แสวงหาความร่วมมือที่เวียดนาม (1)

วันที่ 17 พฤศจิกายน 2556

ระหว่างวันที่ 17-23 พฤศจิกายน 2556 รศ.ดร.อมรา ช้างทรัพย์ รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ รศ.ดร.สมนึก เอื้อจิระพงษ์พันธ์ คณบดีสำนักวิชาการจัดการ และดิฉันได้ร่วมเดินทางไปกับคณะของชาวสำนักวิชาศิลปศาสตร์ซึ่งนำโดยอาจารย์ ดร.เลิศชาย ศิริชัย คณบดี อาจารย์ ดร.เกษวดี กุหลาบแก้ว และอาจารย์เหงียน ทิ เจียม อาจารย์ประจำหลักสูตรอาเซียนศึกษา ที่จะไปลงนามทำความร่วมมือกับมหาวิทยาลัย Dong Thap และ Hai Phong เพื่อแสวงหาโอกาสที่จะทำความร่วมมือเพิ่มเติมในสาขาวิชาพยาบาลศาสตร์และสาขาวิชาอื่นด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ อาจารย์เจียมได้ติดต่อสถาบันที่มีโรงเรียนพยาบาลคือ University of Medicine and Pharmacy ที่ Ho Chi Minh และ University of Medicine ที่เมือง Hai Phong ไว้

เรา 4 คนคืออาจารย์อมรา อาจารย์เลิศชาย อาจารย์สมนึก และดิฉัน เดินทางจากเมืองไทยตอนเย็นวันอาทิตย์ที่ 17 พฤศจิกายน 2556 โดยการบินไทยเที่ยวบิน TG 556 ออกจากสนามบินสุวรรณภูมิใกล้ๆ 17.30 น. ใช้เวลาบินประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าเล็กน้อยก็ถึงสนามบินที่ Ho Chi Minh ช่วงนี้มืดเร็ว กว่าเครื่องบินจะออกก็มืดแล้ว เที่ยวบินนี้มีผู้โดยสารเกือบเต็ม เป็นชาวเวียดนามหนุ่มสาวจำนวนมาก มีฝรั่งอยู่บ้าง บนเครื่องมีบริการอาหารว่าง เนื่องจากในระบบข้อมูลของสมาชิกดิฉันใส่ข้อมูลไว้ว่าชอบอาหารทะเล เลยได้กินปลาแซลมอนรมควันกับสลัดมันฝรั่ง ของหวานเป็นขนมหม้อแกง น้ำผลไม้รวม และขอน้ำชาอีก 1 แก้ว

ใกล้ถึง Ho Chi Minh เครื่องบินตกหลุมอากาศเล็กน้อย ผู้โดยสารส่งเสียงร้องกันพอประมาณ

สนามบินใหญ่โตพอควร เราใช้เวลาที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองครู่หนึ่ง เจ้าหน้าที่ที่นี่ไม่พูดไม่ยิ้มเลย เอากระเป๋าเสร็จก็ออกไปเจออาจารย์เกษวดีและอาจารย์เจียม ซึ่งเดินทางมาก่อนหน้าเราประมาณชั่วโมงกว่าด้วยสายการบินแอร์เอเซีย เรานั่งแท๊กซี่ 2 คัน ไปโรงแรมที่อาจารย์เจียมติดต่อไว้ อาจารย์อมรา ดิฉัน และอาจารย์สมนึก นั่งรถคันเดียวกัน ไปกันแบบไม่รู้ว่าโรงแรมอยู่ที่ไหน หากหลงทางก็คงจะมีปัญหา เพราะโชเฟอร์หนุ่มไม่คุยไม่ยิ้มอีกเช่นกัน โชคดีว่ามาถูกที่ อาจารย์เจียมจองโรงแรมประเภทราคาประหยัดไว้ เป็นตึกแถวเล็กๆ มีบันไดทางขึ้นหลายขั้น

