ผมเห็นวิดีโอนี้เมื่อหลายสัปดาห์ก่อน ว่าจะเขียนบันทึกแนะนำสมาชิก GotoKnow ให้เข้าไปดูผมก็พึ่งมีเวลาวันนี้นี่เองครับ
วิดีโอนี้เด็ดมากครับ พระนำโยมรำเป็นแถวเลยครับ แต่เป็นการรำชี่กง และไม่ใช่พระไทย ผมเดาว่าท่านเป็นพระในวัดที่มาเลเซีย เพราะชื่อท่านยังเป็นไทยอยู่ แล้วมาเลเซียตอนทางเหนือที่ติดกับประเทศไทยนั้นมีคนไทยและวัดไทยเยอะอยู่ไม่น้อย (ผมทราบจากบันทึกของ อ. umi นั่นเอง)
สิ่งที่น่าคิดก็คือ ถ้าพระรูปนี้อยู่ในประเทศไทย เรื่องนี้จะกลายเป็นข่าวได้หรือไม่? แล้วการที่พระรำชี่กงนี่ผิดศีลหรือเปล่า?
เรื่องกลายเป็นข่าวนั้นผมคิดว่าน่าจะไม่มีมากนัก เพราะประเด็นมันเล็กน้อยเกินกว่าที่จะเป็นข่าวได้ใหญ่โต แต่เรื่องการพระรำชี่กงนั้นเป็นสิ่งที่ควรทำหรือไม่นั้นเป็นสิ่งที่น่าคิดครับ
ในตอนนี้กิจกรรมในการออกกำลังกายของพระที่ผมเห็นก็คือการเดินบาตรในตอนเช้า การเดินจงกรม และการเก็บกวาดลานวัดในตอนเย็น แต่พระจำนวนไม่น้อยที่ไม่ได้ทำกิจกรรมเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอ แล้วมาประกอบกับอาหารที่โยมถวายเดี๋ยวนี้มีลักษณะเป็น "ของถูก" เสียส่วนใหญ่ เราเลยเห็นพระอ้วนและมีปัญหาสุขภาพอยู่เต็มบ้านเต็มเมือง
แต่เขาว่าพระอ้วนบางรูปก็ไม่ได้เกิดเพราะฉัน "ของถูก" นะครับ เรื่องนั้นผมไม่รู้และไม่ขอเขียนถึง
ตามตำนานพระโพธิธรรม (ตั้กม้อ) ผู้ก่อตั้งวัดเส้าหลินบอกไว้ว่า เมื่อท่านไปจากอินเดียไปถึงเมืองจีนพบเห็นพระจีนสุขภาพไม่ดี ท่านเลยประยุกต์วิชาโยคะจนกลายเป็นวิชามวยจีนให้พระฝึกฝนเพื่อให้มีสุขภาพดี มวยจีนก็เลยกลายเป็นสิ่งขึ้นชื่อเป็นหลักของวัดเส้าหลินทั้งๆ ที่วัดนี้เป็นจุดกำเนิดของนิกายเซนในจีนแท้ๆ
เลยน่าคิดว่าถ้าเกิดมีพระไทยสักรูปเกิดนำพระรำมวยไทยตอนเย็นๆ เพื่อสืบสานศิลปะการต่อสู้ของไทยและเพื่อเสริมสุขภาพของพระนั้นจะเกิดอะไรขึ้น สังคมจะวิพากษ์วิจารณ์อย่างไร
ผมหมายถึงซ้อม "รำมวย" นะครับ ไม่ใช่ซ้อมชกมวย
ที่จริงแล้วการรำมวยไทยนั้นผมคิดว่าเป็นศิลปะขั้นสูงไม่ได้แพ้ศิลปะการต่อสู้ของชาติไหนเลย แต่ตอนนี้เวลาดูมวยตามในทีวีเราแทบจะไม่เห็นนักมวยไทยรำมวยกันแล้ว เห็นมีแต่เอาแขนหมุนๆ ในอากาศสองสามทีพอเป็นพิธีเท่านั้น
การรำมวยนั้นนอกจากการรำของนักมวยแล้ว ดนตรีประกอบก็เป็นดนตรีชั้นสูงอีกเช่นกัน การเป่าปี่มวยนั้นไม่ใช่เป่าง่ายๆ นะครับ ผมเป็นนักดนตรีไทยเก่าผมรู้ดี
นอกจากการรำมวยแล้วยังมีการรำกระบี่กระบองอีก ถ้าพระสักรูปนำโยมรำมวยไทยและกระบี่กระบองจะเกิดอะไรขึ้น?
ที่จริงแล้วการเคลื่อนไหวตัวอย่างเช่นในการรำมวยและรำกระบี่กระบองนั้นเป็นการฝึกสมาธิแบบหนึ่ง ไม่ใช่เพียงแค่ฝึกกำลังร่างกายเท่านั้น ถ้าเราไปดูในศาสนาฮินดูซึ่งเป็นต้นตอของศิลปะการฝึกสมาธิทั้งหลายที่ศาสนาพุทธรับมาอีกทีนั้น เราจะเห็นรูปแบบการทำสมาธิโดยมีการเคลื่อนไหวประกอบมากมาย นั่นคือ "โยคะ" ทั้งหลายนั่นเองครับ
พอเขียนถึงโยคะก็นึกขึ้นได้ว่าถ้าเกิดมีสักวัดที่มีพระนำโยมฝึก "ฤาษีดัดตน" จะเกิดอะไรขึ้น?
เรื่องพวกนี้น่าคิดทั้งนั้นครับ
องค์กรที่สนับสนุนด้านสุขภาพต่างๆ นั้นน่าจะ "แปลงวัดให้กลายเป็นที่ออกกำลังกายของชุมชน" แต่ต้องสนับสนุนการออกกำลังกายแบบไทยๆ หรือแบบเอเซียของเราที่มีอยู่มากมาย ไม่ใช่ให้ไปเปิดเพลงให้โยมผู้หญิงใส่ชุดฟิตๆ ไปเต้นแอโรบิคในวัดนะครับ เดี๋ยวพระวิ่งหนีจีวรปลิว
แต่ที่จริงอาจจะมีแล้ว ผมอาจจะตกข่าว ในประเทศไทยเรามีพระรูปไหนหรือวัดไหนที่มีกิจกรรมในลักษณะนี้บ้างครับ?
... เปิดเพลงให้โยมผู้หญิงใส่ชุดฟิตๆ ....ไปเต้นแอโรบิคใน.."วัด" เห็นด้วย นะคะ .... การออกกำลังกาย มีหากหลายรูปแบบ นะคะ ... ควรดู/วิเคราะห์ ... ให้เหมาะสมกาละ นะคะ
ÄÄÄ..เห็นในยูทูป..เมื่อสองวันนี้..โดยบังเอิญ..(น่าจะเป็น พระไทย)..สวด..เป็น..สำเนียง..ร้อค..(ฟังๆน่าจะเป็นสวด..สะเดาะเคราะห์..อ้ะะ...)...(คิดว่า..พระ..ก็เป็นมนุษย์..ธรรมดาๆ..นี่แหละ..เขาให้..โอกาศ..คนที่..อยากเรียน..ฝึกความเพียร..ชนะ.."ตน")
ให้..เรียน..ถึง "..ทางรู้แจ้ง"...........พระเณร..ในทิเบต..ถ้าไม่มีกิน.(.ก็ต้องทำงาน..เป็นต้น)..พระใน..วัด.เส้าหลิน..เดินทางรอบโลก..แสดงถึง..ความรู้แจ้งในระบบร่างกาย..ที่ฝึก..ให้มีความอดทน..สูงเป็นต้นว่า..เอาเหล็ก..ตีกระบาน..ตนเอง..(เหล็ก..หัก..กระจาย..)..ไม่ใช่หัว..จะเละ..(นี่ไม่ใช่เล่นกลนะ..เห็นมากะ..ตา..อิอิ)...พระเหล่านี้..มีรายได้..นะ...(ถึอว่า..สุจริต..มิได้เบียดเบียน...(.ขอเขากิน..ไปวันๆ..อย่างที่เห็นๆมากมาย..ในบ้านเรา..แถมมีเงินเป็นร้อยล้านน่ะ..อิอิ.).
..น่า..จะ..สรุป..ว่า..คนนุ่งห่มเหลือง..ก้อ..คน..ธรรมดาๆ..เนี่ยะ..มี..รัก..โลภ..โกธร..หลง..เป็น..ธรรมดา...ๆๆๆ..(ถ้า..คนที่ไม่นุ่งเหลือง..แต..นิยมสีเหลือง...แล้ว..คิดไม่ได้..ก็..คงไม่ยกยอด..ไป..อยู่ที่คน..นุ่งเหลือง..นะ.(.ห่มเหลือง..ดีๆก็มีถม..ท่านก็เป็น..คน..ธรรมดาๆที่น่า..ยกย่อง..อ้ะ...)
ผมเห็นบางวัดจัดเป็นชุดฟิตเนตเลยครับ มีอุปกรณ์หลายชนิดอยู่ครับ
คิดว่าพระภิกษุ ควรจะสำรวมในทุกๆอิริยาบทค่ะ (ความเห็นส่วนตัว)
...เป็นเรื่องที่แปลกจากจริยวัตรปกติของพระสงฆ์นะคะ
ความเห็นส่วนตัวของดิฉันนะคะคิดว่า กิจของพระสงฆ์ที่บัญญัติไว้สำหรับการออกกำลังในการเดินบิณฑบาตร การเดินจงกรม หรือการทำความสะอาดบริเวณวัดก็น่าจะพอเหมาะสมกับการฉันอาหารเพียง 1-2 มื้อ ของพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบแล้ว คงไม่เหมาะกับการทำอะไรอย่างคนปกติที่ืถือแค่ศีล 5
เข้าใจว่าในพระไตรปิฏก น่าจะได้กล่าวไว้แล้ว
ความพอประมาณ มีสติในการฉัน อย่างมีสติ พิจารณา
และทำกิจของสงฆ์ให้ครบก็ไม่อ้วนแล้ว เว้นแต่กรรมพันธุ์
พระสงฆ์ท่านตัดภารกิจเรื่องแบบฆราวาสไปหลายข้อ
พระสงฆ์เป็นเนื้อนาบุญ ให้โยมได้ฝึกละกิเลส ละโลภทั้งปวง
แต่ไม่ได้เป็นธนาคารรับฝากโรคไปด้วย ....ขอบคุณค่ะ
พุทโธ ธัมโม สังโฆ อมิตพุทธ !