วันนี้(11/12/13)เป็นช่วงเวลาเหมาะสมที่จะเก็บเกี่ยวผลผลิต ปลูกชีวิตลูกชาวนา ให้มองเห็นคุณค่าในอาชีพที่เป็นกระดูกสันหลังของชาติ
10.00 น. นักเรียน ป.5 และ ป.6 พร้อมกันที่แปลงนาผืนเดิมที่เราได้เกี่ยวข้าวเมื่อวันพ่อแห่งชาติที่ผ่านมา
"นักเรียนครับ วันนี้เราจะมามัดฟ่อนข้าว แบกข้าว ตีข้าว กรอกข้างใส่ถุง นักเรียนจะได้เรียนรู้ ฝึกลงมือทำ วิธีการขั้นตอนการเก็บผลผลิต การทำงานเพื่อให้ได้เมล็ดข้าวเปลือก เราจะได้รู้ว่าเมื่อก่อนพ่อ แม่ ตา ยาย ของเราๆ ท่านทำนาอย่างไร เมื่อสมัยนั้นไม่มีเครื่องทุ่นแรงที่ทันสมัย ทุกคนตั้งใจฟังให้เข้าใจ ตั้งใจลงมือทำจริงนะ" ครูร่ายซะยาวเลย
จากนั้นสาธิตการมัดฟ่อนข้าว และให้นักเรียนทุกคนลงมือทำด้วยตนเอง มีนักเรียนชั้นอื่นๆมาดูกิจกรรมนี้ด้วย เพื่อนคนอื่นทำเองได้ แต่นักเรียน ป.5 คนหนึ่งยืนหันซ้ายแลขวา คล้ายไม่มั่นใจ สักพักเห็น ครูอ้อ อรทัย (ญาติห่างๆต่าย อรทัย 55) ลงมาช่วยมัดฟ่อนข้าวจึงสำเร็จ นักเรียนลงมือทำด้วยความตั้งใจและสนุกสนาน
เมื่อได้ฟ่อนข้าวให้นักเรียนช่วยกันนับจำนวนฟ่อนข้าว ได้ทั้งหมด 24 ฟ่อน นักเรียนช่วยกันแบกไปกองรวมกัน ครูอธิบายการทำลานกองข้าวของชาวนาเมื่อสมัยก่อน ลองตั้งคำถามเด็กๆว่าลานตากข้าวมีลักษณะคล้ายอะไร นักเรียนตอบ"ลานปูนครับ"(ก็สมัยนี้ตากข้าวบนลานปูนหลังจากใช้รถเกี่ยว) นักเรียนเปรียบเทียบได้ดี แต่สมัยก่อนเขาดายหญ้าจนเตียนแล้วใช้มูลวัว มูลควาย ผสมน้ำแล้วราดให้ทั่วลานดินตรงนั้น เมื่อแห้งก็จะได้ลานตากข้าวที่สวยงาม คล้ายลานปูนที่นักเรียนตอบนั่นแหละ
ครูสาธิตการตีข้าว ที่ได้ไม้ตีข้าวจากบ้านเกิดเมืองนอนของครูเอง คุณพ่อของครูวัย 71 ปี ช่วยทำให้ เมื่อสาธิตให้ดูแล้ว ให้นักเรียนลงมือทำเอง จนครบทุกคน แล้วช่วยกันทำความสะอาดกองข้าวเปลือกก่อนบรรจุลงถุง ได้ 1 ถุงปุ๋ย ราวๆ 30 กิโลกรัม จากเมล็ดพันธุ์ที่ใช้เพียง 200 กรัม ในพื้นที่ราว 120 ตารางเมตร(30 ตารางวา)
ครูค่ะ ข้าวเปลือกนี้เราจะเอาไปไหนค่ะ เราจะเอาไปสีเป็นข้าวสารครับ เด็กๆ ทำหน้า งงๆ อ้าว สีที่ไหนครับ เราไม่มีเครื่องสีข้าว มีซิ เรามีนางฟ้าใจดี ที่จะบริจาคเครื่องสีข้าวให้ 55 (รอความหวังจากยายธีนะครับ คิดในใจ)
ดีจังเลยค่ะนักเรียนมีข้าวกินแล้วหำเองด้วย
... ชอบเช่นกันค่ะ
ดีจังเลย ทักษะชีวิตเต็มร้อย
สุดยอดครูโรงเรียนบ้านหนองผือค่ะ