ผมเคยเขียนบันทึกกระบวนการสอน 6 ขั้นเพื่อทำให้นักเรียนพิเศษเรียนร่วม อ่านออก เขียนได้ ของคุณครูศิริลักษณ์ ชมภูคำ (ครูตุ๋ม) ไว้ที่นี่ และนำเสนอบันทึกของครูตุ๋มเองที่นี่
ภารกิจสำคัญของศูนย์พัฒนาวิชาการเพื่อการเรียนรู้ หรือ CADL อย่างหนึ่งคือ ค้นหา Best Practice (BP) ในพื้นที่ แล้วช่วยเหลือให้ ครูเพื่อศิษย์เจ้าของ BP นั้นได้ สามารถนำเสนอและขยายผลของความสำเร็จไปสู่เพื่อนๆ ครูในพื้นที่
ครูตุ๋มมี BP ที่โดดเด่นหลายเรื่อง ซึ่งเป็นธรรมชาติของ "ครูเพื่อศิษย์" ที่ยึดลูกศิษย์เป็นศูนย์กลางจนเกิดผลสัมฤทธิ์กับศิษย์จนได้ วิธีการปฏิบัติที่ผ่านการวิจัยและพัฒนา(ทั้งที่รู้ตัวและไม่รู้ตัว) จนเกิดผลสำเร็จดังกล่าว ก็คือ "แนวปฏิบัติที่ดี" หรือ BP นั่นเอง
BP ของครูตุ๋มที่สมควรถูกนำมาเผยแพร่อย่างเร่งด่วน เพราะตรงกับปัญหาที่พบมากในโรงเรียนคือ ปัญหาการอ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ ของเด็กพิเศษเรียนร่วม ที่ครูตุ๋มสามารถแก้ปัญหานี้ได้อย่างประจักษ์ชัดแล้ว
ถึงวันนี้ CADL ได้ส่งทีม "ถอดบทเรียน" จากสำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ลงไปพูดคุยสนทนากับทั้งครูตุ๋ม เพื่อนครู ครูอาสา ผู้อำนวยการโรงเรียน และผู้ปกครองนักเรียนแล้ว 2 ครั้ง... เรามุ่งมั่นที่จะช่วยให้ครูตุ๋มสามารถขยายผลนี้สู่เพื่อนครูเพื่อศิษย์อื่นๆ เพื่อประโยชน์ของเด็กที่มีปัญหาเดียวกัน ให้มากที่สุด
ผมเองได้มีโอกาสเข้าไปร่วมลงพื้นที่ด้วยทุกครั้ง แม้จะไม่ได้อยู่ตลอดระยะเวลาของกิจกรรม แต่ก็อยากจะสรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้และ "ถอดประสบการณ์" ของครูตุ๋มจากการ "ฟัง" ดังนี้ครับ
วิธีการของครูตุ๋ม
การแก้ปัญหาการอ่านออกเขียนได้ของครูตุ๋มอาจแบ่งได้เป็น 3 ขั้นตอนสำคัญ คือ
เคล็ดลับของครูตุ๋ม
ต่อไปนี้เป็นเคล็ดลับที่ครูตุ๋มไม่ได้บอกตรงๆ แต่ผม "จับได้" และมั่นใจว่าสิ่งต่อไปนี้เป็นปัจจัยของความสำเร็จของครูตุ๋ม
ผมขอแนะนำให้เพื่อนครูเพื่อศิษย์ดูคลิปวีดีโอการเล่าเรื่องกึ่งบรรยายของครูตุ๋มด้านล่าง แล้ว "ตีความ" เปรียบเทียบกับที่ผมได้ตีความนี้ และเพื่อให้ง่ายขึ้นต่อการทำความเข้าใจ ผมได้ทำแผนผัง "กระบวนการเรียนรู้ 6 ขั้นของครูตุ๋มไว้ให้ท่านนำไปตีความและปรับใช้ต่อไปครับ
แนะนำว่าให้ฟังหลายๆ รอบ "กรอกลับฟัง" หลายๆ รอบ ท่านจะเข้าใจว่า "จิตวิทยาเชิงบวก" ที่เป็น BP นั้น เป็นอย่างไร
ขอขอบคุณครูตุ๋มแทนเด็กๆ อีกครั้งหนึ่งครับ ครูตุ๋มสามารถนรูปแผนผังไปใช้ประโยชน์ได้ครับ
ขอชื่นชมความรู้ความสามารถ ความเสียสละ และเป็นกำลังใจให้ครูตุ๋มนะคะ...
-ขอชื่นชมคุณครูตุ๋มผู้มุ่งมั่นจ้ะ
- นับวัน เด็กปัจจุบันจะมีแนวโน้มเป็น เด็ก LD เพิ่มขึ้น
- ที่เพิ่มคือ " LD เทียม " ซึ่งเกิดจากการสอนไม่สอดคล้องกับศักยภาพการเรียนรู้ของเด็ก
แต่ละคน
- โดยเฉพาะในชั้นต้น ๆ ของการเรียน
- เด็กปกติที่อาจจะเรียนช้า หรือเด็กปกติที่อาจจะมีลีลาการเรียนรู้ที่แตกต่างจากเด็กทั่วไปจึง
กลายเป็นเด็กถูกทอดทิ้ง
- เนื่องจากครูผู้สอน ไม่ได้ใช้วิธีการสอนที่สอดคล้องกับการเรียนรู้ของเด็ก ช่วยเด็กเหล่านี้
-เด็กเหล่านี้จึงกลายเป็นเด็ก LD เทียม ไปโดยปริยาย และหากถูกปล่อยไปให้เลื่อนชั้นใน
สถาพแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ในที่สุด เด็กเหล่านี้ก็จะกลายเป็นเด็ก LD แท้ ไปในที่สุด
- คุณมะเดื่อเคยได้ร่วมเป็นคณะทำงานสร้างเครื่องมือสอนเด็ก LD กับกองการศึกษาพิเศษ
สพฐ.จึงทราบว่า เด็ก LD แท้ ๆ ซึ่งมีอยู่ประมาณร้อยละ 5 ของเด็กในโรงเรียน ครูมีทางช่วยให้
เขาเรียนทันเพื่อน ๆ ได้ หากคุณครูรู้วิธีการ ดังเช่นคุณครูตุ๋มจ้ะ
- แต่ในความเป็นจริง...ครูทั่วไปไม่ได้เรียนรู้เกี่ยวกับการศึกษาพิเศษมา จึงยากที่จะหาวิธีการ
สอนเด็ก ๆ เหล่านี้ได้
...........................ขอบคุณ และเป็นกำลังใจให้คุณครูตุ๋มจ้ะ........................
ขอบคุณคุณครูตุ๋มและอาจารย์ฤทธิไกรที่ช่วยถอดบทเรียนซึ่งเป็นประโยช์อย่างมากสำหรับครู และขออนุญาตประชาสัมพันธ์ให้ครูศูนย์ชื่นชม สพป.มค.3 ต่อนะครับ.......^______^ ขอบคุณและเป็นกำลังใจให้ครูตุ๋ม...และอนุโมทนาบุญกับ "ธรรมทาน" ที่อาจารย์มอบให้กับพวกเราชาวสพป.มค3 ตลอดมาครับ
ขอบพระคุณอาจารย์ที่เห็นความสำคัญและถอดบทเรียนได้ตัวตนที่แท้จริงทั้งกระบวนการ ๖ ขั้น และตัวตนหลักการทำงานได้ชัดเจนมากค่ะ