เช้าวันที่๒๖ขณะแม่อ่านหนังสืออยู่เลยชวนทานข้าวท่านบอกว่าทานแล้วก็เลยว่ายังไม่ได้ทานท่านก็ยังว่าทานแล้วเลยถามว่าทานกันอะไรท่านก็ว่ากับปลาก็เลยว่านั่นกินเมื่อคืนวันนี้ยังไม่ได้กินจะไปกินเลยไหมเพราะจะแปดโมงแล้วท่านก็ไม่ว่าอะไรแต่เดินไปนอนที่ที่นอนของท่าน จึงไปทำงานก่อน พอสิบโมงกลับไปดูท่านลุกแล้วยกสำรับไปให้ท่านกินได้หลายคำหลังจากนั้นก็ปกติดีกลางวันก็กินได้ปกติตอนเย็นก็กินได้
วันที่๒๗ ท่านลุกแต่เช้าเดินลงมาข้างล่างตั้งแต่หกโมงครึ่งและกินข้าวตั้งแต่เช้ากินได้มากพอสมควรแล้วจึงให้กินยา กลางวันก็กินได้มากกลางคืนหลังกินข้าวเย็นแล้วท่านนั่งดูทีวีพอสมควรแล้วเห็นท่านนั่งหลับก็เลยชวนท่านขึ้นข้างบนแต่เพราะพ่อบ้านไม่อยู่ไปงานเลี้ยงเกษียณคุณพ่อยังไม่กลับคุณแม่เลยงงไปชั่วครู่พอจะขึ้นข้างบนท่านก็ไปเข้าห้องน้ำก่อนพอออกจากห้องน้ำท่านบอกว่าขอนั่งพักก่อนหลังจากนั้นชวนท่านขึ้นข้างบนท่านลืมทางขึ้นบอกตั้งนานจึงยอมไปที่บันไดพอถึงชั้นบนท่านก็จะเดินไปคนละทางกับเตียงนอนจะไปเข้าห้องเก็บของเลยต้องให้ท่านนั่งพักตรงทางขึ้นนั้นก่อนจนพ่อบ้านกลับมาท่านจึงได้ย้ายที่แล้วพาท่านไปนอนเตียงที่อยู่ใกล้ๆ
วันที่๒๘ท่านลุกแต่เช้ากินข้าวเช้าได้มากพอควร สายๆพ่อกลับจากรพ. ถึงกลางวันแม่ไม่กินข้าว แต่กินนมได้แต่ตอนเย็นไม่กินอะไรเลย ตอนขึ้นข้างบนท่านบอกปวดเข่ามาก
วันที่๒๙คุณพ่อจึงบอกท่านว่าไม่ต้องลงข้างล่างนะแม่ก็อยู่ข้างบนตลอดตอนเช้ายกสำรับให้ทานทานข้าวข้างบนก็ทานได้เยอะ แต่ตอนจะลุกทุลักทุเลพอควรข้าพเจ้าต้องยกรักแร้ช่วยให้ท่านถัดไปเข้าห้องน้ำ พอขึ้นนั่งโถได้แล้วตอนลุกใช้ไม้เท้าช่วยแล้วท่านค่อยๆก้าวเดินแล้วไปนั่งเก้าอี้ กลางวันทานข้าวได้เยอะแต่ตอนเย็นไม่ทานแต่ทานยา
วันที่๓๐ตอนเช้าทานข้าวอยู่ชั้นบนตอนเที่ยงไม่กินข้าวบอกว่ากินแล้วกินกล้วยหอม(ซึ่งคุณพ่อว่าไม่ได้กินหรอก)แล้วท่านก็บอกว่าง่วงและไปนอนตอนเย็นท่านลงมาชั้นล่างแล้วกินข้าวกินยาและพ่นยาแล้วก็ขึ้นชั้นบนไปนอน
ช่วงนี้ท่านจะนอนมาก และมีอาการงงบ่อยๆ แต่ยังทำกิจกรรมได้ จึงไม่เหมือนอาการชัก ก้อนเนื้อตรงใกล้ๆตาขวาโตขึ้นทุกวันจนนูนออกมาแต่ท่านไม่มีอาการปวดหัวแต่จะมีอาการลืมเป็นบางช่วง
ขอเป็นกำลังใจให้ทั้งคุณพ่อ คุณแม่ และคุณสุภัทรานะคะ...
