คณะทำงานเพื่อจัดทำรายงานเรื่องการจดทะเบียนการเกิดในประเทศไทย
โครงการจัดทำรายงานการศึกษาปัญหาการจดทะเบียนการเกิดในประเทศไทย คณะอนุกรรมการเด็กฯ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ

จุฑิมาศ สุกใส : ทำไมต้องจดทะเบียนการเกิด ?


“ การจดทะเบียนการเกิด นำไปสู่การสร้างเเละรับรองตัวตนทางกฎหมาย อันจะนำไปสู่สิทธิเเละการคุ้มครองอื่นๆ ที่มนุษย์ทุกคนพึงได้รับ ดังนั้นการจดทะเบียนการเกิด ไม่ว่าสำหรับเด็ก หรือผู้ใหญ่ จึงเป็นสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน ที่เอื้อประโยชน์ให้ทั้งบุคคล เเละรัฐ ได้พัฒนาเต็มศักยภาพ”

           ประโยชน์ของการจดทะเบียนการเกิด ในบริบทประเทศไทย

           เป็นหลักฐานเเสดงอายุใช้ในการเข้าศึกษา เเม้ว่าเด็กสามารถเรียนได้ โดยไม่ต้องมีหลักฐานใดๆ  เเต่การมีหลักฐานระบุอายุ จะทำให้เด็กสามารถเข้าเรียนได้ทันเวลาเเละได้รับสิทธิประโยชน์ เช่นทุนการศึกษา อย่างทั่วถึง นอกจากนั้น ยังสามารถใช้ยืนยันกรณีเด็กถูกละเมิดทางเพศ เเละกรณีที่เด็กต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เพื่อให้เด็กได้รับการปฏิบัติอย่างเหมาะสม ตามวัยเเละอายุที่เเท้จริง เป็นหลักฐานเเสดงความสัมพันธ์กับครอบครัว เเละบิดามารดา

การจดทะเบียนการเกิดทำให้เด็กมีหลักฐานถาวร สามารถตรวจสอบได้ ที่เเสดงความสัมพันธ์กับครอบครัว สามารถใช้เพื่อป้องกันการสวมตัว การเข้าสู่กระบวนการค้ามนุษย์ การส่งเด็กต่างด้าวบางประเภทกลับประเทศพร้อมบิดามารดา เเละเพื่อการคุ้มครองเด็กอื่นๆเป็นช่องทางที่ง่าย เเละรวดเร็วที่สุดที่ทำให้เด็กได้รับการยืนยันว่าเป็นบุคคลตามกฎหมาย ซึ่งจะนำมาสู่สิทธิอื่นๆ

การจดทะเบียนการเกิด ซึ่งกระทำหลังจากเด็กเกิดทันที เป็นการยอมรับตัวตนทางกฎหมายที่เร็วที่สุด เเละมีประสิทธิภาพที่สุด เเละสามารถสืบค้นได้ภายหลัง มากกว่าจะรอวิธีอื่นที่ใช้เวลานานมากกว่า เช่น ตรวจ DNA เมื่อเด็กโต

ทำไมต้องใช้คำว่า การจดทะเบียนการเกิด” ?

         ตามปกติคำที่เป็นที่ คุ้นเคยเเละใช้บ่อยในการทะเบียนราษฎร รวมทั้งการปฏิบัติทั่วไปของผู้คน นิยมใช้คำว่า "การเเจ้งเกิด" ซึ่งหมายถึงการเเจ้งว่ามีเด็กเกิดต่อเจ้าหน้าที่ทะเบียนราษฎร เเละ"การรับเเจ้งเกิด"  อันหมายถึงการที่เจ้าหน้าที่ทะเบียนรับเเจ้งการเกิด เเละทำการบันทึกการเกิดเข้าสู่ฐานข้อมูล ทั้งออกเอกสารหลักฐาน รับรองว่ามีการเเจ้งการเกิดเเล้ว         

              การรับเเจ้งการเกิดเเละการเเจ้งการเกิด เป็นขั้นตอนสองขั้นตอนที่เเยกจากกันเเต่ต่อเนื่องเเละเกี่ยวข้องกัน หากมองตามมาตรฐานระหว่างประเทศ การเเจ้งเกิด เเละการรับเเจ้งการเกิด สมควรนำไปสู่การรับรู้ตัวตนทางกฎหมายของเด็ก หรือบุคคลโดยรัฐ  ทั้งนี้มิใช่การรับรู้ว่าบุคคล หรือเด็กนั้น เป็น "พลเมือง" หรือ"คนสัญชาติ" เเต่อย่างไร         

             อย่างไรก็ตาม การเเจ้ง เเละรับเเจ้งการเกิดในประเทศไทย เท่าที่ได้เห็นตัวอย่างมา ยังเป็นกระบวนการ ที่ไม่ได้ต่อเนื่องเสมอไป ทั้งยังมีปัจจัยที่ทำให้กระบวนการสะดุด เเละหยุดกลางคัน ทำให้ไม่สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ในการสร้าง "ตัวตนทางกฎหมาย" เเก่เด็กเเละบุคคลอย่างสมบูรณ์ เช่น

·       เเจ้งเกิดกับผู้ใหญ่บ้าน/กำนัน ได้รับหนังสือรับเเจ้งการเกิด เเต่ไม่นำไปเเจ้งเกิดกับเจ้าหน้าที่ทะเบียนอีกครั้ง  

·       เด็กเกิดที่โรงพยาบาล เเล้วได้รับเพียงหนังสือรับรองการเกิด เเละมีสิทธิที่จะ เเจ้งเกิดเเต่ไม่มีใครนำไปเเจ้งเกิด

·   เด็กมีหนังสือรับรองการเกิด เเต่ไม่มีสิทธิที่จะเเจ้งเกิด หรือเเจ้งเเล้ว เจ้าหน้าที่ไม่สามารถรับเเจ้งได้ เพราะสภาพของบิดามารดา เป็นคนเข้าเมืองผิดกฎหมายที่ไม่ได้รับการยกเว้นให้สามารถดำเนินการเเจ้งเกิดได้ บิดามารดาไม่มีเลข 13 หลัก หรือบิดามารดาไม่มีเอกสารพิสูจน์ตนใดๆ เป็นต้น

·   เด็กเกิดนอกโรงพยาบาล หรือสถานที่ที่สามารถออกหนังสือรับรองการเกิด เเละไม่มีสิทธิที่จะเเจ้งเกิด หรือเเจ้งเเล้ว เจ้าหน้าที่ไม่สามารถดำเนินการให้ได้ เพราะสภาพของบิดามารดาข้างต้น           

            จากตัวอย่างข้างต้น มีหลายกรณีที่การเเจ้งเกิด ไม่สามารถนำไปสู่การได้รับตัวตนทางกฎหมายอย่างสมบูรณ์เเละการบรรลุมาตรฐานของ การจดทะเบียนการเกิด[1]ได้ ดังนั้น เพื่อเป็นการเน้นถึงความต่อเนื่องเเละสมบูรณ์ของกระบวนการ การใช้คำว่า การจดทะเบียนการเกิดอันหมายถึงขั้นตอนที่เกี่ยวเนื่องกันตั้งเเต่การเเจ้งเกิด การรับเเจ้งเกิด เเละการรับรองตัวตนทางกฎหมายของเด็ก โดยรัฐ อันจะนำไปสู่จุดมุ่งหมายเพื่อให้เด็กมีตัวตนทางกฎหมายเเละมีหลักฐานที่เเสดงตัวตนได้อย่างสมบูรณ์ 

          ทำไมต้องจดทะเบียนการเกิด ?

      การจดทะเบียนการเกิดเป็นขั้นตอนเเรกที่รัฐรับรู้ตัวตนทางกฎหมาย หรือรัฐรับทราบเเละรับรองว่ามีบุคคลคนหนึ่งเกิดขึ้นมาในดินเเดนของรัฐตน ไม่ว่าบุคคลผู้นั้นจะเป็นคนสัญชาติใด เเละมีสิทธิในการได้รับสัญชาติของรัฐนั้นหรือไม่ ตัวตนทางกฎหมายมีความสำคัญต่อการได้รับสิทธิต่างๆ ในชีวิต ทั้งเมื่อเป็นเด็กเเละเมื่อเติบโตไปในอนาคต อาจกล่าวได้ว่า หากบุคคลไม่มีตัวตนทางกฎหมาย การใช้ชีวิตก็จะยิ่งยากลำบากขึ้น

        ตัวอย่างง่ายๆ ที่เเสดงถึงความยากลำบากของการ ไม่มีตัวตนทางกฎหมายได้เเก่ ถ้าทำบัตรประชาชนหาย ในช่วงที่ต้องใช้บัตร เเละยังไม่มีเวลาไปทำบัตรใหม่ เวลานั้น จะกู้เงิน เปิดบัญชีธนาคาร ทำธุรกรรมต่างๆ หรือเเม้กระทั่งยืนยันว่า ฉันชื่ออะไร นามสกุลอะไร อยู่ที่ไหน ก็ยังลำบาก สำหรับคนที่ไม่มีตัวตนทางกฎหมายทั้งชีวิต การจะใช้ชีวิตอย่างปกติสุขในสังคมเป็นเรื่องที่ต้องกระเสือกกระสนอย่างยิ่งไม่น่าเเปลกใจที่คนไร้ตัวตนส่วนหนึ่งถูกผลักให้ใช้ชีวิตในด้านสลัวของสังคม เพราะด้านที่สว่าง ต้องใช้ ตัวตนทางกฎหมายเป็นใบผ่านทางซึ่งพวกเขาไม่มี 

    การจดทะเบียนการเกิดเป็นขั้นตอนเเรกที่จะทำให้บุคคลมีตัวตนทางกฎหมาย เเละได้รับเอกสารยืนยันถึงตัวตนนั้น เช่นสูติบัตร หากเอกสารดังกล่าวชำรุด สูญหาย การจดทะเบียนการเกิดที่ได้มาตรฐาน สามารถสืบค้นเเละออกเอกสารใหม่ให้บุคคลนั้น ใช้เป็นเอกสารยืนยันตัวตน เเละใช้เพื่อประกอบการของเอกสารพิสูจน์ตนได้ ถ้าบุคคลที่อายุเกิน 15 ปี มีบัตรประชาชน เด็กที่อายุไม่ถึงเกณฑ์ ก็มีใบเกิด หรือสูติบัตร เป็นบัตรประจำตัว 

          เมื่อบุคคลมีตัวตนทางกฎหมาย ก็สามารถใช้เอกสารที่เเสดงว่าตนมีตัวตนทางกฎหมาย เพื่อประกอบการรับสิทธิเเละสวัสดิการที่ตนพึงได้ ไม่ว่าจะในฐานะมนุษย์หรือในฐานะ พลเมือง[2]สิทธิในฐานะมนุษย์ หรือ สิทธิพื้นฐานที่มนุษย์ทุกคนต้องได้รับ โดยไม่คำนึงถึงเชื่อชาติ สัญชาติ หรือบัจจัยอื่นใด ได้เเก่ สิทธิในการได้รับการรับรองตัวตนในฐานะ มนุษย์สิทธิในชีวิต ทรัพย์สิน สุขภาพ สิทธิในการศึกษา สิทธิในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม สิทธิในการเดินทาง สิทธิในการตั้งครอบครัว เป็นต้น ในกรณีที่บุคคลมีฐานะเป็นพลเมืองก็จะได้รับสิทธิเพิ่มขึ้น เช่น สิทธิในการประกอบอาชีพ โดยไม่มีข้อห้ามข้อจำกัด สิทธิในสวัสดิการของรัฐ การได้รับสัญชาติหรือสิทธิอาศัยในรัฐที่ตนอยู่ สิทธิทางการเมือง เป็นต้น ดังนั้นการจดทะเบียนการเกิด เป็นทั้งสิทธิในตัวเอง เป็นทางสู่สิทิในการมีตัวตนทางกฎหมาย เเละเป็นหลักประกันว่า เมื่อบุคคลมีตัวตนทางกฎหมาย ก็สามารถรับสิทธิต่างๆ ที่พึงได้ เเละสามารถใช้สิทธิเหล่านั้น เป็นพื้นฐานในการพัฒนาตนเองต่อไป 

           ทำไม รัฐต้องจดทะเบียนการเกิดให้กับคนทุกคนในดินเเดนของตน ?       

         การจดทะเบียนการเกิดเป็นส่วนหนึ่งของระบบทะเบียนราษฎร ซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐ ในเมื่อการจดทะเบียนการเกิด เป็นการทะเบียนราษฎร เหมือนกับการออกบัตรประชาชน การจดทะเบียนสมรส การทำทะเบียนบ้าน ฯลฯ  ดังนั้นหน่วยงานของรัฐที่ทำหน้าที่ด้านการทะเบียนราฎร สมควรเป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่ออกเอกสารเเละรับรองการจดทะเบียนการเกิดอย่างเป็นทางการ         

         การจดทะเบียนการเกิดสำหรับคนทุกคน มิใช่จำกัดเฉพาะ พลเมือง” “ประชาชนหรือ คนสัญชาติมีความสำคัญต่อการบริหารมนุษย์ที่อยู่ในรัฐ เนื่องจากสภาพโลกในปัจจุบันมีการเคลื่อนไหวย้ายถิ่นทั้งชอบด้วยกฎหมายเเละไม่ชอบด้วยกฎหมายตลอดเวลา การจดทะเบียนการเกิดเฉพาะประชากรที่ ชอบด้วยกฎหมายก็คือการที่รัฐปฏิเสธโอกาสที่จะรับรู้ตัวตนของประชากรที่ ไม่ชอบด้วยกฎหมายซึ่งถึงอย่างไรก็เป็นมนุษย์ เเละมีสิทธิพื้นฐานที่รัฐจะต้องเคารพ  

        ข้ออ้างประการหนึ่งของการจดทะเบียนการเกิดให้เเก่มนุษย์ทุกคนที่เกิดในประเทศไทย คือ เกรงว่าบุคคลที่ได้รับเอกสารการจดทะเบียนการเกิดจะนำมาขอสัญชาติไทยภายหลัง ซึ่งเป็นการนำประเด็นสัญชาติ มาเชื่อมโยงกับการจดทะเบียนการเกิด เเม้การจดทะเบียนการเกิดจะเป็นที่มาของการได้สัญชาติ เพราะการจดทะเบียนการเกิดเป็นการเเสดงความผูกพันระหว่างเด็กกับรัฐที่เด็กเกิด เเละรัฐของบิดา-มารดา เเต่การจดทะเบียนการเกิดไม่ได้เกี่ยวข้องกับการให้สัญชาติโดยอัตโนมัติ หรือสามารถนำมาร้องขอสัญชาติได้เพียงเพราะเกิดในประเทศไทย เนื่องจากประเทศไทยมิได้ใช้หลักดินเเดนในการพิจารณาสัญชาติเป็นสำคัญ มิใช่ว่าทุกคนที่ได้รับการจดทะเบียนการเกิด หรือการจดทะเบียนราษฎรอื่นๆ จะได้รับสัญชาติ   เนื่องจากการจดทะเบียนการเกิดไม่ได้เกี่ยวข้องกับกฎหมายเข้าเมือง ดังนั้นไม่ได้เป็นการทำให้ผู้ที่มีความผิดตามกฎหมายเข้าเมืองพ้นความผิด กลายเป็นคนถูกกฎหมายโดยอัตโนมัติ โดยอาศัยการจดทะเบียนการเกิดเพียงอย่างเดียว  

        การจดทะเบียนการเกิดเเก่คนทุกคนในประเทศไทยช่วยให้รัฐได้ทราบข้อมูลประชากรที่เกิดใหม่ครบทุกกลุ่ม เเละสามารถออกหลักฐานเเสดงข้อเท็จจริงของการเกิด  เพื่อประโยชน์ในการจัดจำเเนกประชากรเเละบริหารประชากรอย่างมีประสิทธิภาพ โดยคำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชน การจดทะเบียนการเกิดมีประโยชน์ต่อการดำเนินการของรัฐมากมาย เช่น ให้ประชากรใช้เป็นหลักฐานในการเข้าถึงสิทธิเเละสวัสดิการ ใช้เพื่อให้บุตรผู้อพยพที่เกิดในประเทศไทย ได้มีหลักฐานเพื่อเดินทางกลับประเทศต้นทางพร้อมบิดามารดา ป้องกันเเละช่วยเหลือเด็กต่างด้าวที่เกิดในประเทศไทยจากการเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ เเละใช้เพื่อการวางเเผนจัดสรรทรัพยากรรองรับประชากรที่เกิดใหม่อย่างมีประสิทธิภาพ 

          หากรัฐยังหลีกเลี่ยงเเละเกี่ยงงอนการจดทะเบียนการเกิดให้กับคนทุกคนที่เกิดในรัฐไทย ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นใคร สุดท้าย คนที่จะต้องปวดหัว ก้หนีไม่พ้นรัฐที่จะต้องตามเเก้ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการไม่ยอมจดทะเบียนการเกิดอย่างทั่วถึงนั่นเอง



[1] โปรดพิจารณา มาตรฐานการจดทะเบียนการเกิดนานาชาติ ได้เเก่ หลัก ถาวร ทันที เป็นทางการ ถ้วนหน้า ถูกหรือไม่มีค่าใช้จ่ายนำ เข้าถึงได้ เเละบูรณาการ ใน “ความสำคัญของการจดทะเบียนการเกิด เเละเกณฑ์มาตรฐาน เพื่อระบบการจดทะเบียนการเกิด ที่เป็นไปตามมาตรฐานระหว่างประเทศ ” เสนอในที่ประชุมคณะทำงานฯ โดยนางสาวแอมมาลี เเม็คคอย
[2] โปรดพิจารณา UNICEF. n.d. Factsheet: Birth Registration.

http://www.unicef.org/protection/files/birthregistration.pdf

-----------------------------------

ทำไมต้องจดทะเบียนการเกิด ?

โดย นางสาวจุฑิมาศ สุกใส

นักวิจัยอิสระ “การจดทะเบียนการเกิดในประเทศไทย”  ภายใต้ความสนับสนุนขององค์การ เเพลนประเทศไทย เเละคณะทำงานศึกษาศึกษาสถานการณ์การจดทะเบียนการเกิดของเด็กในประเทศไทย ภายใต้คณะอนุกรรมการด้านเด็ก เยาวชน เเละครอบครัว คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนเเห่งชาติ

-----------------------------------

หมายเลขบันทึก: 54698เขียนเมื่อ 15 ตุลาคม 2006 16:11 น. ()แก้ไขเมื่อ 31 พฤษภาคม 2012 18:55 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)
นันท์นภัส จันทะโร

ต้องเกิดภายในกี่วัน หรือ ต่อชั่วโมง

คือได้รับใบรับรองการเเจ้งเกิดเเล้วครับเเต่ว่าตัวผมเองต้องมาต่างประเทศก่อนพอดีไปเเจ้งไม่ตามกำหนดอะครับ ต่อมาภรรยานำใบรับรองการเกิดไปเเจ้งที่อำเภอเเต่เจ้าหน้าที่ต้องการเอกสารการเเต่งงานเเล้วก็หลายอย่างไม่ทราบว่าจำเป็นด้วยหรือครับ

อยากทราบข้อเท็จจริงว่า เกิดที่ไหนคะ

แล้วใบรับรองการเกิดนั้นออกโดยใคร ?

ได้ไปแจ้งเกิดลูกสาวที่ว่าการทำเภอเมืองชลบุรี แล้วไม่ได้รับความสะดวกและความเป็นธรรมจากจะขอร้องเรียนแต่ไม่ทราบว่าจะไปแจ้งที่ไหน เนื่องจากว่าข้าพเจิ้ามีเหตุจำเป็นทำให้ไแจ้งเกิดลูกเกินกำหนด เลยไปเก้าวัน และไปแจ้งที่เมืองชล ตอนแรกเจ้าหน้าที่ไม่ยอมรับเรื่องบอกเอกสารไม่ครบ เอกสารก็คือ พ่อแม่สามี พ่อแม่ข้าพเจ้า ซึ่งทั้งสองเค้าอยู่ต่างจังหวัดกันหมดไม่สามารถมาได้ ก็ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ไปแต่ปรากฏว่าไม่ได้ เลยไล่กลับบ้าน และบอกไปหามาให้ครบ จากนั่นก็ได้ขึ้นไปรองสองอีกครั้ง เพราะดิฉันได้ไปศึกษาข้อมูลตามหนังสือและอินเตอเน็ทมาแล้ว ว่าการแจ้งเกิดเกินกำหนดมีเอกสารไม่กี่อย่าง ไม่เห็นต้องให้พ่อแม่สามี หรือพ่อแม่ดิฉันมาเลย และเจ้าหน้าที่เฮงซวยก็บอกว่างั้นก็ไปหาข้าราชการระดับสี่ขึ้นไปมารับรอง ดิฉันก็บอกไปว่าไม่มีหรอก เพราะพึ่งย้ายมาอยู่ไม่รู้จักใคร มันก็ไม่ยอม บอกยังไงก็ต้องหามา อยากจะถามเหมือนกันว่าถ้าตาสีตาสาที่ไม่รู้จักใครใหญ่โต แล้วเด็กที่มันเกิดมาแผ่นดินไทยจะมีใบเกิดได้อย่างไร มีในกฎหมายข้อไหนบ้าง และิดิฉันก็เลยขอร้องเจ้าหน้าที่ให้ทำเรื่องให้ถึงปลัด มันก็ทำหน้าไม่พอใจบอกจะทำให้แต่ไม่รับรองว่าจะออกสูติบัตรให้ได้ไหม จากนั้นก็ได้เรียกข้าพเจ้าไปสอบสอนพร้อมกะเสียค่าปรับ วันนั้นอาข้าพเจ้าไปด้วย ก็โดนสอบสวน ดิฉันก็นึกว่าเรืองเสร็จเพราะมันบอกว่าจะยื่นเรื่องกะปลัดอีก และต้องรอฟังว่าปลัดจะว่าไง ไม่รับรองว่าจะได้ใบเกิดหรือไม่ ซึ่งเอกสารที่ดิฉันยื่นไปก็เป็นใบรับรองเกิดจากโรงพยาบาล พ่อเด็กก็เซ็นรับเด็กออกจากรพ สำเนาทะเบียนบ้านพ่อแม่เด็ก และบัตรประชาชน และพอไปๆมาๆมันสอบสวนก็ขอใบทะเบียนสมรส ซึ่งข้าพเจ้าไม่ได้เอามาด้วยจากต่างประเทษ เป็นทะเบียนสมรสของประเทศแคนาดา สามีเป็นคนไทยค่ะ แต่ไปแต่งงานกันที่แคนาดา เพราะทำงานที่นั่น

