Collocation : ต้นเหตุสำคัญที่ทำให้คนไทย เขียนและพูดภาษาอังกฤษไม่ได้มาตรฐาน


ปัญหาที่พบมากที่สุด ในการเรียนภาษาอังกฤษ

พวกเราเขียนและพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ เพราะว่าเราถูกสอนอยู่เพียง 2 ส่วนคือ คำศัพท์ (Vocabulary) และ ไวยากรณ์ (Grammar) แต่ในความเป็นจริง คือ คำศัพท์ในภาษาอังกฤษส่วนใหญ่จะถูกใช้เป็นกลุ่มคำ ไม่ใช่นำคำศัพท์แต่ละคำมาเรียงต่อกันเป็นประโยคเหมือนภาษาไทย

ยกตัวอย่างเช่น

"ฉันไปโรงเรียน" ฝรั่งใช้ I go to school. ไม่ใช่ I (ฉัน) go (ไป) school (โรงเรียน)
แต่ "ฉันกลับบ้าน" ฝรั่งใช้ I go home. ไม่ใช่ I go to home.
สุขสันต์วันเกิดแด่เธอ Happy birthday to you. ไม่ใช่ Happy birthday for ( แด่ สำหรับ) you.
เขาผ่านไป ฝรั่งใช้ He passed by. ไม่ใช่ He passed(ผ่าน) away (จากไป)
เพราะ "pass away" แปลว่า ล่วงลับ ตาย
เรามักใช้คำภาษาอังกฤษ แปลเป็นไทยตรงๆ จึงทำให้ฝรั่งไม่เข้าใจ
จากประสบการณ์ การทำงานแปลและเขียนภาษาอังกฤษ มาเป็นเวลานานกว่า 50ปี คุณวงศ์ วรรธนพิเชฐ ผู้เรียบเรียง พจนานุกรม English By Example มีความเห็นว่า ประโยคภาษาอังกฤษไม่ใช่มีเพียงแค่

ประธาน (Subject)
+
กริยา (Verb)
+
กรรม (Object)
แต่ความจริงแล้ว องค์ประกอบที่สำคัญในการแต่งประโยคภาษาอังกฤษให้ได้มาตรฐาน มี 3 ส่วน คือ

คำศัพท์ (Vocabulary)

+

ไวยากรณ์ (Grammar)
=
ประโยค (Sentence)
+

Collocation


Collocation คืออะไร

อธิบายง่ายๆ Collocation คือ กลุ่มคำที่ต้องใช้ร่วมกัน หรือ เรียกอีกอย่างว่า "คำปรากฏร่วม"
จากตัวอย่างที่ได้กล่าวมาข้างต้น "go to school", "go home", "Happy birthday to you", "pass by", "pass away" เป็น Collocation

Collocation นั้นไม่เกี่ยวกับหลักไวยากรณ์ เพราะบางกลุ่มคำถึงแม้จะวางสลับตำแหน่ง หรือใช้คำไม่ถูก แต่ ก็ไม่ผิดไวยากรณ์แต่ประการใด แต่การใช้ Collocation ผิด จะทำให้เจ้าของภาษาหรือผู้ที่รู้ภาษาอังกฤษมากๆ ทราบได้ทันทีว่า เราเป็นคนต่างชาติและใช้ภาษาอังกฤษไม่ได้มาตรฐาน

คำว่า Collocation มาจากคำภาษาอังกฤษ 2 คำ คือ col (to do something with something or someone) + location มีคำแปลภาษาไทยว่า "คำปรากฏร่วม" Collocation เป็นการเชื่อมคำ การจัดวางคำ หรือกลุ่มคำ (รวมทั้ง idioms) ที่จำเป็นต้องใช้ร่วมกันในประโยค ที่เจ้าของภาษานิยมใช้ และเห็นว่าถูกต้องตามมาตรฐาน ซึ่งคำที่ใช้ร่วมกันนั้น จะใช้คำอื่นแทน หรือสลับตำแหน่งกันไม่ได้ ถึงแม้ว่าคำที่จะใช้แทนจะมีความหมายเหมือนกัน หรือใกล้เคียงกันก็ตาม

