อนิจจา...ชีวิต
ใครลิขิตได้ดังใจใครหรือ
แม้วาดหวังปรารถนาคว้าสุดมือ
ยังดึงดื้อเป็นไป... นานา
ชีวิตจริงใช่ละครเมื่อตอนจบ
ที่ประสบสมหวังดังปรารถนา
การได้บ้างเสียบ้างธรรมดา
ไยจะมาทุกข์ท้อต่อความจริง
ก็เพียงรู้เท่าทันเช่นนั้นเถิด
ที่ก่อเกิดย่อมดับได้ในทุกสิ่ง
ควรเรียนรู้ธรรมดาอย่าประวิง
ทำใจนิ่งตรองดูรู้เท่าทัน
เพราะชีวิต คือชีวิตคิดต่อสู้
ยามยังอยู่รู้เห็นเป็นสร้างสรรค์
เพียงอาศัยพึ่งพาอย่าผูกพัน
หากยึดมั่นไม่วาง ไม่สร่างทุกข์
นมัสการพระคุณเจ้า ขอบพระคุณในคำเตือนสติจ้ะ
แม้รู้อยู่เพื่อใช้กรรม
แต่ใจยังนำจิตมุ่ง
ฝักใฝ่ด้วยมี...กิเลสปรุง
เหยิงยุ่ง...สับสน...วุ่นวาย
แม้คิดดับซึ่งกิเลสนั้น
ก็ยังภาระอันมั่นหมาย
ยังเวียนวน..เกิด..แก่..เจ็บ...ตาย
สุดท้าย...สุดแก้...แพ้...กรรม
........นมัสการด้วยความเคารพจ้ะ.......
มะเดื่อ
26/05/56
"หากยึดมั่นไม่วางไม่สร่างทุกข์"
อนุโมทนาสาธุค่ะ
ขอบคุณ คุณครูทั้งสองท่านที่มาเยี่ยมชมให้กำลังใจ " หากยึดมั่นไม่วางไม่สร่างทุกข์" ขอให้มีความสุข
กราบนมัสการพระคุณเจ้า
เข้มแข็งบำบัดคนที่เป็นทุกข์ ในขณะเดียวกัน ใจเราก็มีทุกข์ ..คือว่าพยายามรับรู้ความรู้สึกตนเอง แต่วางยากค่ะ ขอคำแนะนำ..การปล่อยวาง.. เคยใช้การกำหนดลมหายใจแรงๆๆ การหากิจกรรมทำ..สุดท้ายการทำความเข้าใจกับสาเหตุแห่งทุกข์ ซึ่งพอเข้าใจแต่...วาง..เพื่อให้สบายใจลงบ้าง..ยากมากเจ้าค่ะ
คุณโยมเข้มแข็ง เรื่องที่คุณโยมถามมา ไม่รู้จะตอบครงหรือไม่นะ คุณโยมลองอ่านดู การที่เราช่วยเหลือคนที่เป็นทุกข์ก็เพราะมนุษยธรรมคือความเมตตากรุณา ในขณะที่ช่วยก็ควรวางใจเป็นกลาง ๆ ไม่ใช่ว่าไปรับเรื่องราวเขามาไว้ในใจแล้วพลอยเป็นทุกข์ไปกลับเขา แต่นั้นก็ดีอยู่ ดีสำหรับเขา มีคนเข้าใจ หัวอกเดียวกัน เขาก็พลอยได้ปรับทุกข์กับเรา ความทุกข์ก็อาจจะบางเบาลงได้ แต่ก็คงไม่หาย ความทุกข์นี้มันก็เป็นธรรมดาของชีวิตนะ ใช่ว่าจะเสียหาย มันอาจทำให้เราเข้มแข็งขึ้นมาได้เมื่อผ่านพ้นมันไปแล้ว ที่เป็นทุกข์ไปกับเขาก็เพราะเอาใจไปยึดมั่น เมื่อยึดมั่นถือมั่น เมื่อสิ่งเหล่านั้นเปลี่ยนแปลงไปไม่คงเดิมเราก็เป็นทุกข์ ค่อยๆ ถอนความยึดมั่น ถือมั่น ให้มีสติรู้เท่าทันความเป็น ธรรมดา ธรรมดา ทำใจให้ถึงธรรมดา ด้วยใช้สติปัญญาและใจของเรานี่แหละ คิดเสียว่า เกิดดับ เกิดดับ มันเป็นอย่างนี้นั่นเอง ลองฝึกดู แต่ทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นอยู่ที่เวลานะ ต้องอาศัยกาลเวลา ที่สำคัญคือความคิด หรือใจของเรานี่แหละ ในขณะนี้เมื่อยังเป็นทุกข์อยู่สำคัญที่สุดก็คืออดทน มองดูมันชัดๆ ความทุกข์มันเป็นอย่างนี้หรือ ถ้าเราทนได้หรือใจชาชินกับมัน นานไปก็เบาบาง และหายไปในที่สุด ลองดูนะ (นั่งสมาธิ แผ่เมตตาก็ใช้ได้นะ)