แถวนี้มีโรงแรมหน้าตาแบบนี้หลายแห่ง เรา check in ที่โรงแรม City Star และเอากระเป๋าขึ้นห้องแล้ว ดิฉันพักห้องเดียวกับอาจารย์อมรา ได้ห้องที่มีเตียงเดี่ยวสองเตียงติดกัน จะดึงแยกก็ไม่ได้เพราะใช้ผ้าห่มผืนเดียวกัน พื้นที่ว่างมีน้อย เด็กหนุ่มที่ยกกระเป๋ามาให้วุ่นอยู่กับการ check โทรศัพท์ สักพักอาจารย์เกษวดีก็มาบอกว่าเราเข้าโรงแรมผิด ต้องไปที่โรงแรม Hoang Lien ซึ่งอยู่ติดกัน

 

หน้าตาของโรงแรม ซ้ายมือเลขที่ 13 คือโรงแรมที่เราเข้าผิด

 

ห้องที่โรงแรม Hoang Lien ใหญ่กว่าโรงแรมที่เราเข้าผิด และมีการปรับปรุงห้องใหม่ ยกเว้นที่เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าที่ดูไม่เรียบร้อย โรงแรมที่นี่เขาจะเก็บ passport ของผู้ที่มาพักไว้

เราเก็บของแล้วออกเดินไปตลาดกลางคืนเพื่อหาอาหารเย็นกิน เดินผ่านร้านรถเข็นขายขนมปังริมถนน ที่ตลาดมีของขายมากมาย ผลไม้ดูสด เราซื้อฝรั่งใส้สีแดง ส้มโอ และชมพู่ ที่หั่นแล้วจัดเป็นแพ็คไว้ ไปกินอาหารที่ร้านตามสั่ง มีคนนั่งเต็มเกือบทุกโต๊ะ อาหารที่กินมีปอเปี๊ยะใส้เผือกทอด ขนมเบื้องใส้มีเนื้อหมู หมูสามชั้น กุ้งสด (ผ่าครึ่งตัวตามยาว) มันแกว หอมหัวใหญ่ ถั่วงอก กุ้งพันอ้อย ขนมจีนหมูย่าง ข้าวผัด น้ำเปล่า ทั้งหมดราคาเกือบ 1,000 บาทไทย หรือ 600,000 เหรียญเวียดนาม

ร้านขายขนมปังบนทางเท้าริมถนน

 

ขนมจีนหมูปิ้ง เมนูหนึ่งของคืนนี้

 

ออกจากร้านอาหารเจอร้านขายข้าวโพดปิ้ง มันเผา เราซื้อลองชิมดู ข้าวโพดเป็นข้าวโพดข้าวเหนียว ปิ้งเฉยๆ ไม่มีการปรุงรส อาจารย์อมราบอกว่ามันเผาก็หวานดี

 

 

ร้ายขายข้าวโพด เอาข้าวโพดผัดใส่เครื่อง ไม่ได้ลองชิม

 

ตลาดกลางคืน

 

ข้าวโพดปิ้ง มันเผา

 

ขากลับเรานั่งแท๊กซี่ ไม่ได้เดินเหมือนขาไป ที่โรงแรมมี wifi ให้ใช้ฟรี กว่าจะเข้านอนกันก็เลยเที่ยงคืนไปแล้ว

วัลลา ตันตโยทัย

วันที่ 24 พฤศจิกายน 2556

[ขจิต ฝอยทอง]

อันนี้น่ากินมากเลยครับ

ขนมจีนหมูปิ้ง

รออ่านอีกครับอาจารย์

[มนัสดา]

สวัสดีค่ะอาจารย์

อาหารเวียดนาม ส่วนใหญ่เน้นผัก คนเวียดนามเลยไม่อ้วนนะคะ

ขอบคุณอาจารย์ที่นำภาพมาให้ชมค่ะ