มาให้กำลังใจ
คุณแม่อายุเท่าไรแล้วครับพี่
มาแจ้งว่าได้เมล็ดชมจันทร์แล้ว
ขอให้คุณแม่หายป่วยไวๆนะครับ
ขอบคุณค่ะอาจารย์ดร.พจนา
อาจารย์สบายดีไหมคะ
ขอบคุณกำลังใจค่ะอ.ขจิต
คุณแม่พี่อายุ 84 ปีค่ะ ท่านเป็นเนื้องอกที่เยื่อหุ้มสมองตั้งแต่พี่เรียนอยู่ป.5
ท่านก็ผ่าตัดกระโหลกหลายครั้งแล้วค่ะระยะหลังพี่ชวนไปหาหมออีกท่านก็บอกว่าไม่ผ่าแล้ว
พี่เคยชวนไปตั้งแต่กำลังยังดีอยู่คือตั้งแต่อายูเจ็ดสิบเศษท่านก็ปฏิเสธ
ปี47ท่านเริ่มมีอาการชักคือจู่ๆขณะกำลังทำอะไรอยู่ก็ตามจะไม่รู้สึกตัวอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็เป็นปกติ
พอถามก็ไม่รู้เรื่องว่าเป็นอะไรเมื่อครู่ ปี49ท่านเป็นบ่อยจึงไปหาหมอหมอเลยว่าท่านชัก
จึงได้เริ่มกินยากันชักมาตั้งแต่นั้น จนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่มีอาการแบบนั้นอีก
หลังจากนั้นพี่ก็ถามท่านว่าหากหมอผ่าให้ท่านจะผ่าไหมท่านตกลง
จึงพาท่านไปหาหมอที่รามาที่ท่านเคยไปผ่าคุณหมอท่านก็แนะนำว่าอายุมากแล้ว
เกรงว่าจะมีปัญหาตอนดมยาสลบท่านบอกว่าหากผ่าก็เสี่ยงมากอาจไม่หาย
แต่หากรักษาตามอาการหากชักก็กินยากันชักท่านอาจจะอยู่ได้เกิน5ปีก็เลยดูแลท่านตามอาการมาเรื่อยๆค่ะ
ท่านก็สบายดีมาตลอดปวดขาก็กินยาแก้ปวด แต่ปีนี้ท่านผอมลงมาก บางวันก็หงุดหงิดง่าย
คิดว่าเป็นเพราะเนื้อสมองส่วนที่ควบคุมอารมณ์อาจถูกเบียดจากก้อนเนื้องอก
พอดีท่านไม่ค่อยได้ยินด้วย ท่านก็เลยหงุดหงิดไปอีก ยังดีที่ท่านชอบอ่านหนังสือ
หนังสือมีที่ไหนท่านเอามาอ่านได้หมดค่ะไม่ว่าจะเป็นหนังสือธรรมะ
หนังสือพิมพ์หรือหนังสือเรียนของหลาน ท่านเสียใจไม่หายที่ท่านไม่ได้เรียนต่อหลังจากจบป.๔แล้ว
ถ้าเมื่อก่อนเรียนกศน.สะดวกสบายเหมือนทุกวันนี้พี่คงให้ท่านเรียนกศน. แต่เรียนตอนนี้คงไม่ไหวแล้วค่ะ
เมล็ดชมจันทร์ไม่ได้ขึ้นรานะคะพี่จะใส่ถุงพลาสติกก็กลัวขึ้นราเลยเอาทิชชูห่อแล้วเอาหนังสือพิมพืตัดเป็นฝอยๆกันกระแทก
อันที่เก็บไม่ทันถูกฝนขึ้นราและเมล็ดบวมพี่ลองเพาะกลับงอกค่ะนึกว่าจะเน่าแต่คงส่งไปให้อาจารย์ไม่ได้หรอกจะเน่าเสียก่อน
ขอ บคุณค่ะ
ขอส่งกำลังใจถึงคุณแม่
และผู้ดูแลทุกคนนะคะ
สู้ สู้ ค่ะ
ความคิดเห็น ยังไม่แสดงที่บันทึกนะคะ
เลยตามเข้าไปอ่านที่ความคิดเห็น
ได้ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับคุณแม่แล้วค่ะ
ที่บ้าน มีหนังสือ ที่พิมพ์ตัวโตๆอ่านง่าย
อยากส่งมาให้คุณแม่ค่ะ
รบกวนส่งที่อยู่ให้หน่อยนะคะ
ผ่านอีเมลตรงเลยก็ได้ค่ะ
สาธุ ขอบคุณค่ะ
ให้กำลังใจดูแลพระในบ้านนะคะพี่สุภัทรา
ขอบคุณค่ะ คุณTawandin
ขอบคุณค่ะ คุณหมออ้อ ค่ะดูแลพระในบ้านบางทีก็หลุดเหมือนกันค่ะ