อ่านแล้วอ่านอีกเพื่อหลีกความโง่... คือประโยคที่ผมได้ยินมาตั้งแต่สมัยเด็ก ๆโดยจำไม่ได้ว่าเป็นของใครแต่ประโยคนี้มันฝังลงในความทรงจำของผมจวบจนถึงวันนี้ แต่ผมเองนั้นก็มิได้สนใจปฏิบัติเสียเท่าไหร่นัก เพราะเป็นคนที่ไม่ชอบอ่านหนังสือมาแต่ไหนแต่ไร ยิ่งแบบอ่านทุกหน้าทุกบรรทัดละก็ไม่มีทาง วิธีการอ่านของผมนั้นมักจะเปิดจากท้ายเล่มแบบผ่าน ๆมองไปเรื่อง ๆเพื่อหาจุดสนใจเพื่ออ่านในรายละเอียด ด้วยวิธีการอ่านแบบนี้ไม่แปลกเลยที่ผมจะไม่เคยอ่านหนังสือประเภทนวนิยาย การ์ตูน หรือเรื่องสั้นที่นักเขียนต่างถ่ายทอดไว้มากมาย
จนหลังปี ๒๕๔๘ หลังจากที่สูญเสียแม่อันเป็นที่รัก ผมกลับกลายเป็นคนละคนในหลาย ๆเรื่อง รวมถึงผมสนใจที่จะอ่านหนังสือแบบอ่านเพื่อต้องการที่จะรู้แม้แต่อารมณ์ที่แฝงไว้ในตัวอักษรที่ผู้เขียนพยายามถ่ายทอดไว้ในงานนั้น ๆ และหลายคนที่รู้จักผมจะสามารถพบเห็นผมได้ตามร้านหนังสือที่หนังสือใหม่และหนังสือมือสอง เมื่อมีโอกาสผมมักจะแวะไปที่นั่นเสมอหนังสือจำนวนหนึ่งที่ผมอ่านทั้งหนังสือใหม่ หนังสือมือสอง และหนังสือ
เมื่อก่อนผมอ่านหนังสือไม่ค่อยได้สาระมากมายอะไร เพราะผมเองนั้นมีนิสัยที่ยึดติดถือแน่นในความคิดของตนเอง เวลาพบเจอความคิดใครที่อาจไม่ตรงกับความคิดตัวเองก็จะต้องถกเถียงเพื่อหาจุดอ่อนเพื่อเอาชนะร่ำไป และดูเหมือนจะคิดว่าตัวเองมีความสุขกับนิสัยปฏิบัตินั้นไป นี่คือข้อบกพร่องแฝงที่แสนร้ายกาจ เมื่อผมย้อนหลังกลับไปมองตัวตนของผมที่ผ่านมา
ผมเป็นเช่นนั้นอยู่นานจนผมได้พบกับคำว่า Dialogue หรือสุนทรียสนทนา โดยผมเรียกว่า ศาสตร์แห่งการพูดและรับฟัง
การอ่าน... คือการสนทนาระหว่างผมกับหนังสือ คล้ายผมกำลังฟัง ฟังเสียงหัวใจของผมที่กำลังเต้นตามตัวหนังสือที่อ่าน เต้นตามความคิดของคนอื่นอย่างตั้งใจ ไม่มีโต้เถียง ไม่มีความเห็นขัดแย้ง มีแต่ฟังอย่างตั้งใจและพิจารณาเกี่ยวเก็บเพียงเหตุผลที่เป็นประโยชน์...เท่านั้น
ผมกำลังดื่มด่ำความสุขจากการอ่านโดยมิรู้ตัว
ทุกวันนี้ การอ่านเป็นกิจวัตรของผมไปเสียแล้ว ผมได้แนวคิดมากมายจากหนังสือต่าง ๆ เสมือนเครื่องพัฒนาจิตและความคิด ผมมีความสุขมากขึ้นจากการอ่าน
เวลาอ่านปรัชญา ผมจะใช้วิธีการอ่านแบบซ้ำไปซ้ำมา แล้วผมก็พบว่า ปรัชญานั้นสร้างความสุขบนพิ้นฐานของความเข้าใจในความรู้ที่แท้จริงนั้น
การอ่านหรือไม่อ่าน ...สำหรับผมแล้วไม่ได้ทำให้คนฉลาดหรือโง่
หากแต่การอ่านทำให้คน ๆนั้นได้ครอบครอง "ปัญญา" เพื่อนำพาตนค้นพบคุณค่าแห่งชีวิตแท้จริง
..........
ท้ายนี้ ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาทักทาย เยี่ยมเยือน
ขอให้มีแต่ความสุข สุขภาพแข็งแรงนะครับ
สำหรับครูนกการอ่านคือการท่องเที่ยวไร้พรมแดนไม่ต้องขอวีซ่าด้วยค่ะสำหรับบางเรื่องราว
วันไหนไม่อ่านจะรู้สึกไม่สุขค่ะ
การอ่านเป็นกระบวนการทางปัญญาสู่การคิดการวิเคราะห์ ชื่นชมจริงๆ
ผมเป็นแฟนประจำของท่าน "ชุติปัญโญ" ครับ
เรียนเชิญที่บล็อก "หอมกลิ่นหนังสือ" ครับ
http://www.gotoknow.org/blog/scented-book
ยินดีต้อนรับโลกแห่งหนังสือครับ ;)...
...ชื่นชมมากๆค่ะ
น่าอ่านทุกเล่มครับ...ขอบคุณครับ
การอ่านเป็นต้นทุนความคิดค่ะ อ่านมากก็คิดได้มากเพราะมีต้นทุนมาก
ชอบอ่านแนวนี้เช่นกัน แต่อ่านไม่มากเท่าน้องค่ะ
อ่านกันสนั่นเมืองครับ มาชื่นชม และยินดีครับ
น่าสนใจมาก ผมมีเรื่องสุดท้ายครับ
เข้าใจว่าคุณหมอประเวศ วะสีมีหลายเล่มแล้ว
มีแผงขายหนังสือมือสองน่าสนใจอยู่ในบริเวณเขตองค์พระปฐมเจดีย์ เคยไปเยี่ยมชมแล้วหรือยังคะ