ลดการบ้าน ลด lecture เพิ่มกิจกรรม


เทอมนี้เป็นเทอมที่ดิฉันเปลี่ยนแปลงรูปแบบการสอนสำหรับวิชา Human-Computer Interaction ใหม่เกือบทั้งหมด ดิฉันลดการ lecture ลงไปเยอะ ลดการให้การบ้านลงไปด้วยค่ะ หันมาเน้นที่การทำกิจกรรมในห้องเรียนมากขึ้นค่ะ และใช้การแลกเปลี่ยนเรียนรู้และจัดการการสอนผ่านทาง ClassStart.org แนวคิดลักษณะนี้คือการพยายามทำห้องเรียนกลับทาง (Flipped Classroom) นั่นเองค่ะ

และข่าวล่าสุดที่ดิฉันเพิ่งจะได้อ่านเช้าวันนี้จาก The Economist ที่พาดหัวข่าวได้น่าสนใจค่ะว่า "The education ministry tries to ban homework" ประเทศจีนเขาเอาจริงแล้วค่ะกับห้องเรียนกลับทาง วางกันเป็นแนวทางปฏิบัติจากทางกระทรวงศึกษาธิการกันเลยค่ะ เช่น ห้ามมีการสอบสำหรับเด็กจนถึงวัย 9 ขวบ ห้ามการบ้านแบบงานเขียนสำหรับเด็กจนถึงวัย 12 ขวบ และการเรียนระดับประถมเพิ่มกิจกรรมเสริมพิเศษเข้าไป เช่น เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ ทำกิจกรรมศิลปะ และการทำสวน ค่ะ

สอนไปก็เท่านั้นค่ะเพราะเด็กก็จะจำเป็นนกแก้วนกขุนทองแต่ไม่เข้าใจและไม่สามารถนำไปปฏิบัติได้ค่ะ ถ้าเราสอนนักเรียนอย่างไร นักเรียนก็จะเป็นอย่างนั้นค่ะ ความผิดนั้นอยู่ที่ครูเองค่ะที่เลือกที่จะไม่เปลี่ยนแปลงการสอนแบบเดิมๆ

ตอนนี้ดิฉันเองรู้สึกมีความสุขกับการสอนมากขึ้นค่ะ นักศึกษาเองก็น่าจะรู้สึกเช่นกันค่ะ เพราะการทำกิจกรรมในห้องเรียนทำให้ดิฉันได้ดูแลนักศึกษาแต่ละกลุ่มอย่างทั่วถึง เราจะรู้ได้ว่านักศึกษาเรามีจุดอ่อนจุดแข็งในการเรียนรู้อย่างไรค่ะ

การบ้านก็ไม่ต้องมีมากค่ะ ให้เขามีเวลานอกห้องเรียนเพื่อหาความรู้อย่างอื่นเพิ่มเติม หรือเพื่อพักผ่อนให้เต็มที่หลังจากที่เรียนอย่างหนักในห้องเรียนมาตลอดทั้งวันค่ะ

ดิฉันว่าวิธีนี้ win-win ทั้งสองฝ่ายนะคะ :)

 

 

หมายเลขบันทึก: 548002เขียนเมื่อ 11 กันยายน 2013 22:41 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กันยายน 2013 08:59 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

แวะมาเป็นกำลังใจให้อาจารย์จันฯนะครับ

ชอบครับ"The education ministry tries to ban homework

ไม่ทราบว่า ศธ. เริ่มขานรับบ้างแล้วหรือยังครับอาจารย์

 

ถ้าหากเขาใช้เวลาเรียนรู้เพิ่มเติมนอกห้องเรียนจริง ๆ

ทุกอย่างจะดีงามครับ ;)...

If the top universities still enroll only the students with the highest score,

it is impossible to reduce pupils’ burdens”.

มหาวิทยาลัย นี้คือส่วนสำคัญของระบบการศึกษา ส่ง ผลกระทบต่อ เยาวชน อนุบาล.. จนถึง มัธยม.. ที่ต้องเรียนจนมากมายเกินไป 

สงสารเด็กๆ เถอะครับ...ปรับเปลี่ยนกระบวน สำหรับการศึกษา ทั้งยอดปิระมิด ลงล่าง และจากล่างฐานสู่บนด้วย

"Decrease the amount of homework pupils must do each day"

                                     Please... Please... Please...จากเด็กน้อย

ผมกำลังปรับกิจกรรมบางส่วนจะรีบเขียนเพิ่มให้อ่านครับ ขอบคุณครับอาจารย์

 

ครูหยินเห็นด้วยในระดับมากที่สุด 

สอนคนให้เป้นมนุษย์ที่สมบูณร์แบบ

มิใช่หลงไหลคลั่งใครวิชาบางเรื่องราวไร้ประดยชนืสิ้นดี

ถึงเวลานี้เราต้องสอนให้นักเรียนเอาตัวรอดในสังคม

ดำเนินชีวิตอย่างมีคุณค่า มีคุณภาพ กันดีกว่า

ดีใจที่ได้อ่านค่ะ ดิฉันเป็นอีกหนึ่งคนที่กำลังพยายามเรียนรู้สู่การเป็นครูเพื่อศิษย์ 

ลดการบ้าน  ลดlecture เพิ่มกิจกรรมในชั้นเรียน

จะพยายามเขียนเพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู้นะคะ

 

ขอบคุณค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท