กินโปรตีนจากเนื้อสัตว์หรือพืชดีโดย นพ.กฤษดา ศิรามพุช


กินผสมผสานทั้งเนื้อสัตว์และผัก

เรื่องนี้ได้อ่านเมื่อหัวค่ำของเมื่อคืนนี้ พออ่านจบก็อยากบอกต่อเร็วๆ เพื่อผู้ที่เข้ามาแวะเยี่ยมอ่านจะได้ทราบและนำไปปฏิบัติในทุกๆวันที่เรากินอาหาร หรือทราบแล้ว ฝากนำไปบอกต่อผู้ที่ไม่ทราบด้วย เพราะคงมีคนอีกไม่น้อยที่ไม่ทราบและไม่ได้อ่านอย่างที่เราอ่านกันนะคะ

กินโปรตีนจากสัตว์หรือพืชดี ?

" นพ. กฤษดา สิรามพุช ผอ.สูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ บอกว่า

โปรตีนจากสัตว์ เช่น เนื้อหมู วัว ไก่ เป็ด ปลา นม ชีส โยเกิร์ต

ส่วนโปรตีนจากพืช ตระกูลถั่ว เช่น ถั่วเหลือง ถั่วลิสง ถั่วเขียว ถั่วฟักยาว รวมไปถึง ชะอม สะตอ กระถิน

สังเกตง่ายๆ พืชที่มีกลิ่นแรงจะมีซัลเฟอร์ หรือกำมะถัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโปรตีน

ข้อเสียของโปรตีนจากพืชต่างจากสัตว์ คือ กรดอะมิโนน้อยชนิดกว่าโปรตีนจากสัตว์ แต่โปรตีนจากสัตว์มีกำมะถัน เป็นส่วนประกอบค่อนข้างมาก ถ้ากินโปรตีนจากสัตว์มากๆ เลือดก็เป็นกรด เพราะมีกรดกำมะถันมาก ถ้ากินโปรตีนจากพืชกรดกำมะถันน้อยกว่า แต่อาจจะขาดกรดอะมิโนบางตัวไป

มีสถาบันเพื่อการกินและสุขภาพของสหรัฐอเมริกา คือ ดานาฟาเบอร์ บอกว่า ถ้ากินโปรตีนจากพืชเพียงอย่างเดียวอาจจะไม่เป็นอาหารสมดุล เพราะฉะนั้นจะต้องกินโปรตีนจากพืชร่วมกับสัตว์โดยโปรตีนจากสัตว์ ให้เน้นที่มีโอเมก้า 3 คือ โปรตีนจากเนื้อปลา เพราะนอกจากโอเมก้า3 กำมะถันน้อยมแล้ว โอกาสจะเกิดภาวะเลือดเป็นกรดก็น้อยกว่าเนื้อแดง

ยิ่งในอาหารจำพวกเนื้อแดงที่ผ่านกระบวนการแปรรูป เช่น

แหนม ไส้กรอก เบคอน แฮม หมูรมควัน หมูสวรรค์ ความเป็นกรดจะสูงกว่าเนื้อสัตว์ที่ยังไม่ผ่านการแปรรูป

เพราะฉะนั้นการกินโปรตีนจากสัตว์หรือพืช อย่างใดอย่างหนึ่งมากเกินไป เช่น กินเนื้อสัตว์มากอาจจะทำให้เลือดเป็นกรด ทำให้สุขภาพไม่ดี เกิดการอักเสบในร่างกาย แต่หนักไปทางโปรตีนจากพืชอาจทำให้เลือดจาง เม็ดเลือดแดงรุปร่างผิดปกติไป ดังนั้นควรกินแบบผสมผสานกันดีที่สุด

ถามว่าควรกินโปรตีนมากน้อยแค่ไหนในแต่ละวัน ? นพ.กฤษดา กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับน้ำหนักตัวของแต่ละบุคคล โดยหลักจะต้องกินโปรตีนประมาณ 0.5-1 กรัมต่อน้ำหนัก 1 กก. สมมุติว่าหนัก 60 กก. ต้องกินโปรตีนถึง 1 ขีด นั่นหมายความว่า โปรตีนต้องดูดซึมได้ทั้งหมดที่กินเข้าไป แต่ในความเป็นจริงเรากินโปรตีน 60 กรัมอาจจะดูดซึมไม่ถึง 60 กรัมก็ได้ เพราะฉะนั้นต้องกินเพิ่มอีก 1 เท่าตัว

ถ้าใครรัก กินเจ หรือ กินมังสวิรัติ มีสิ่งที่ช่วยอุดช่องโหว่ได้

คือ การกินวิตามมินบี 12 เติมเข้าไป หรือถ้า กินมังสวิรัติ ก็ต้องกินไข่ด้วย

จะช่วยเติมช่องโหว่ กรดอะมิโนที่ขาดไปได้

ภายหลังการกินเนื้อสัตว์แนะนำว่า ควรกินอาหารที่มีแมกนีเซียม และแคลเซียม โดยเฉพาะอาหารประเภทผักใบเขียวจัดเพราะ มีฤทธิ์เป็นด่าง ไปช่วยจูนให้กรดกำมะถันจากเนื้อสัตว์จางลง ดังนั้นพอกินเนื้อสัตว์ขอให้กินผักใบเขียวเยอะๆเน้นที่ใบ อย่าไปกินก้านจะช่วยต้านกรดได้

ถามว่าไม่กินเนื้อสัตว์เลยได้หรือไม่ ? นพ.กฤษดา บอกว่า บางคนอาจจะคคิดว่าทำไมสัตว์บางชนิด เช่น แพะกินแต่หญ้าได้ ต้องบอกว่า ลำไส้ของสัตว์เหล่านี้สามารถสร้างวิตามมินบี 12 ได้ แต่มนุษย์มีข้อเสียคือ ลำไส้ไม่สามารถสร้างได้ ตรงนี้พิสูจน์ว่ามนุษย์ไม่ได้ถูกสร้างให้เป็นมังสวิรัติ 100 % ให้เป็นครึ่งเนื้อครึ่งผัก

สรุปว่า ควรกินโปรตีนทั้งจากสัตว์และพืชผสมผสานกัน ส่วนคนที่กินเนื้อสัตว์มากๆควรกินผักใบเขียววร่วมด้วย จะช่วยลดกรดนเลือดได้ สำหรับคนที่ไม่กินเนื้อสัตว์เลยควรกินวิตามมินบี 12 เสริมเข้าไปด้วย "

( ขอบคุณ กินโปรตีนหรือเนื้อสัตว์ดี จากหนังสือพืมพ์เดลินิวส์คอลัมน์คุณหมอขอบอกโดย นวพรรษ บุญชาญ รายงาน)

ผู้ที่ไม่ชอบกินผักไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ กินแต่เนื้อสัตว์อย่างเดียว คงต้องปรับเปลี่ยนบ้างนะคะ หากมีผักน้อยชนิดที่ชอบ ก็นำมากินบ่อยๆหลังจากกินเนื้อสัตว์ก็ยังดีกว่าไม่กินเลย อย่างเช่น ผักสลัด มักจะจัดแต่งในจานเวลากินอาหารนอกบ้านก็ไม่ควรทิ้งไว้ข้้างจาน กินไปด้วยกันกับเนื้อสัตว์ ผักสลัดเป็นผักที่กินง่าย อ่อนนิ่มและมีประโยชน์ต่อลำไส้มากด้วย หรือผักคะน้าเป็นผักที่ใบเขียวมากและหาซื้อได้ง่าย เป็นผักที่อยู่ในอาหารตามสั่งด้วยเช่น ราดหน้า ผัดซีอิ๊ว คะน้าเนื้อน้ำมันหอย ฯ ก็กินให้หมดอย่าเขี่ยไว้ข้างจาน การฝึกให้เด็กเล็กๆกินผักตั้งแต่เริ่มเคี้ยวอาหารได้ก็จะดีมากๆ มีไม่น้อยเลยใช่ไหมค่ะที่ผู้ใหญ่ไม่ชอบกินผัก

ด้วยความปรารถนาดี กานดา แสนมณี

วันเสาร์ที่ ๒๘ กันยายน พ.ส ๒๕๕๖

หมายเลขบันทึก: 549454เขียนเมื่อ 28 กันยายน 2013 12:22 น. ()แก้ไขเมื่อ 28 กันยายน 2013 12:31 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

โปรตีนทั้งนั้น...เห็นแล้วหิวข้าวจังคร้า...จะบ่ายแล้วมัวแต่เขียน ขอตัวไปทานก่อนนะคะ...แวะมาเยี่ยม + คิดถึงพี่เสมอคร้า

ขอบคุณมากครับพี่ ชอบ ๆ ;)...

เห็นผักแล้วเลือกกินผักก่อนเลยครับพี่

ถั่วคงช่วยเลี้ยงโปรตีนได้มากทีเดียว

ขอบคุณมากครับ

ใกล้ถึงเทศกาลกินผักแล้วค่ะ

ทุกๆ ปีดิฉันตั้งใจทานเจในช่วงเทศกาลอย่างน้อย 9 วันคะ ขอบคุณข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากๆ นะคะ

ในระหว่างปี หากตั้งใจจะทานเจก็ทานค่ะ แต่เป็นระยะสั้นๆ เช่น 3 วันค่ะ  ทานแล้วสบายใจดีค่ะ ร่างกายก็โล่งๆ ค่ะ

 

ฝันดีค่ะ พี่ดา

ขอบคุณพี่กานดาน้ำมันมะพร้าวสำหรับข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพ และคำแนะนำอันเป็นประโยชน์มากค่ะ

ขอบคุณ มากมาก เลยค่ะ

- ได้ความกระจ่างชัด มั่นใจมากขึ้นว่า การทาน "กระถิน" ริมรั้ว ที่บ้าน กับ น้ำพริก และ ปลาทู  .... (อาหารโปรด)

   ได้ทั้งโปรตีน จากพืช และ เนื้อสัตว์ ////  ( กินต่อไป...555)

ขอบคุณมากมาก นะคะ

ขอบคุณข้อมูลดีๆ นะคะคุณกานดา

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท