ประวัติ
เริ่มรับราชการครูเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2537 ณ โรงเรียนบ้านบ่อไทย อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ ปัจจุบันสอนที่โรงเรียนซับมงคลวิทยา อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ
รางวัลที่ได้รับ
♣ รับรางวัลคนดีของแผ่นดินจากกระทรวงยุติธรรม 2553
♣ ครูดีในดวงใจ ครั้งที่ 1 ประจำปี 2547 จาก สพฐ.
♣ บุคลากรต้นแบบปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้ รางวัลครูเกียรติยศ
♣ ข้าราชการตัวอย่างจาก สปจ. ชัยภูมิ
หัวใจของคำว่าครู
ผมเริ่มรับราชการครูเมื่อปี พ.ศ. 2537 ทำหน้าที่เป็นครูสอนศิลปะในโรงเรียนขยายโอกาศทางกาศึกษาคือสอนตั้งแต้ชั้นประถมปีที่ 1 จนถึงมัธยมศึกษาปีที่ 3 คำว่าขยายโอกาสก็คือ ครูต้องสอนเด็กที่ขาดโอกาศในศึกษา ส่วนมากเป็นเด็กในชนบทที่พ่อแม่ผู้ปกครองไม่สามารถส่งต่อให้นักเรียน เรียนต่อในระดับที่สูงกว่านี้ได้เนื่องจากเหตุผลของความจำเป็นในการดำรงชีวิต คือส่วนใหญ่ผู้ปกครองยากจน
การเรียนการสอนพบอุปสรรคเกือบทุกด้านความพร้อมของเด็กนักเรียนการขาดแคลนวัสดุอุปกรณ์โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับการทำงานศิลปะ ครูคือทุกอย่างของเด็กต้องเตรียมความพร้อม ต้องหาวัสดุอุปกรณ์เพื่อการเรียนการสอนจะได้ดำเนินต่อไป สิ่งที่ผมสังเกตเห็นและเป็นจุดที่น่าสนใจ และเป็นความหวังในการเรียนวิชาศิลปะก็คือ เด็กนักเรียนในชนบทให้ความสนใจและมีความชอบในวิชาศิลปะมาก อาจเป็นเพราะวิถีชีวิตที่อยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ ประเพณี และวัฒนธรรม แค่นี้คงเป็นจุดเริ่มต้นของความหวังในวิชานี้
เขียนใจก่อนเขียนรูป
เนื่องจากศิลปะเป็นวิชาในกล่ม สลน. (สร้างเสริมลักษณะนิสัย) ศิลปะเป็นสิ่งสวยงามและบริสุทธ์เป็นวิชาที่ต้องใช้สุนทรีย์เพื่อยกระดับจิตใจและสร้างสรรค์ในสิ่งที่ดีงาม ไม่ได้มุ่งเน้นเพื่อวาดรู้แข่งขันให้ได้รางวัล ผมจึงต้องปรับกระบวบการสอนโดยเริ่มปรับที่ใจนักเรียนก่อนคือมีแนวคิดว่า คนที่จะเรียนศิลปะได้ดีต้องมีใจที่ดีและถูกต้องก่อน ผมจึงเริ่มคุยและแลกเปลี่ยนแนวความคิดกับนักเรียนจนได้ข้อตกลงและสรุปว่าเราต้องปรับใจกันก่อนจนได้คำจำกัดความว่า "เขียนใจก่อนเขียนรูป" ผมต้องสอนเขาสังเกตสิ่งรอบข้างเช่น เห็นขยะตกอยู่เราควรทำอยางไร มีหญ้าขึ้นรกบริเวรอาคารเรียนเราควรทำอยางไร ก่อนเรียนศิลปะห้องยังสกปรกอยู่ควรทำความสะอาดหรือไม่ ครูปลูกต้นไม้ไว้ควรเอามือไปเด็ดหรือไม่ ถ้าเราช่วยกันทำสวนย่อมนอกเวลาเรียนจะเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมไหม
ถ้านักเรียนสังเกตสิ่งเหล่านี้ได้และรู้ว่าควรทำอย่างไร การเรียนและทำงานศิลปะของเขาก็จะมีความละเอียดอ่อนทั้งด้านความคิดและทักษะพูดง่ายๆก็คือ เด็กที่จะเรียนศิลปะได้ดีต้องมีจิตใจดีก่อน
รับรางวัลคนดีของแผ่นดินจากกระทรวงยุติธรรม 2553
ให้สัมภาษณ์กับรายการคนค้นคน (โทรทัศน์ช่อง 9)
เป็นวิทยากรสอนการวาดภาพให้กับรายการ สอนศิลป์ (โทรทัศน์ช่องทีวีไทย)
การสร้างสรรค์งานศิลปะในอดีต
การสร้างสรรค์ผลงานปัจจุบัน (ช่วงแรก)
ผมระทับใจบรรยากาศและวิธีชีวิตในท้องทุ่งอีสานทุกครั้งที่ผมอยู่กลางท้องนาจะมีความรู้สึกสบายทำให้นึกถึงอดีตที่มีแต่ความเรียบง่าย ในท้องทุ่งนาไม่มีเร็วไม่มีช้าและไม่มีอะไรที่เกินกว่าการดำเนินชีวิตที่ควรจะเป็น ผมร่างภาพทุ่งนา ภาพควาย ที่ประทับใจด้วยดินสอ เกรยอง สีน้ำ สีน้ำมัน สีอะคลีริค และนำภาพเหลานี้มาสร้างผลงงานที่สมบูรณ์ โดยเน้นเรื่องบรรยากาศและวิถีชีวิตที่ดำเนินอยู่ในท้องทุ่งนา
ผลงานช่วงแรก
การสร้างสรรค์งานศิลปะช่วงแรกเป็นงานเรียนในระดับปริญญาโท ผมต้องปรับตัวปรับความคิด ต้องเรียนรู้เรียนรู้กระบวนการสร้างสรรค์แบบที่ศิลปินเขาทำกัน รู้สึกงงแล้วงงอีก แล้วก็งงอีกงงแล้ว อยู่พักใหญ่
เคยสอนศิลปะให้นักเรียนตัวเล็กๆ เด็กก็คือระนาบสีขาวสะอาดที่ครูต้องแต่งแต้มให้สวยงาม แต่พอมาเป็นนักเรียนเองมืดแปดด้านจริงๆ
ความเป็นครูศิลปะมันยากตรงที่เราต้องสอนทักษะชีวิตและทักษะการทำงานศิลปะให้นักเรียนไปพร้อมๆกัน แต่พอมาสร้างงานแบบศิลปินเขาทำกันมันยากตรงการค้นหาสิ่งที่เรารู้สึก สิ่งที่เราอยากทำ ต้องหาความพอดีที่จะต้องตอบโจทย์ที่เรารู้สึกใรเรื่องที่เราอยากทำให้กระจ่างชัด ต้องชัดเจนทั้งเทคนิคเนื้อหากระบวนการทุกอย่างต้องชัดเจน ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องใช้เวลา บางครั้งทำแล้วทำอีกก็ยังไม่ถึงจุดหมาย เคยถามตัวเองว่าความพอดีของศิลปะมันอยู่ตรงไหนรู้สึกท้อแต่ก็บอกตัวเองว่าต้องสู้ ค้องเดินไปถึงจุดหมายไปให้ได้
พื้นที่และกระบวนการสร้างงานของผม
การสร้างสรรค์ผลงานช่วงแรกบรรยากาศและวิถีชีวิตของชาวอีสาน ผมใช้ฟางข้าวฟาดสร้างพื้นผิวสร้างความรู้สึกความเป็นท้องทุ่งแต่เทคนิคเด่นกว่าอารมณ์และความรู้สึกที่ต้องการสื่อ
