ดิฉันเชื่อว่า...ทุกคนต้องมีบ้านเป็นของตัวเอง แต่เนื่องด้วยภาระหน้าที่ ทั้งการงาน หรือการเรียน ทำให้หลาย ๆ คนต้องอยู่ห่างไกลจากบ้านของตัวเอง เพื่อไปทำหน้าที่ ที่เป็นความหวังหรือความฝันของแต่ละคน แล้วจะมีซักกี่คนที่จะได้กลับบ้านบ่อย ๆ บางคนปีละครั้ง บางคน 4-5 ปีครั้ง หรือบางคนเป็น 10 ปี กว่าจะได้กลับบ้านซักครั้ง ซึ่งตัวดิฉันเองก็ยังโชคดีที่ได้กลับบ้าน 2-3 เดือนครั้ง เพราะบ้านดิฉันต้องใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง การกลับบ้านแต่ละครั้ง ดิฉันจะมีความสุขมาก เพราะตั้งแต่ก้าวเท้าเข้าบ้านก็จะได้รับการสวมกอดจากแม่ และพ่อ และคำถามที่ได้ยินตลอดคือ "กินอยู่ีดีมั้ย ผอมลงหรือเปล่า" จากนั้นแม่ก็จะทำแต่อาหารที่ดิฉันชอบ การกินข้าวด้วยกันอย่างพร้อมหน้า ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนกัน มันทำให้อาหารมื้อนั้นวิเศษที่สุด การกลับบ้านทำให้ดิฉันหลับได้สนิทที่สุด เพราะบ้านเป็นที่ที่ปลอดภัยเสมอ การได้ดูแลพ่อแม่ เป็นสิ่งที่ดิฉันทำตลอดเมื่อกลับบ้าน ทั้งช่วยทำงานบ้านต่าง ๆ ช่วยบีบนวด ช่วยจัดยาที่ท่านต้องกินประจำ ช่วยถอนหงอกให้แม่ (เพราะท่านไม่อยากแก่) สิ่งเหล่านี้ดิฉันมีความสุขทุกครั้งที่ได้ทำ ถึงจะได้กลับบ้านแค่ 3-4 วันก็ตาม
ดิฉันก็อยากให้ทุก ๆ คนได้กลับบ้านบ้าง การงาน หรือ เงิน เป็นเรื่องสำคัญ แต่บ้านที่มีครอบครัวรอคอยก็สำคัญเช่นกัน สำหรับคนที่ไม่เคยกลับบ้านเลย ลองกลับไปซักครั้ง คุณจะรู้ว่าบ้านจะมอบแต่ความสุขให้คุณ...
สังคมสมัยใหม่..ทำให้ "คน..ขาดบ้าน"
สวัสดีค่ะ คุณศุภลักษณ์ ศุภผลา
คนบ้านใกล้บางทีก็อยากกลับบ้านแต่ติดตรงที่ภาระหน้าที่เหมือนกัน เป็นกำลังใจให้คนบ้านไกลนะคะ สู้ ๆ
ขอบคุณมากค่ะ
สวัสดีครับ คุณ ศุภลักษณ์ ศุภผลา
เป็นเรื่องราวที่ประทับใจมากครับ
ขอบคุณมากครับ
สวัสดีค่ะ คุณ สาโรจน์ ตาหน้อย
ขอบคุณที่มาให้กำลังใจ และเยี่ยมชมบันทึกนะค่ะ