ความจริงทุกภาษาก็มี collocation รวมทั้งภาษาไทย ตัวอย่างเช่น

คำบางคำเมื่อใช้ร่วมกันแล้วสลับตำแหน่งกันไม่ได้ เช่น

Thai collocation
บ่ายสองโมง ไม่ใช่ สองโมงบ่าย (บ่ายต้องนำหน้าเวลา)
ห้าโมงเย็น ไม่ใช่ เย็นห้าโมง (เย็นต้องตามหลังเวลา)
หรือ ฝนตกไม่ลืมหูลืมตา (ฝนตกหนัก) ไม่ใช่ ฝนตกไม่ลืมตาลืมหู
คนไทยก็ไม่มีเหตุผล หรือหลักไวยากรณ์ในเรื่องนี้ ทั้งที่บ่ายกับเย็น มีความหมายบอกช่วงเวลาของวันเหมือนกัน หรือ หูกับตาก็เป็นอวัยวะเหมือนกัน แต่สลับตำแหน่งกันไม่ได้

English collocation
It rains cats and dogs.
ประโยคนี้เป็นสำนวน (idiom) แปลว่า ฝนตกหนัก
คำว่า cats and dogs เป็น collocation
เราไม่สามารถ เขียนเป็น dogs and cats หรือ cats and cows ได้


คำบางคำเมื่อใช้ร่วมกัน ความหมายก็เปลี่ยนไป เช่น

Thai collocation
หินอ่อน คือ marble ไม่ใช่ หินนุ่ม หินนิ่ม หรือ soft rock
ตัดถนน แปลว่า ทำถนนสายใหม่เพิ่ม ตัด แปลว่า ทำให้สั้นลง ลดลง แยกออกจากกัน
English collocation
The cloth has fast colour. (ผ้าสีไม่ตก)
เราจะทราบกันโดยส่วนใหญ่ว่า fast แปลว่า "เร็ว"
คำว่า stable หรือ durable ซึ่งแปลว่า "ทนทาน" น่าจะใกล้เคียงกว่า
แต่เจ้าของภาษาไม่ใช้คำว่า stable colour หรือ durable colour
ดังนั้นจึงต้องใช้คำว่า fast colour ตามเจ้าของภาษา ดังนั้นคำว่า fast colour จึงเป็น collocation


คำบางคำความหมายเหมือนกัน หรือใกล้เคียงกัน แต่ใช้แทนกันไม่ได้ เช่น

Thai collocation
ย่านธุรกิจ ไม่ใช่ เขตธุรกิจ
เขตป่าสงวน ไม่ใช่ ย่านป่าสงวน
พื้นที่สีเขียว ไม่ใช่ เขต/ย่าน สีเขียว
English collocation
คำว่า strong กับ powerful มีความหมายใกล้เคียงกัน
แต่ภาษาอังกฤษจะใช้คำว่า strong wind, strong competition
และ powerful machine, powerful engine, powerful weapon
เราไม่สามารถใช้ strong machine หรือ powerful wind ได้

 

ความสำคัญของ Collocation

Collocation เป็นองค์ประกอบสำคัญที่ถูกละเลย ไม่ได้รับความสำคัญในการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ ทั้งๆ ที่ Collocation ถูกใช้ในการเขียนภาษาอังกฤษ มากถึง 60-80% ดังนั้น การเน้นให้ท่องจำศัพท์เป็นคำๆ มากๆ จึงไม่ทำให้เราเรียนภาษาอังกฤษเก่งขึ้น เท่ากับการฝึกให้จดจำศัพท์เป็นกลุ่มคำ (Collocations) ศัพท์ที่ใช้ในชีวิตประจำวันทั่วไป มีไม่ถึง 4,000 คำ แต่ Collocations หรือกลุ่มคำศัพท์ที่ใช้ร่วมกับคำศัพท์เหล่านั้น มีมากมายหลายหมื่น Collocations ดั้งนั้น หากเรารู้ Collocations หลายหมื่น Collocations ก็เท่ากับว่า เราสามารถแต่งประโยคที่ถูกต้องได้มากมายนับไม่ถ้วน

ข้อควรระวังที่สำคัญยิ่ง พวกเราหลายคน ชอบเขียนภาษาอังกฤษแบบแปลตรงตัวจากไทยเป็นอังกฤษ ซึ่งอาจมีการใช้ Collocation ผิด ทำให้ความหมายผิดไปด้วย ตัวอย่างเช่น

เธอเป็นคนใจเย็น
Correct: She is cool-tempered.
Wrong: She is cold-hearted. (เธอเป็นคนใจร้าย)
เขาผ่านไป
Correct: He passed by.
Wrong: He passed away. (เขาเสียชีวิต)
เขาทานยา
Correct : He takes medicine.
Wrong: He takes drugs.(เขาติดยาเสพติด)
บ้านหันหน้าไปทางทิศตะวันออก
Correct: The house looks east.
Wrong: The house turns to east.
เธอเป็นคนง่ายๆ
Correct: She is easy-going.
Wrong: She is an easy woman. (เธอเป็นผู้หญิงใจง่าย)
บทความที่เกี่ยวข้อง
2 วิธีเท่านั้น ที่ทำให้เราสามารถรู้ Collocations ได้มากๆ

ความเห็นของผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาอังกฤษ

ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาอังกฤษได้จัดให้ Collocation เป็นเรื่องที่ยากที่สุดเรื่องหนึ่ง ในการเรียนภาษาอังกฤษ ของคนต่างชาติ ดังนี้

Harold E. Palmer (1877-1949)
ผู้แต่งหนังสือชื่อ "A Grammar of English Words"
Related link
http://en.wikipedia.org/wiki/Harold_E._Palmer
ได้เขียนไว้ในคำนำหน้า iii-iv ว่า
"ข้อผิดพลาดส่วนใหญ่ในการเขียนเรียงความภาษาอังกฤษของนักศึกษาต่างชาตินั้นเกี่ยวข้องกับเรื่องคำศัพท์.... มีคำศัพท์ในภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อยประมาณ 1,000 คำ ที่ไม่เคยก่อความยุ่งยากในการใช้แก่ผู้ที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ แต่กลับสร้างปัญหาให้กับนักศึกษาต่างชาติ และเป็นเครื่องกีดขวางไม่ให้นักศึกษาต่างชาติใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างถูกต้อง และมีประสิทธิภาพ คำศัพท์เหล่านี้ "ยาก" เนื่องจากสาเหตุหลายประการ ได้แก่
1. คำศัพท์แต่ละคำทำหน้าที่ได้มากกว่า 1 ประเภท . . .
2. คำศัพท์แต่ละคำอาจมี Collocations ได้มากมายหลายแบบ . . ."


Della Summers
บรรณาธิการอำนวยการของพจนานุกรม Longman Language Activator - The World's First Production Dictionary (1993, p.8)
Related link
www.dellasummersdictionaries.com
ได้กล่าวถึง Collocations ในพจนานุกรมเล่มนี้ว่า
"นักศึกษาจะแสดงความจำนงอยู่เสมอถึงความจำเป็นที่ต้องมีพจนานุกรมที่สามารถบอกพวกเขาได้ว่า ศัพท์คำใดที่ถูกต้องสำหรับข้อความนั้นๆ วลีใด หรือ Collocations ใดที่จะช่วยให้พวกเขาพัฒนาความสามารถในการสื่อสิ่งที่พวกเขาต้องการสื่อ"