ท่าน ศ.ชลูด นิ่มเสมอ ดร.นนทิวรรธน์ จันทนะผะลิน และ ศ.ปรีชา เถาทอง ศิลปินแห่งชาติวิจารย์และตรวจผลงาน การได้เรียนกับท่านทำให้ชีวิตในการทำงานศลปะมีคุณค่ายิ่ง คำวิจารณ์แนะนำและคำติชมของท่าน คือยาและพรอันประเสริฐจากครูผู้มีเมตตาต่อศิษย์ ผลงานช่วงที่ 2 ในการสร้างสรรค์ผลงานช่วงแรกเป็นไปตามความประทับใจแบบกว้างๆ ยังไม่สามารถบอกแนวคิดที่ชัดเจนได้มีความรู้สึกว่าเวลาเขียนควายกับทุ่งนาแล้วรู้สึกสบายใจ จากการวิเคราะห์ผลงาน ภาพส่วนใหญ่ที่ถ่ายทอดออกมาเป็นบรรยากาศของฝูงควายและทุ่งนาในเวลาเย็นเป็นส่วนใหญ่ จากคำแนะนำที่ได้รับจากคณาจารย์และเพื่อน คำถามที่ถูกถามอยู่เสมอว่า "ทำไมชอบเขียนภาพตอนเย็น ทำไมควายต้องหันหลัง"ผมวิเคราะห์จากคำถามเหล่านี้ โดยใช้เวลาไปศึกษาที่ทุ่งนา บางครั้งนั่งร่างภาพ บางครั้งนั่งเฉยๆ ใช้เวลาตั้งแต่เช้าจรดเย็นจนกระทั่งพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า และทุกครั้งที่ผมชอบและประทับใจมากที่สุดจะเป็นเวลาเย็นที่ชาวบ้านเรียกว่า แดดร่มลมตกแสงแดดอ่อนลงลมพัดมาเบาๆ ทุกชีวิตในท้องทุ่งละวางจากการงานและเดินทางกลับบ้าน บ้านที่เป็นศูนย์รวมของความสุข ผมจึงเข้าใจว่าทำไมจึงชอบบรรยากาศ เมื่อสร้างสรรค์ผลงานช่วงเวลาเย็นจึงเข้าใจว่า ทุ่งนาคือการงานที่ต้องทำ ควายก็คือตัวแทนของสรรพชีวิต ตอนเย็นก็คือเวลาที่ทุกๆชีวิตจะต้องระวางการงาน ความสำเร็จ ความล้มเหลว แล้วเดินทางกลับไปยังศูนย์รวมของความสุขที่แท้จริงคือบ้าน บ้านที่เราปล่อยวางทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อพักผ่อนอย่างมีความสุข
การสร้างสรรค์ผลงานล่าสุดแนวความคิดเทคนิคและกระบวนการเริ่มชัดเจนยิ่ง
ขื้น ท่าน ศ.ชลูด นิ๋มเสมอ กรุณาตั้งชื่อผลงานว่ากลับสู่คอก(returning home)
ควายกลับคอก คนกลับบ้าน สองปีว่าแล้วของการศึกษาศิลปะในรั้วตักศิลาเป็นช่วงเวลาที่มีค่ามีสิ่งที่ได้มาและสิ่งที่เสียไป
ถ้าการหันหลังกลับคือการเดินทางต่อ นี้คือสิ่งที่ผมเป็นอยู่ขณะนี้ วิทยานิพนธ์เดินมาถึงปลายทางเป็นปลายทางที่มีคุณค่าสำหรับผม ไม่ใช่คุณค่าของผลงานเพียงอย่างเดียวหากแต่เป็นคุณค่าที่ได้มาระหว่างการศึกษาทดลอง ทีพยายามบอกถึงคุณค่าของวิถีและรากเหง้าความงดงามของการดำรงชีวิตท่ามกลางท้องทุ่งอีสานแบบซื่อๆ กับสิ่งที่ตัวเองเห็นและเข้าใจ
ความงดงามของวิถีชีวิตกลางท้องทุ่งอีสาน ผมฝังตัวสร้างผลงานที่นี่
พื้นที่การทำงานชุดสุดท้าย
ภาพร่างการเดินทางกลับบ้านครั้งสุดท้ายของการศึกษาในรั้วตักศิลาของผม
http://gotoknow.org/blog/klab1/375527
โรฮิงยา มาเอง
สวัสดีค่ะ
มาชมผลงานที่งดงาม
ทั้งที่อยู่บนพื้นผิว
และในใจเด็กๆค่ะ
artist painting.
สวัสดีค่ะคุณครูศิลปิน...
วาดภาพสวยจังเลยนะคะ..
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชมครับ
hero mr.ควาย กะทุ้งๆโป๊ะๆเดี๊ยวกะดีเอง
รู้นะ mr.ควาย
อยากขยันอย่างพี่จังเลย เมื่อไหร่อารักษ์เก่งเท่าพี่ตอนนี้ ตอนนั้นพี่คงจะขยับนิ้วก็เป็นอาร์ตแล้ว งานพี่มันเจ๋งในตัวมันอยู่แล้ว จะไปค้นหามันให้ยากปวดหัวทำไม ทำอย่างมีความสุขและอยากทำดีกว่า ผมเห็นเครียดเยอะไปนะครับพี่ งานพี่มันงามตั้งแต่เริ่มแรกแล้ว อยากให้จบเร็ว ก็ต้องอดเอา ปวดหัวกับคำพูดอาจารณ์ต่อไป อดเอา
ผลงานของดูชองป์ก่อให้เกิดประเด็นคำถามว่าอะไรคือเส้นแบ่งระหว่างที่เป็นศิลปะและไม่ใช่ศิลปะ
ผลงานของดูชองป์เป็นการยืนยันว่าการตัดสินใจของคณะกรรมการไม่ได้ขึ้นอยู่กับหลักการทางสุนทรียศาสตร์แต่อย่างใด
ทว่ากับขึ้นอยู่กับธรรมเนียมแบบแผนในการปฏิบัติมากกว่า สู้ต่อไปครับพี่
ทำงานส่งได้แล้ว ดึกแล้วนะเนี้ย ทำทันป่าว
เด็กๆหลายคนรอครูอย่างพี่อยู่ครับ พี่เอ
ศิลปะของพี่ช่วยยกระดับจิตรใจ กล่อมเกลาให้เค้าเป็นคนดีครับ
คนที่อยู่ก็สู้ต่อไปครับ
ลูกชาวนาชนบท
ขอบคุณอาจารย์เอมากที่ช่วยเขียนใจเยาวชนผู้ด้อยโอกาสทางการศึกษา จนสามารถก้าวเข้าไปศึกษาในสถาบันศิลปะระดับแนวหน้าของเมืองไทย ขอให้รักษาอุดมการณ์เยี่ยงนี้ตลอดไปนะครับ ขอเป็นกำลังใจให้ จาก....ครูอาชีวะ
ภาพชุดล่าสุดของพี่เอ เหมือนดนตรีที่เล่นด้วย แบนโจ,กีต้าร์โปร่ง ผสม พิณ,แคน
...ท่านอาจารย์ [เพื่อนเเกลบของพวกเรา]ผมได้ชื่นชมผลงานของท่านเเล้วประทับใจเป็นอย่างยิ่ง ประกอบกับคำพูดเเละความคิดหลายๆอย่างทำให้ให้ผมคิดย้อนไปถึงครั้งเมื่อเราเรียนศิลปะด้วยกันเมื่อเกือบ20กว่าปีก่อน เราเริ่มหัดเดินก้าวเเรกในชีวิตของการเรียนรู้ศิลปะด้วยกัน บรรยากาศเดิมๆที่มีไอ้เด็กบ้านนอก[เพียวๆ]สุพรรณเเละอยุธยา วันๆเดินถือกระดานสเก็ตนั่งดรออิ้งตรงโน้นตรงนี้ทั้งวัน ทั้งขี้โคลนขี้ดินในห้องเรียนปั้น ภาพพิมพ์ มันยังวนเวียนอยู่ในความทรงจำเก่าๆได้เป็นอย่างดี....เเล้ววันนึงพวกเราก็จำเป็นต้องจากกันเพื่อไปตามหาชีวิตเละหน้าที่ความฝันความอยากเป็น เเละความต้องการของเเต่ละคน จนที่สุดก็ห่างหายกันไป ในครั้งนั้นที่ระบบการสื่อสาร ไม่ได้ทันสมัยเท่านี้...ต่างคนเลยต้องต่างห่างหายกันไปเเบบไร้ร่องรอย...เหอๆสมุดบันทึก หนังสือรุ่น เเละภาพถ่ายเก่าๆ ยังถูกเก็บไว้เป็นอย่างดี เพื่อนรัก...ตอนไปเเสดงงานศิลปะกันครั้งเเรกที่อ.ศรีเทพจ.เพชรบูรณ์ในกลุ่มเเก๊งค์ของพวกเรา มันเป็นความประทับใจที่ยังอยู่ในใจพวกเราตลอดในเพื่อนๆทุกคน สิ่งต่างๆเหล่านี้ มันเหมือนเป็นยาวิเศษที่ไม่ต้องกินเเละกลืนเข้าไปทางปากลงท้องเเล้วอาการดีขึ้น มันไม่ใช่ ยาทางศิลปะคือยาที่ใช้ใจกิน กินความรู้สึกดีๆ ให้เข้าไปบรรเทาอาการเหนื่อนล้าบางช่วงชีวิต ยาเเห่งศิลปะนี่เเหละช่วยรักษา....555พูดซะยาวยืด...ดีใจมากเพื่อนรักที่นายได้กระทำในสิ่งที่เคยพุดไว้กับพวกเราเสมอถึงการเป็นครูสอนศิลปะ เเละเพื่อนก็ทำได้ดีมากๆ จากจิตเเละวิญญาณของครูอันเเท้จริง...จากนี้ชีวิตก็ต้องเดินหน้าเพื่อศิลปะที่ละเอียดอ่อนต่อไปเพื่อสรรสร้าง หล่อเลี้ยง เด็กๆที่กำลังเติบโตด้วยศิลปะ ให้มีคุณภาพอย่างสมบูรณ์เเบบที่สุด ต่อไปในอนาคต ยินดีมากเพื่อนรัก ที่โชคมีโอกาสให้พวกเราได้มาเจอกันอีกครั้ง หลังจากตามหากันมาเป็นสิบๆปี...มีโอกาสจะไปเยื่ยมเยือนนะเพื่อน....
ฤาษี ไฮโซ [ฟู ไทยวิจิตรศิลป์]
"เพื่อนที่ไม่เคยทอดทิ้งงานศิลปะออกจากหัวใจ"
หนูกำลังเรียนครูศิลปะเหมือนกันคะ
อยากเป็นครูอย่างอาจารย์
เห็นภาพที่วาดแล้วรู้ถึงบ้านเลย
ได้ดูชมผลงานครูเอแล้วสวยจริงครับผลงานของพี่ยังอยู่ในใจประทับใจมากฝากคิดถึงลูกศิษย์ทุกคนด้วยครับสักวันจะไปเยี่ยมชมผลงานของพี่และนักเรียนครับ (ครูสมโภชน์)
ขอเป็นกำลังใจให้นะ
มาร่วมชื่นชมครับ น่าทึ่ง เป็นวิถีคนศิลปะที่มีความหมายงดงามมากครับ
เอาวัตถุดิบความคิดมาฝากและร่วมเป็นกำลังใจนะครับ
๔๕.แสง-เงาและไรแดด : วิถีคิดและความสร้างสรรค์ทางศิลปวิทยาที่เก่าแก่และก้าวหน้าที่สุดแนวหนึ่ง
๔๐.ปลูกฝังจิตสาธารณะและสร้างวิถีชุมชนผ่านกิจกรรมเรียนรู้ด้วยศิลปะ
๔๒. Informatived Drawing และวิธีทางศิลปะ ในฐานะเครื่องมือวิจัยและสร้างพลังชุมชน
๓๙. เรียนรู้วิธีหายใจกับ 'ความรักมีพลัง' : ดนตรี กวี ศิลป์ ของศักดิ์สิริ มีสมสืบ
สวัสดีคะครูเอ comment แล้วนะคะ ชอบรูปควายมากๆเลยมีแต่รูปสวยๆๆ วาดเก่งจังเลยนะคะแล้วเหนว่ามีรูปที่ต้องถวายพระเทพด้วยมีรูปนั้นในหน้านี้รึป่าวคะ
ผมดูภาพแล้วครับให้ความรู้สึก ดี สุดๆ ชอบมากครับ
เออ...เข้ามาดูงานที่เขียนใหม่ขึ้นมาเเรียบร้อยเเล้ว
คงไม่ต้องบรรยายอะไรมากว่ะเพื่อน...งามมาก บอกได้คำเดียว
จบไวไวนะเพื่อน จะได้มาทำงานศิลปะด้วยกัน...
ดูเเลสุขภาพด้วยนะเอ็ง...
แกลบจำคิวได้ไหม 081-4556355 เด็ก ปทุม
เจ๋งมากๆๆๆๆๆๆ โครตหล่อ
ขอบคุณครูมากๆๆๆๆๆขอไห้มีสาวมาดูเยอะๆๆๆๆ
ดูแล้วครับงานครู พีรพงศ์ สาวๆ ชอบใจใหญ่เลย เดือน พฤษภาคมนี้ผมจะไปเป็นครูสอนศิลปะที่นครปฐมครับ
งานมีการพัฒนาอย่างชัดเจนนะพี่คนนี้ ว่าแต่ทำไมมุมเปอร์สเปคทีฟ มันคล้ายๆกันหมดเลยล่ะพี่
ผลงานที่ว่างามยังแพ้ความงามของจิตใจของคนที่เรียกว่าครู ด้วยจิตวิญญาณ สมแล้วกับที่เป็นคนดีของแผ่นดิน คนดีมีน้อยช่วยกันให้กำลังใจก่อนที่เขาจะหมดเรี่ยวแรง สู้ ๆ นะพี่เอ
สวดยอดเลยคร๊าบ
งานควายๆๆๆๆมันได้อารมณ์และสะท้อนชีวิตลูกทุ่งมากๆๆๆๆ
สวดยอดอีกรอบล่ะกัร
น่คร๊าบ
จำหฯได้มั้ยค่ะครู เอ
ฮาๆๆๆๆ
หนูเองค่ะ
งานสวยมั้กมากเลย
สวัสดีค่ะคุณครู
หนูดีใจจังเลยมีรูปที่หนูวาดด้วย>w< คุณครูเป็นไอดอลที่หนูระลึกถึงอยู่เสมอนะคะ ถึงแม้หนูจะมาเรียนสายวิทยาศาสตร์สุขภาพ ไม่มีโอกาสสร้างสรรค์งานศิลปะแบบคุณครู แต่ศิลปะการใช้ชีวิตที่คุณครูสอนมานั้น หนูน้อมนำมาใช้ทุกวันเลยค่ะ(อุ้ยเขิน อิอิ) ตอนเด็กๆหนูยังรู้สึกโชคดี และอดสงสัยไม่ได้ว่า คนเก่งๆอย่างคุณครูมาอยู่มาสอนในป่าในเขาแบบนี้ได้อย่างไร หนูได้เห็นคุณครูปั้นพี่ๆให้ได้เรียนศิลปากร ก็รู้สึกชื่นชมศรัทธามากๆเลยค่ะ ศิลปะที่คุณครูให้มาและการเย็บปักที่คุณครูเปิ้ลสอน ทักษะนี้หนูยังได้นำมาประยุกต์ใช้ในสาขาวิชาชีพได้อย่างดีเยี่ยม เพราะต้องใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์ ขอขอบคุณจริงๆค่ะ^^
หนูเชื่อว่าคนดีและเก่งอย่างคุณครูจะต้องประสบความสำเร็จ วันนี้คุณครูของหนูดังใหญ่แล้ววว อิอิ ยินดีด้วยนะคะ และหนูขอสัญญาว่าจะเป็นคนดี ทำงานเพื่อประโยชน์ส่วนรวมค่ะ
"เวลาพาพวกเรามาพบกัน... และเวลาก็พรากเราจากกัน... แต่สิ่งเดียวที่พรากเราไม่ได้..
คือ สายเลือดแห่งซับมงคลวิทยา (ม.3 ปี 2549) "
รูปน้ันยังคงติดบนหัวนอน ไม่ว่าจะอยู่ที่ใด "ความทรงจำที่มีค่า ประสบการณ์ที่ไม่อาจประเมินค่า จากบุคคลที่ทรงคุณค่า"
ด้วยรักและเคารพ
ศิษย์ของครู
น.ศ.กิจกรรมบำบัด คณะเทคนิคการแพทย์
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
หนูกำลังดำเนินรอยตามครู...แม้จะยากเย็นเพียงไหนก็ตาม
พัฒนา ก้าวไกลไปมาก สุดยอดมากเลยนะเพื่อน
ขอเป็นหนึ่งแรงใจ ให้ครูสร้างอนาคตใหกับเด็ก ๆ ต่อไป
สุดยอดครับครู
ภาพสวยมากๆๆ คุณครูว่างมาเขียนอีกนะครับ
พวกหนูเข้าไปดูตามที่อาจารย์บอกแล้วนะคะ สวดยอดดดดดดดดดดดดดด สวยมากค่ะอาจารย์ ลูกศิษย์ขอคาราวะค่ะ
ทำผลงานดีๆออกมาเยอะๆนะคะ