ครูผู้ใช้ศิลปะชุบชีวิตเด็ก
การสอนได้เด็กวาดรูปได้ วาดรูปสวย ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ครูที่สอนให้เด็กวาดรูปเป็น วาดรูปให้สื่อออกมาจากจิตวิญญาณ หรือตัวตนของเด็ก หรือใช้ศิลปะชุบชีวิตคนได้ จากเด็กด้อยโอกาสเป็นเด็กที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีโดยใช้ผลงานศิลปะกรุยทางสู่โอกาสเรียนต่อ หรือมีวิชาชีพเลี้ยงตัว จะมีครูสักกี่คนที่ทำได้ หากไม่อุทิศตนเองเพื่อเด็ก เพื่อชีวิตใหม่ของเด็ก จริงๆ
ครูพีระพงศ์ วงศ์ศรีจันทร์ (ครูเอ๋) คือครูที่ผมเขียนถึง โดยฝีมือทางศิลปะเขาเคยมีผลงานปรากฏในแกลลอรีใหญ่ๆ ในกรุงเทพฯ เคยได้รับรางวัลการประกวดวาดภาพ ของหน่วยงานองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนก็มากมาย แต่เขาไม่เคยประกาศตนเองว่าเป็นศิลปิน พอใจที่จะเป็นครูสอนศิลปะในโรงเรียนบ้านนอกในแวดล้อมของความยากจน เด็กด้อยโอกาส ในหมู่บ้านเกิดใหม่ตีนเขาพังเหย ซึ่งเกิดขึ้นภายหลังที่รัฐคลอดกฎหมายปฏิรูปที่ดิน แล้วคนมีเงินก็ใช้เล่ห์อุบายกว๊านที่ดินได้นับพันไร่ ขณะที่คนจนโดยทั่วไป รัฐมีที่ดินแบ่งปันให้เพียงไม่กี่ไร่ ครอบครัวคนจนจึงมีเพียงที่อยู่แต่ไม่มีที่ทำกิน หากไม่รับจ้างคนมีเงินเจ้าของที่ดินพันไร่ ก็ต้องอพยพไปหากินต่างถิ่น ปล่อยให้ลูกหลานอยู่บ้านตามลำพัง เด็กๆ เหล่านี้เองคือลูกศิษย์ของครูเอ๋ ชีวิตเด็กเหล่านี้เคว้งคว้าง เลื่อนลอย เปลี่ยวเหงา เสี่ยงเหลือเกินที่จะออกกลางคัน หรือประชดชีวิตหันเหสู่บ่วงอบายที่อาจเสียผู้เสียคนเสียอนาคต ครูเอ๋ ดึงเด็กเหล่านี้มาเรียนรู้ศิลปะในอาคารเล็กๆหลังโรงเรียน ที่ดัดแปลงให้เป็นห้องปฏิบัติการทางศิลปะ เด็กๆเรียนรู้ศิลปะแบบช่วยเหลือพึ่งพา ใช้เวลาไปกับพัฒนาผลงานทางศิลปะ กินอยู่หลับนอนในบ้านศิลปะหลังเล็กนี้อย่างอบอุ่นมีความสุข โดยผู้อำนวยการโรงเรียนให้การสนับสนุนงบประมาณด้านสี อุปกรณ์วาดภาพ รุ่นแล้วรุ่นแล้ว เริ่มตั้งแต่เมื่อ 10 ปีก่อน จนเด็กเหล่านี้มีผลงานศิลปะส่งเข้าประกวดล่ารางวัลเป็นว่าเล่นตั้งแต่ระดับเขตพื้นที่ ระดับภูมิภาคและระดับชาติ ในปัจจุบันเด็กรุ่นแรกๆ ที่เป็นลูกศิษย์ครูเอ๋หลายคนประสบความสำเร็จ มีงานทำเป็นหลักแหล่งมีรายได้เลี้ยงตัว หลายคนส่งเสียตนเองเรียนถึงระดับปริญญาโท บางคนเป็นศิลปินที่กำลังมีผลงานแสดงในระดับนานาชาติ นับว่าเป็นการใช้วิชาศิลปะชุบชีวิตคนโดยแท้
ทุกวันนี้ครูเอ๋ยังพอใจในการเป็นครูในโรงเรียนบ้านนอกแห่งเดิม แม้จะมีบ้านของตนเองอยู่ในเมืองก็ตาม วิธีการสอนของครูเอ๋ก็คือใช้ธรรมชาติสิ่งแวดล้อมแทนค่าองค์ประกอบทางศิลปะ เปิดสมองให้เด็กสัมผัส รับรู้ เหตุผล ความเป็นจริงอย่างลึกซึ้ง (เขียนใจก่อนเขียนรูป) อย่างมีสุนทรียภาพ ก่อนสื่อความหมายออกมา ชี้แนะให้เด็กเรียนรู้ ออกแบบสร้างสรรค์ พัฒนาตนเองอย่างอดทน เด็กหลายคนเปลี่ยนบุคลิกจากคนใจร้อน ซุกซน ก้าวร้าว ปลีกตัว กลับกลายเป็นคนใจเย็น อดทน สุขภาพจิตดี ปรับตัวเข้ากับเพื่อนได้ อย่างน่าอัศจรรย์ แถมมีผลงานศิลปะได้รับรางวัลอีกด้วย
ดูผลงานและอ่านเพิ่มเติม เขียนใจก่อนเขียนรูป
ศิลปชูใจ เขียนใจก่อนเขียนรูป สร้างความสุข ก่อนสร้างความรู้
ขอบคุณครูศิลป์
การเขียนใจก่อนการเขียนรูป...
นั่นแสดงให้เห้นถึงการมีวิญญาณแห่งความเป้นครูโดยแท้จริง
เข้าใจ และเข้าถึง...มีศาสตร์แห่งความเป้นครูอย่างถ่องแท้
ไม่ว่าจะทำอะไร เมื่อได้ใจเขาแล้วเราย่อมได้ทุกสิ่ง
ตามที่ปรารถนา..แต่กว่าจะเปิดประตูเข้าไปในใจเด็กนี่ละซิโจทยย์ำคัญ
ขอขอบคุณมากสำหรับกำลังใจให้ครูหยินค่ะ
ครูเอ๋เป็นทั้งศิลปินและเป็นครู ที่สำคัญเขาเป็นผู้เอื้อมมือไปดึงเด็กด้อยโอกาสจำนวนมาก มาสู่โลกของศิลปะที่งดงาม ปราณีต เยือกเย็น ใฝ่ดี เข้มแข็ง สลัดเอาความลำเค็ญไว้เบื้องหลัง