ พ.ย. ๕๖    ว่าพวกเราเป็นคณะพิเศษ ที่ได้ท่องเที่ยวแบบนี้    คือไปขึ้นเขา Corcovado หวังไปไหว้รูปปั้นพระเยซู ที่ยืนต้อนรับอาคันตุกะ หันหน้าไปทางเมืองและปากอ่าว    กว่าทางเจ้าหน้าที่โรงแรม Linx จะหาแท็กซี่ ๒ คัน ให้เราได้ และออกเดินทาง ก็ปาเข้าไปราว ๕โมงครึ่งตอนเย็นแล้ว    แถมยังฝนพรำและมีหมอกบนยอดเขาอีกด้วย    แต่เจ้าหน้าที่โรงแรมก็ยังให้ความหวังว่า    บางทีเห็นหมอกคลุมยอดเขา    แต่พอขึ้นไปบนเขาฟ้าใสก็ได้    เราไปด้วยวิญญาณนักสู้ หัวหน้าทีม (. วิม) ว่าไป ผมก็ไป

          รถแท็กซี่ขนาดบ้านเรา เป็นฮอนด้าซีวิคทั้งคู่    คนขับรถคันผมพูดภาษาอังกฤษได้สองสามคำ    คนขับคันหลังพูดไม่ได้เลย ขับตามคันหน้าลูกเดียว    แล่นผ่านถนนข้างละ ๓ - ๔ เลนแบบบ้านเราบ้าง    เข้าไปในเมืองถนน ๒ เลนบ้าง มุ่งหน้าไปยังภูเขา Corcovado   ระหว่างทางฝนพรำตลอด และบางช่วงแล่นเลียบบริเวณสลัมกว้างใหญ่    ริโอ เป็นเมืองที่มีสลัมมากและอาชญากรรมสูง    บนถนนที่คล้ายๆ ทางด่วนบ้านเรา มีคนผู้ชายอายุราว ๓๐ ขึ้น แบกถุงขายของเป็นระยะๆ    ที่ทำอาชีพนี้ได้เพราะรถติด    เมื่อรถผ่านสถานที่สำคัญๆ คนขับก็ชี้ให้ดู เช่นสเตเดี้ยมของทีมฟุตบอลล์

          เขาพาไปตรงสถานีรถไฟขึ้นเขา    ก็เวลามันเลย ๑๘.๓๐ น. ซึ่งรถไฟปิดแล้ว    เขาน่าจะรู้   จึงต้องต่อโทรศัพท์ ให้เราพูดกับเจ้าหน้าที่โรงแรม ซึ่งจะบอกความต้องการกับโชเฟอร์ เป็นภาษาปอร์ตุเกศ อีกต่อหนึ่ง    เขาจึงขับรถพาเราขึ้นเขา Corcovado  ซึ่งมีทางรถไฟขึ้น และยังมีรถบัสประจำทางด้วย    ระหว่างทางมีต้นไม้ร่มครึ้ม    ส่วนใหญ่มีหมอกหนา  แต่ช่วงหนึ่งบนเขาที่สูงขึ้นไปมากแล้วฟ้าใส ไม่มีหมอก แต่ก็เกือบมืดแล้ว

          เขาพาเราไปถึงจุดหนึ่ง ที่มีเจ้าหน้าที่ยืนอยู่ ส่งภาษาปอร์ตุกีสกัน แล้วโชเฟอร์บอกเราว่า I am sorry  แปลว่าไปต่อไปไม่ได้ ห้ามไป    เราลงไปชมบรรยากาศท่ามกลางฝนพรำ อากาศเย็น และค่ำมืด    ผมเตร่ไปอ่านและถ่ายภาพป้ายนำเที่ยว ที่บอกว่าที่นี่เป็นส่วนหนึ่งของ Tijuca National Park   มีถนนวงแหวนให้ขับรถชมป่าชมไม้ได้

          เราอยากชมชายหาด โชเฟอร์จึงพาไปที่ชายหาดแห่งหนึ่ง    ที่มีร้านขายของ และร้านอาหาร    แต่บรรยากาศก็ไม่อำนวย เพราะฝนตกพรำๆ อยู่ตลอดเวลา    ตอนนั้นทุ่มเศษๆ แล้ว    เราไปเดินชมอยู่ห่างๆ    ไม่ได้ลงไปเดินที่หาดทราย 

          กลับถึงโรงแรม ๓ ทุ่ม   ระหว่างนั่งรถขากลับครึ่งชั่วโมงเศษ ผมหลับไปตลอดทาง ด้วยความง่วง    เพราะเป็นเวลาเกือบสว่างแล้ว ในเวลาไทย

          ส่วนที่ให้ความสดชี่นคือเช้าวันรุ่งขึ้น    หลังจากนอนหลับสนิท ๖ ชั่วโมง ที่ห้อง 603 ของโรงแรม Linx ข้างสนามบิน   ผมก็ตื่นเองเวลา 4.30 น.   นั่งอ่านและตอบ อีเมล์ จน ๖ โมงเช้าก็สว่าง และอากาศดีสุดยอด    ไม่มีฝน    จึงออกไปวิ่ง ชมวิว และถ่ายรูป    โดย อ. ภิเศก และ อ. วิม ก็ออกไปวิ่งด้วยกัน    แต่ผมวิ่งคนเดียว เพราะผมไถลถ่ายรูปบ่อย     สิ่งที่ติดใจคือต้นปาล์ม เขาปลูกได้งามจริงๆ     

 

วิจารณ์ พานิช

๘ พ.ย. ๕๖

 

 

บนถนนที่คล้ายๆ ทางด่วนของเรา มีคนเดินขายของ

 

 ศิลปะบนแผงกั้นถนน

 

 นั่งรถขึ้นเขาไปได้แค่นี้

 

 

ถ้าเป็นช่วงกลางวันและฝนไม่ตก รถคงจะแล่นเข้าไปทางนี้ได้

 

 

แวะถ่ายรูปเมืองและอ่าว

 

 

ภาพซูม

 

 

ชายหาดริโอ

 

 

ปราสาททราย และบรรยากาศริมหาดตอนค่ำ

 

ลู่วิ่งตอนเช้าของผม

 

 

แล้วลงไปวิ่งในสวน

 

 

ลู่วิ่งที่งดงาม

 

 

ต้นปาล์มที่สมบูรณ์และขนาดกำลังงาม

 

 

คอปาล์มที่งดงาม

 

 ไม้ป่า

 

 ต้นไม้ที่เต็มไปด้วยกาฝาก

 

 กาฝาก

 

 

ผลไม้หลากชนิดในอาหารเช้าของโรงแรม  สีแดงตรงกลางเป็นฝรั่งชนิดหนึ่ง

 

 

 

 

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 556822เขียนเมื่อ 19 ธันวาคม 2013 11:46 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 ธันวาคม 2013 13:19 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท