บทสนทนาประสาคนชอบมวย..กับท่านครูดาบ..เรื่อง พระนางจามเทวี..


การศึกษาเพื่อค้นคว้ารากเหง้าและจิตวิญญาน ด้วยความสำนึกในคุณค่าของบรรพชนชาวสยาม..

...ท่านครูดาบ 2 ท่านสนทนากัน...
ท่านครู1 : พระราชมารดาเจ้ามหันตยศ และผู้น้องเจ้าอนัตยศครองนครลำปาง สืบราชบัลลังค์ คืนมาถึง๕๐ รัชกาล จนมาเสียเมืองลำพูน แก่ พญามังรายมหาราช ในสมัยพระยาเบิกเจ้าเมืองคนสุดท้าย..ผู้ครองนครหริภุญไชยหละปูน คนสุดท้ายคือพญายีบา ก่อนที่จะเสียเมืองให้กับพญามังรายครับ พญายีบาลี้ภัยไปอยู่กับพญาเบิกผู้น้องที่ครองเขลางค์นครลำปาง เพื่อรวบรวมกำลังรี้พล ให้พญาเบิกยกทัพกลับไปตีหริภุญไชยคืนในอีกหลายปีต่อมา พญาเบิกได้กระทำ คชยุทธ กับ เจ้าไชยสงครามโอรสของพญามังราย ณ ทุ่งขัวมุง จนได้รับบาดเจ็บและทัพลำปางแตกพ่าย…พญาเบิกหนีไปจนมุมอยูที่ดอยแห่งหนึ่งและต่อสู้กับทัพเชียงใหม่จนตัวตายในที่รบ..ดอยที่เป็นสมรภูมิสุดท้ายของวีรกรรมพญาเบิก ที่คนพื้นเมืองเรียกกันว่า"ดอยขุนตั๋น" แปลว่า ไม่มีทางไป_คนสมัยต่อมาเรียกออกเสียงเป็นภาษากลางว่า"ขุนตาน"และเพี้ยนมาเป็น"ขุนตาล"ในปัจจุบัน พญาเบิกจึงได้รับขนานพระนามว่า"เจ้าพ่อขุนตั๋น"(ออกเสียงลานนา) หรือ"เจ้าพ่อขุนตาน"(ตามภาษาไทยกลาง) สืบมาจวบจนทุกวันนี้..
ท่านครู2 : เปิดภาพด้วยพระนางเจ้าจามเทวี องค์ปฐมกษัตริย์ของหริภุญไชยนครลำพูน แต่_ไหงกลับไปคุยเรื่อง พญายีบา ยุคสิ้นสุดของหริภุญไชยฯไปเสียได้..
ท่านครู1 : ขอรับท่านครู..หลายวันนี้ คิดอ่านว่า รูปปกของกลุ่ม น่าจะอัญเชิญภาพที่เป็นศิริมงคลของบรรพกษัตริย์ บรรพชน มาเพื่อแต่ละท่าน ได้มีโอกาสนำเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ มาแสดงให้ท่านอื่นๆได้อ่าน ได้ศึกษา น่ะขอรับ..
ท่านครู2 : ..สำหรับพระนางจามเทวีนี้ กระผม มองท่านในแง่มุมของสัญญลักษณ์ของการรวมจิตวิญญาณของ สยามละโว้ ขอมละโว้ และล้านนา เข้าด้วยกัน น่ะขอรับ ( ที่กระผมใช้คำว่า ขอม โปรดเข้าใจว่า ขอม คืออารยะธรรม ของชาวมอญ สยาม ไท ลาว ไม่ใช่จามเพียงชนชาติเดียว หรือ ขะแมร์ชนชาติเดียว แต่ผสมผสานกลมกลืนกัน เป็นอารยะธรรมขอม นะขอรับ. )
ลุงรักชาติราชบุรี (เพิ่งเข้ามา) : กราบสักการะต่อแม่ครูพระนางจามเทวี..ศิษย์มวยรุ่นแรกปู่ครูท่านฤษีสุกกะทันตะ..ครับ
ท่านครู2 : ท่านครูลุงรักชาติขอรับ ตรงประเด็นนี้น่าสนใจมากๆ เนื่องด้วยพระนาง น่าจะเป็น ชาวจาม ท่านฤาษี ก้อเป็น ชาวจาม ฉะนั้นรากฐาน มวย และ ดาบ สายต่างๆ น่าจะพัฒนาผสมผสานมาจาก ชาวจาม แนวคิดนี้ กระผมเคยคิดมานานแล้ว แต่ขาดข้อมูลสนับสนุน เพราะ วิทยายุทธ์ล้านนา ก้อพัฒนามาจากโยนก ล้านช้าง และ มอญ ดูท่า ทั้งหมดจะผสมกลมกลืนกันจนมาเป็นอย่างที่เราศึกษารํ่าเรียนกัน นะขอรับ..
ลุงรักชาติราชบุรี : เอ..ชื่อ จาม อาจมิใช่ จาม (เหมือนคนไทยปัจจุบันใช้ชื่อบาลีบ้าง ฝรั่งบ้าง..พออีกหลายร้อยปี งง)..ผู้อื่นเรียกจาม ก็อาจมิใช่จาม เพราะผู้เรียกเข้าใจผิด เรียกแบบเหมารวม เหมือนเรียก คนจีน คนอินเดีย..และจาม สมัยนู้น อาจไม่ใช่จาม สมัยนี้..นะครับ..ต้องค่อยๆแกะรอย..กระผมสันนิษฐานนะครับว่า..พระนางจามเทวี น่าจะเป็น กระเหรี่ยง ปากะญอ..แต่ คนเข้าใจว่าเป็นพวกเดียวกะมอญ..มอญ รู้จัก กระเหรี่ยง ก่อน ชาวไต ..คนไตสมัยนั้น อาจเรียกคนที่มาจากแดนตะวันตก ว่า จาม..คงเข้าใจผิดเหมือน คนยุโรป ไปอเมริกา เรียก อินเดียน..พระฤษี ก็น่าจะเป็น กระเหรี่ยง เช่นกัน หรืออาจไม่ใช่แต่มาจากแถบเดียวกัน(ธิเบต ปัจจุบัน)..หากดูรูปร่างหน้าตาโดยเปรียบเทียบ ก็คงคล้ายพระปรามาจารย์ตั๊กม้อ ครับ..เพียงแต่พอทราบกันว่า พระนางเป็นเด็กกำพร้า ที่ พระฤษีวาสุเทพ หรือ สุเทวะฤษี เก็บมาเลี้ยง ซึ่งก็อาจเป็นเด็กชาวจามก็ได้..แถบนั้น สมัยก่อนมีอาณาจักรของจาม เข้าถึงอีสานปัจจุบันครับ ขยายมาจากเวียตนามและเขมร กระมัง..ความจริง จามปา จัมปาศักดิ์ นี่ก็พอบอกเค้าของ จาม อยู่..ปาแปลว่าชนเผ่า..ที่มักเคลื่อนย้ายบ่อยๆกระมัง เชอปา กะยูปา…หรือว่า ชนเผ่าจาม คงมีหน้าตาเข้ม มีหนวดเครา จึงอาจดูคล้ายกับ นักบวชพุทธศาสนามหายานลัทธิตันตระ..แต่เป็นมุสลิม..ภาษาธิเบต ปา ใช้ประกอบหลังคำ แต่ภาษากระเหรี่ยง ปา ใช้วางหน้าคำอธิบาย..กะยูปา จึงเป็น ปากะยู ปปากะญอ..หุ หุ
ท่านครู2 : เรื่องนี้น่าสนใจสืบค้นมากขอรับ กระผมเข้าใจว่า จาม มาติดต่อค้าขายตั้งถิ่นฐาน ใน สุวรรณภูมิ นานเป็นพันปี บางส่วนเลยไปถึงเวียตนาม พอจามรุ่นหลังเข้าไปในเขมร ก้อตีกับพวกแรกที่อยู่ในเวียตนาม สุวรรณภูมิให้การสนับสนุนจามที่ตั้งถิ่นฐานในภาคกลาง อีสาน และในเขมร เลยช่วยรบพวกจาม จากเวียตนาม ..ไล่ไปไล่มา ชัก งง งง ขอรับ.
ลุงรักชาติราชบุรี : แต่คำแปล มันตรงกัน..กะยูปา - คนสมถะ..ปากะยู หรือ ปากะญอ - คนเรียบง่าย..กระเหรี่ยง มาจาก เกรียน ภาษามอญ ฝรั่งเรียก keren ..แปลว่า เรียบง่าย..ไทยมาใช้เป็น หัวเกรียน(ทหารเกณท์) ตัดผมสั้นเกรียน ภาษาที่ใช้ของกระเหรี่ยง ก็ ตระกูลเดียวกันกะธิเบต..บันทึกของการเผยแผ่ศาสนาพุทธมหายานลัทธิตันตระ ก็บอกถึงคณะผู้เผยแผ่ที่มาถึงอุตรประเทศ คือ สุวรรณภูมิ และ สยาม..เผลอๆคำว่า สยาม อาจมาจาก เสียมจง ภาษาจีน เป็นแขนงหนึ่งของ ตันตระ..และสุดท้าย รำหมัดรำมวย มาจาก ท่ารำมุทรา ในการฝึกสมาธิของตันตระ และกลายเป็นนาฏราช นาฏศิลป์ ส่วนมวยไทย เหลือแค่ไหว้ครู นิดหน่อย กะการชกต่อยต่อสู้ โหดๆ หุ หุ..
ท่านครู2 : ที่ท่านลุง เล่ามา กระผมเห็นด้วยทุกข้อเลย คิดเช่นนั้นขอรับ..
ลุงรักชาติราชบุรี : อ้าว..แล้วกันครับท่านครู..ข้อมูลเหล่านี้ยังไม่น่าเชื่อถือดอก เพราะหยิบตรงนั้นต่อตรงนี้ ยังไม่เข้าจิกซอว์เพียงแต่เห็นเค้าลางเท่านั้น ครับ..แต่ก็น่าจะทำให้เกิดข้อสงสัยที่ช่วยเป็นแนวสำหรับผู้สนใจศึกษาที่มีองค์ประกอบครบถ้วนของนักวิชาการนะขอรับท่าน...ถางๆๆๆๆๆๆๆๆทางๆๆๆๆๆๆๆๆ..แหะ แหะ..เอ้อ..อีกอย่าง เสี่ยมจง เป็นแขนงที่เน้น การฝึกปราณ หรือ ฌาน หรือ ซาโตริ และ ก็คือ เซน นะแหละครับ..ต้นกำเนิด กังฟู ไท้เก๊ก เทควันโด คาราเต้ ไอกิโด ฮับกิโด้ ทักซิโด้..อันนี้ม่ายช่ายแระ..หุ หุพูดถึง จาม มันมีคำที่ใช้อยู่ในภาษาไทย จามหัว..พวกจามเนี้ย คงใช้อาวุธหนักประเภทขวาน หรือ อีโต้ กระมัง และ ไอจาม เนี้ยก็ พวกนี้ คงชอบ ฮัดเช้ย เสียงดังแบบแขกอินตะระเดีย..ส่วนจามร หรือ จามรี คงเคยเป็นพาหนะของพวกนี้..หรือว่าได้ชื่อนี้เพราะมีขนรุงรังหน้าตาคล้ายแขกจาม..หุ หุ ลากมั่วไปเรื่อย นะขอรับ..แบบว่านักประสาสาท..

ท่านครู2 : ที่ท่านลุง เล่ามา เรื่อง จาม กระผมก็พอจะได้รับทราบมา เห็นว่าเข้าเค้าอยู่ขอรับ ยกเว้น จามหัว ไอจาม จามรี อันนี้น่าจะไม่ใช่ หุ หุ..

...แว่วเสียงหัวเราะ แทรกรัตติกาล อันสมควรแก่เวลาพักผ่อน ของ ผู้สูงวัย...(ปิดฉาก)....

หมายเหตุ : บทสนทนานี้ได้คัดลอกมาจากหน้าเพจfacebookของกลุ่มสืบสานดาบไทย และมีการตัดต่อบ้างเพื่ออรรถรสในการอ่าน..ขออภัยและขอขอบคุณสมาชิกของกลุ่ม มา ณที่นี้ด้วย..

หมายเลขบันทึก: 546642เขียนเมื่อ 26 สิงหาคม 2013 11:28 น. ()แก้ไขเมื่อ 24 กันยายน 2013 14:56 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

กราบขออนุญาตท่านครูทั้ง2ในการนำบทสนทนามาเผยแพร่ เพื่อเป็นประโยชน์กับท่านผู้สนใจ ครับผม..

   

.... ทำให้คนรุ่นหลังๆ  ... ได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ .... นะคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท