แด่...แม่ของทิมดาบ...
คนเป็นแม่นับเป็นศิลปิน...ปั้นดินขึ้นมา...แต่งขอบ ค่อยๆ แก้ไขสิ่งผิดพลาด...เป็นยามที่คอยเฝ้าการเจริญเติบโต...
ลูกชายของเราจะเป็นยังไงถ้าไม่มีแม่...คงจะหลงทาง เช่นเดียวกับผม...
คนเป็นพ่อ ไม่ว่าพร้อมหรือไม่ มีหน้าที่ส่งลูกชายของผมไปสู่โลกที่ไม่รู้จักใช่ไหม? …
เราส่งลูกชายของเราให้รู้จักความเจ็บปวด ไปเรียนรู้ เติบโต และเป็นอะไรได้มากกว่าที่ลูกจะเป็น หากลูกไม่เคยผละจากอกเราไปไหน …
เราส่งลูกชายของเราไปทำสิ่งดีๆ ไปช่วยเหลือผู้อื่น และไปให้โอกาสคนอื่น…
ผมภาวนาขอให้ผมเป็นพ่อที่ได้เรียนรู้และแบ่งปันตลอดไป เป็นพ่อที่ชีวิตของผมเองเป็นบทเรียนอันมีค่าที่สุด...
ผมเรียนรู้สิ่งนี้จากพระพุทธเจ้า ผมเรียนรู้สิ่งนี้จากเตี่ยและแม่ของผม ผมเรียนรู้สิ่งนี้จากคุณและลูก...
ผมขอภาวนาขอให้ผมเป็นคนที่ให้อภัย...แบ่งปัน และช่วยเหลือคนอื่นได้อย่างนี้ตลอดไป เช่นเดียวกับคนเหล่านั้นที่ส่งมอบและรับผมมาสู่โลกใบนี้...
ผมอาจล้มเหลว แต่ผมภาวนาขอให้คุณไม่สิ้นหวังในตัวผม แม้ว่าผมจะต้องล้มเหลวอีกอย่างแน่นอน...
เหนือสิ่งใด ผมภาวนาขอให้ผมคู่ควรกับคุณอย่างนี้ตลอดไป....
รัก
พ่อของทิมดาบ....
ป.ล. ตอนแรกผมจะบันทึกไว้ในอนุทิน เพราะเป็นเรื่องส่วนตัวมากๆ นะครับ...เกรงใจความเป็นสาธารณะ...แต่ครุ่นคิดแล้ว ขอขยับจากอนุทินมาเป็นบันทึก...เพื่อวันข้างหน้าทิมดาบเขาจะได้อ่าน...และรับรู้ถึงความในใจของผม...
ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ
การนำเรื่องนี้มาเขียนเป็นบันทึก ช่วยให้รู้สึกดีมากๆค่ะ คุณหมอ
เป็นส่วนเติมเต็มกำลังใจให้กับคนที่...ยังไม่หนักแน่น มั่นคง ในการสื่อสารของตนเองค่ะ
หากมองไกล...มองให้ลึกซึ้ง... คำนึงถึงคุณค่า ความหมายที่ส่งทอดถึงชีวิตจิตใจ บุคคลรายรอบ
ที่ต้องเติบโตในหลายๆด้าน เพื่อชีวิต...และสังคมแล้ว
เรา...จะหลุดออกจากกรอบคิดอันคับแคบจำกัด ที่ปิดกั้นตนเองไว้
มหัศจรรย์แห่งการเขียน...มีผล หนุนเสริมกันและกันแล้ว
ขอบคุณมากๆเลยนะคะ สาธุค่ะ
ทิมดาบคงภูมิใจในตัวของพ่อมากนะครับคุณหมอ
สบายดีนะครับ
อ่านแล้วยิ้มแทนคุณแม่เลยค่ะ รับรองน้องทิมดาบได้มาอ่านเมื่อไหร่คงนึกได้ว่าคุณแม่คุณพ่อรักกันแค่ไหน และรักเขาแค่ไหนค่ะ เพราะน้องได้เห็นตลอดว่าคุณพ่อคุณแม่ใช้ชีวิตอย่างไร ต้นแบบดีๆมีค่ากว่าคำสอนใดๆค่ะ