ปรากฏว่ามันเอาเอกสารที่ดิฉันยื่นไป วางไว้บนโต๊ะ ไม่ได้ยืนเรื่องให้ปลัด ตอนแรกมันบอกจะยื่นฉันก็อุ่นใจนึกว่ามันจะยื่น แต่ที่ไหนได้เอาไปวางไว้บนโต๊ะตัวเอง และพอดิฉันไปตามเรื่องสามอาืิทิต มันบอกว่าเอกสารไม่ครบยื่นเรื่องให้ปลัดไม่ได้ ดูซิค่ะว่าดิฉันได้รับความเป็นธรรมหรือเปล่า บอกว่าจะยื่นเรื่องให้ปลัดและให้ตามเรื่องประมาณสองอาทิต แต่กลับไม่ทำไอะไรให้ดิฉันเลย พออาทิตที่สามดิฉันก็ไปตามเรื่องมันบอกไม่ได้ ถ้าเอกสารไม่ครบ มันยืนยันจะเอาเอกสารสมรสเพิ่ม และไปแปลมาให้เรียบร้อย สุดท้ายก็มีเรื่องกัน ดิฉันก็เลยบอกว่าทำไมเอาเอกสารดิฉันมาแล้วไม่ยื่น เอามากองไว้ทำไม และปรับไปทำไม มันยังบอกว่าดีนะไม่ปรับมากกว่านี้ ดิฉันก็เลยบอกว่าก็ปรับซิ ไม่ได้กลัว ขอแค่ให้ลูกดิแฉันมีใบเกิด มันชื่อยรรยง เจ้าหน้าที่รับแจ้งเกิดเกินกำหนดที่ว่าการอำเภอเมืองชลบุรี ดิฉันโทรหาพ่อที่อุดร เล่าเรื่องให้ฟัง พ่อเลยบอกให้เอามาแจ้งที่บ้านเกิดตนเอง ดิฉันก็เลยถอนเรื่อง สุดท้าย ก็เลยเอาไปแจ้งที่อุดร แต่ยังไม่ได้ไป กะว่าอยากจะร้องเรียนว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากไอ้ยรรยง ที่ว่าการอำเภอเมืองชลบุรี

อยากจะบอกให้พ่อแม่พีน้องทุกท่านที่อยู่ชลบุรี ทราบว่าถ้าท่านเส้นไม่ใหญ่ หรือไม่ยัดใต้โต๊ะไม่มีทางที่ท่านจะไ้ด้รับความสะดวกในการติดต่อทุกเรื่อง และอาจจะเสียเวลาและเสียความรู้สึกกลับไปเหมือนกะดิฉัน

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท