แต่ละช่วงวัยของชีวิตต้องการเวลาไม่เท่ากัน แต่ทุกวัยต้องการ....เวลา
เคยตั้งข้อสังเกตว่าเวลาในแต่ละวัน....ของเพื่อนร่วมงานรวมไปถึงตัวเราเองด้วยว่ามีประสิทธิภาพแค่ไหน หากมาย้อนมองดูจริง ๆ เรามักจะเสียเวลาไปกับเรื่องไม่เป็นเรื่องอยู่หลายเปอร์เซ็นต์ ในวงเล็บว่า....หากเรายอมรับในความไร้สาระของเราได้ (n______n) !
จากเรื่องทั้งหลายเหล่านี้ เช่น เรามักจะติดตามไถ่ถามสารทุกข์สุขดิบกัน ติดตามเรื่องของซุปตาร์หรือเรื่องที่เป็นประเด็นของสังคมกันอยู่ ณ ตอนนั้น คุยกันเรื่องแฟชั่น สถานที่ท่องเที่ยวที่ไปกันมาหรือแม้แต่การไปเปลี่ยนสถานที่รับประทานอาหารเป็นบางมื้อ โทรศัพท์มือถือ....ในวงเล็บว่าบางใครควรจะเปลี่ยนไหม ???? ฮ่า ๆ ในวงเล็บว่าคอนเซ็ปใครก็ของคนนั้นค่ะ เพราะประโยชน์ใช้สอยมันต่างกัน รวมไปถึงการบลัฟกันแม้แต่เรื่องลูก ๆ ของตัวเอง ฮ่า ๆ ในวงเล็บ...วนิดารอดตายเพราะมีแต่ลูก...มีหาง เป็นไอ่เตี๋ยวหง่าว แต่ก็อย่านึกว่าจะไม่เม้าท์กัน ยันเรื่องหมา ๆ แมว ๆ รวมไปถึงกาแลคซี่อื่น ๆ ด้วย หากเราจะอยากคุยกัน ฮ่า ๆ
แต่มานึกกลับกันใหม่ถ้าหากเราตั้งใจทำงานกันจริง ๆ จัง ๆ ในเวลา ๘ ชั่วโมง วันจันทร์ถึงวันศุกร์ เราก็ทำได้ เลยเกิดความเบื๊อกขึ้นมาทุกครั้ง เวลาทำงานเสร็จแล้ว...เกิดความว่าง ..... คำถามหลาย ๆ คำถาม ที่ผุดขึ้นมาในหัว เออ !!!! แล้วคนอื่น ๆ ล่ะ หากเราทำให้เวลาทำงานของเราเกิดประสิทธิภาพจริง ๆ โดยละเรื่องไม่เป็นเรื่องซะบ้าง ทุกคนก็มีเวลาพักผ่อนมากขึ้นได้กลับบ้านเร็วขึ้น มีเวลาพักผ่อนในวันเสาร์อาทิตย์ มีเวลาได้อยู่กับตัวเอง ครอบครัว ได้ทำในสิ่งตัวเราชอบหรือต้องการค้นหาอะไรบางอย่างที่ใจเราต้องการ ไม่ได้ทำงานเป็นบ้าเป็นหลังเพื่อสิ่งสมมติทั้งหลาย แม่ ๆ ก็ได้มีเวลาอยู่กับลูก ๆ มากขึ้น ใช้เวลาอบรมบ่มนิสัยแทนการเอาเรื่องลูก ๆ มาพูดเกทับกัน เป็นเวลาคุณภาพที่ครอบครัวจะได้ใช้เวลาอยู่ร่วมกัน ลูก ๆ ก็คงจะมีสายตาที่ดูเป็นสุขมากกว่าสายตาที่แข็งกร้าว...แต่ดูว่างเปล่า เด็ก ๆ คงมีเวลาได้เล่น...ท่ามกลางความอบอุ่นของความเป็นครอบครัวและในยามที่ล้มลง ก็คงไม่เจ็บเท่า...เมื่อเข่าของเขากระแทกพื้น ... เมื่อยามอยู่ในสายตาและอ้อมกอดของพ่อและของแม่ที่คอยประคับประครองพวกเขา ดีกว่าความสัมพันธ์ที่ห่างไกลและเริ่มหลุดลอยของมือน้อย ๆ ที่สัมผัสอยู่กับคีย์บอร์ดและหน้าจอคอมพิวเตอร์
ทุกวันนี้เราจะเห็นว่า....เมื่อเรามีเวลาหยุดในวันหยุดนักขัตฤกษ์ที่หยุดติดกันยาว ๆ เรามักจะตะเกียกตะกาย ไปติดแหง่กหรือขับปาดซ้ายปาดขวาเพื่อกลับไปหาครอบครัวที่ต่างจังหวัด แต่จะดีกว่าไหมหากเราใช้เวลาที่ควรจะอยู่กับเขาเพื่อรักษาความสัมพันธ์และความผูกพันที่มี...มากกว่าสิ่งสมมติที่เราแข่งขันกันแทบเป็นแทบตาย....แต่ในที่สุดแล้วเราก็รักษาและครอบครองมันไม่ได้อยู่ดี กลับไปใช้ชีวิตที่ครบหน้าครบตา...ตามประสาแม่ ๆ ลูก ๆ ตา ๆ ยาย ๆ และใช้เวลาที่เหลือ ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าเวลาของใครเหลือเท่าไหร่ และใครจะเหลือได้มากกว่ากัน
จะดีกว่าไหม.....หากเราให้ความสำคัญในความเป็นมนุษย์ที่เกิดมาเป็นมนุษย์คนหนึ่งให้สมบูรณ์...สมกับการเกิดที่มีคุณค่า ที่ไม่ได้เติบโตขึ้นมาอย่างไร้คุณค่าและไม่เห็นคุณค่าของรากเหง้า ความเป็นตัวตน ความเป็นชาติและวัฒนธรรมของตน จะดีกว่าไหมที่ให้เวลากับแม่ที่ตั้งครรภ์มีเวลาใช้ชีวิตที่มีคุณค่าสร้างคนที่มีคุณค่า ที่ไม่ได้เกิดและเติบโตท่ามกลางความว่างเปล่า และไร้คุณค่า ให้เขาได้เป็นคนที่สมบูรณ์แบบ เป็นคนที่รู้จักผิด ถูก ชั่วดี ซึ่งสิ่งเหล่านี้เพียงแค่ให้เวลาของความเป็นแม่สามารถดูแลลูกของตัวเองได้มากกว่าระยะเวลาการลาเพียงแค่ ๓ เดือน เป็น ๑ - ๒ ปี โดยที่แม่ ๆ ก็ยังมีเงินสวัสดิการที่สามารถยังชีพได้จริง ๆ รอดตายทั้งแม่ทั้งลูก เพื่อใช้เวลาที่มีคุณภาพของสองมือแม่เลี้ยงดูเขาให้โตขึ้นมาเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพ มากกว่าการไปจ้างเนิสเซอรี่เลี้ยงหรือพี่เลี้ยงจากใครก็ไม่รู้ที่ไม่ใช่ญาติ ที่เราไม่รู้จัก และไม่รู้ว่า .... เวลาที่เขาเลี้ยงลูกของเรา เขาจะสอนให้ลูกของเราเสียนิสัยตอนไหนบ้างหรือเปล่า ????? เพราะฉันยังเชื่ออยู่ว่าการ...ที่เติบโตมาท่ามกลางการอบรมสั่งสอนจากแม่ จากพ่อ จากลุงป้าน้าอา ปู่ย่าตายาย จากเครือญาติ จะหล่อหลอมกล่อมเกลี้ยงความเป็นคนให้เป็นคน ต่อให้แย่แค่ไหน...ก็ไม่เลวร้ายเท่ากับตอนนี้ที่กำลังเห็นความเป็นไป...ที่ไม่ควรและไม่อยากให้มันเป็นเช่นนั้น
หากเราได้มีเวลาทบทวนเรื่อง "เวลา" .... มันน่าจะเป็นวาระแห่งชาติบ้างนะ ที่บางใครควรหันมาใส่ใจกับเรื่องเหล่านี้ ถ้าหากเราอยากให้ประเทศเรามีพลเมืองที่มีคุณภาพ เป็นประเทศที่มีคุณภาพ และเต็มไปด้วยสังคมอุดมปัญญา เพราะเราจะมีเวลาได้ทบทวนตัวเราเอง ใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางความอบอุ่นของความเป็นครอบครัว ซึ่งเป็นหน่วยที่เล็กที่สุดของสังคม มีเวลาใส่ใจกันมากขึ้น มีเวลาช่วยเหลือเอื้อเฟื้อโอบอุ้มกันและกัน...ชุมชนก็จะเข้มแข็ง ไม่ใช่ตัวใครตัวมัน มีชีวิตที่เร่งรีบตลอดเวลา และมัวแต่ก้มหน้าก้มตาหาและไขว่คว้าแต่สิ่งสมมติ แข่งขันกันตาเหลือกเพื่อไขว่คว้า...สิ่งที่เราก็ยึดและครอบครองไว้ไม่ได้ สุดท้ายแล้ว....เราเอาเวลาไปทำอะไรกัน ????
วนิดาก็เบื๊อก...ไป และแล้วก็ลืมไปว่า ... เวลาของการอาบน้ำมันมีเวลาจำกัด เครื่องทำน้ำอุ่นที่บ้านพักครู....สายไฟก็ดันมาช็อต อิ อิ ......... ยิ่งดึกน้ำจะยิ่งเย็นอากาศข้างนอกก็เย็นขึ้นตามลำดับ ณ เวลาตอนนี้ก็ห้าทุ่มหน่อย ๆ
ดังนั้นจึงเป็นเหตุสมควร...ให้พอผ่านน้ำเท่านั้น เดี๋ยวจะเจ็บไข้ได้ป่วยกันได้ แต่เหตุที่สำคัญกว่า...เป็นการประหยัดน้ำตามที่ ผอ.ขอความร่วมมือไว้ หุ หุ (เกี่ยวกันไหม...ว๊า .... วนิด๊า)
(@^________________^@)
เวลา รอเวลาที่คิดจะเลือกตั้งใหม่อยากได้คนคิดดีทำดี สร้างสรรค์สังคมไทยไม่ใช่ไม่ฟังคำพิพากษาของศาล คิดจะปลดตุลาการ คิดแต่จะรีบแก้ไขให้คนชั่วมามีอำนาจ
เวลาเป็นสิ่งสำคัญเลยครับ
ที่เราจะจัดการกับมัน
อย่าให้มันมาเป็นนายเรา
ดูเหมือนคุณครูอาบน้ำดึกเกินไปครับ 555
วิ่งผ่านน้ำบ้างก็ได้ครับ 555
ขอบคุณ
คุณ pap 2498 ค่ะ
เวลาที่คนดีได้แสดงฝีมือเมื่อวันอาทิตย์ที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ ได้พิสูจน์อะไรบางอย่างนะคะ
(@^_____________^@)
ถึงเวลากิน แล้วก็ เวลานอน...
เวลา เป็นสิ่งที่สำคัญยิ่งสำหรับทุกคน เมื่อมีเวลาต้องรีบทำในสิ่งที่ควรทำจ้ะ