A.P. Cowie, University of Leeds
ได้เขียนไว้ในบทนำของ Oxford Advanced Learner's Dictionary of Current English by A.S. Hornby, Fourth Edition (1995, p. vii ) ที่แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของ Collocations ไว้ว่า "เป็นเวลากว่า 40 ปีแล้ว ที่ Oxford University Press ได้จัดพิมพ์ Advanced Learner's Dictionary ของ A.S. Hornby ขึ้นเป็นครั้งแรก ซึ่งนับเป็นผลงานบุกเบิกอันโดดเด่น ที่เกิดจากการวิจัยอันละเอียดลึกซึ้งในแง่มุมต่างๆ ของการใช้ภาษาอังกฤษ รวมทั้งโครงสร้างประโยค และ Collocations อันเป็นที่รู้กันดีว่า สร้างความยากลำบากให้กับนักศึกษาชาวต่างชาติ"


Tom McArthur
The Oxford Companion To The English Language ปี 1992
ได้ระบุความสำคัญของ Collocations ไว้ในหน้า 231 - 232 ว่า "Collocations เป็นพื้นฐานของภาษา ที่ผู้ศึกษาจำเป็นต้องเรียนรู้ถึงความละเอียดอ่อนของมัน เพราะความผิดพลาดในการจัดเรียงคำในการเขียนภาษาอังกฤษ จะเป็นเครื่องบ่งชี้ที่สำคัญถึงความเป็นคนต่างชาติ"


Top



2 วิธีที่ทำให้คุณรู้ Collocations ได้มากๆ


เนื่องจาก Collocations เป็นสิ่งที่ไม่มีหลักเกณฑ์ตายตัวเหมือนไวยากรณ์ ผู้สอนภาษาอังกฤษจึงไม่สามารถสอน Collocations ได้ทั้งหมดในสถานศึกษา ดังนั้น หากคุณต้องการรู้ Collocations มากๆ จึงมีเพียง 2 วิธีเท่านั้น คือ

1. ท่องจำและฝึกฝนจนขึ้นใจ
เพราะภาษาเป็นเรื่องของการเลียนแบบ ดังนั้นการเขียนหรือพูดให้ได้อย่างเจ้าของภาษา คุณจะต้องหัดสังเกตกลุ่มคำ ดูว่าคำใดมักใช้คู่กับคำใด รวมทั้งสังเกตวิธีการวางตำแหน่งของคำที่เจ้าของภาษาใช้ ทั้งจากการอ่านมากๆ และฟังมากๆ แล้วหมั่นฝึกฝนใช้ Collocations เหล่านั้น ด้วยการเขียนมากๆ และพูดมากๆ จนเคยชินและชำนาญ วิธีนี้หากตั้งใจจริง และอดทนในการฝึกฝน คุณจะประสบความสำเร็จแน่นอน แต่คนส่วนใหญ่มักจะท้อเสียก่อน

2. มี พจนานุกรม English By Example เป็นคู่มือ
พจนานุกรม English By Example เป็นพจนานุกรม English Collocations ฉบับแรก และฉบับเดียว ของประเทศไทย ที่จัดทำขึ้นเพื่อเป็นคู่มือให้คนไทยที่ไม่มีโอกาสอ่าน เขียน พูด หรือพบเห็นตัวอย่างการใช้คำภาษาอังกฤษได้มากๆ สามารถเปิดค้นหาตัวอย่างประโยค หรือวลีที่ต้องการเขียนได้ นอกจากนี้ผู้ที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษในการทำงาน เมื่อเกิดข้อสงสัย ก็สามารถค้นหาคำศัพท์ที่ถูกต้องจากพจนานุกรมฉบับนี้ได้เช่นกัน

พจนานุกรม English By Example นี้รวบรวมคำศัพท์ภาษาอังกฤษ ที่ถูกใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน หรือคำศัพท์ที่คนไทยมักใช้ผิดจำนวน 4,663 คำ คำศัพท์แต่ละคำมีตัวอย่างการใช้คำ ในรูปของวลีหรือประโยคในสถานการณ์ต่างๆ เป็นจำนวนมาก และมากกว่าพจนานุกรมทั่วไปหลายเท่า ไม่ว่าจะเป็นพจนานุกรมอังกฤษ-อังกฤษ หรือ อังกฤษ-ไทย ซึ่งตัวอย่างมากมายเหล่านี้ มีข้อดีคือ คุณไม่ต้องเปิดพจนานุกรมหลายเล่มเพื่อหาตัวอย่างที่ต้องการเขียน เมื่อใดที่คุณนึกประโยคไม่ออก คุณเพียงเปิดไปที่คำศัพท์หลักที่ต้องการเขียน แล้วค้นหาตัวอย่างในพจนานุกรมเล่มนี้คัดลอกได้เลย หากตัวอย่างเป็นวลี คุณแค่หาประธาน กริยา หรือกรรมใส่ไปก็จะได้ประโยคที่ต้องการเขียน ทำให้การแต่งประโยคเป็นเรื่องง่าย ไม่ยากอย่างที่เคยประสบ นอกจากนี้ภาษาไทยที่แปลกำกับในแต่ละตัวอย่างยังช่วยให้คุณเข้าใจความหมายของตัวอย่างประโยคได้ถูกต้องอีกด้วย

คำสำคัญ (Tags): #Collation
หมายเลขบันทึก: 546346เขียนเมื่อ 23 สิงหาคม 2013 14:05 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 สิงหาคม 2013 14:05 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)
  • สวัสดีครับ
  • มารับความรู้ครับ 
  • ขอบคุณครับ

-สวัสดีครับ..

-เป็นคนหนึ่งที่ไม่สันทัดเรื่อง Eng ครับ..

-ตอนสมัยเรียนไม่ชอบเลย 55

-มาถึงตอนนี้อยากเรียนรู้เพิ่มเติมแล้วล่ะครับ...

-ขอบคุณครับ

เรียน คุณจันทิมา

บทความเขียนนี้นับว่า เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ขอเสนอความเห็นเพิ่มเติมด้งนี้ ครับ ครูภาษาอังกฤษ ของเรายังขาดประสบการณ์ และ ความรู้ภาษาอังกฤษทึีถูกAEC ทุกโรงเรียนมุ่งหาแต่งธงชาติของประเทศเออีซี แต่กิจกรรมมีน้อย แต่ก็พอจะตื่นตัวบ้าง ค่อย ๆ ทำไป ก็จะค่อย ๆ ดี นะครับ ไม่ทราบว่า English by Example หาชื้อได้ที่ไหนครับ

อ.จัน

ผู้เขียนอยากบอกว่า ในชีวิตจริงหลายๆคนไม่เคยเรียนตามหลักไวยกรณ์มาก่อน แต่ก็ประสบความสำเร็จครับ ในเรื่องงานนั้นผมอยากบอกว่าทำอย่างไรก็ได้ที่ สามารถทำให้ฝ่ายตรงข้ามเข้าใจ..ไม่ต้องถูกหลักมากนัก. ผมเคยสัมภาษณ์คนจบปริญญามา ตอบได้จริง๑-๒ข้อเท่านั้นเอง..อีก๘ข้อผิดหมด..แต่ถ้าใครสามารถนำวิชาความรู้มาผสานกับประสบการได้..ผู้นั้นน่าจะประสบความสำเร็จมากกว่าใครบางคน..* มาถึงตรงนี้อยากนำใบประกาศฯระดับดิพโพลม่ามาให้ท่านได้ชมกันบ้าง..อย่าเข้าใจว่าผู้เขียนอวดอ้างเลยน๊ะ..ไปอบรมและรับมาจริง..

ดิ๊พ. : จากสถาบันภาษา ลั๊คแลนด์ เท๊กซัส / เซอร์. จากแค๊มป์เพ็นเดิลตั้น. เหล้าไม่เกี่ยว..ไว้ดื่มเองครับ.

ไปอบรมมาจริง และรับประกาศฯมาด้วยตนเองจริง..

ขอบคุณทุกความคิดเห็นนะคะ บทความนี้เอามาจากในอินเตอร์เน็ตนะคะ แต่ไม่ได้ลงที่มาพอดีรีบ ดิฉันจะชอบหาวิธีการสอนภาษาอังกฤษเพื่อให้สามารถสื่อสารได้ จะได้สอนตนเอง ลูกศิษย์นะคะ ต้องขอโทษที

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท