รัชดาวัลย์ วงษ์ชื่น(อิงจันทร์)
รัชดาวัลย์ วงษ์ชื่น(อิงจันทร์) ครูตาล วงษ์ชื่น

คุณกินยาเกินจำเป็นหรือเปล่า


ผู้เขียนเป็นคนไม่ชอบกินยา  ถ้าไม่จำเป็นจริง ๆ แต่ก่อนนั้นไม่กินยา เพราะเป็นคนกิน

ยายาก  ติดคอบ้างหละ ขมบ้างหละ  แต่ในปัจจุบันนี้ ไม่ชอบกินยา เพราะมีความรู้จาก

การอ่าน....ทำให้ทราบว่า "การกินยาเพื่อรักษาไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุด" เพราะมีผลกระ

ทบต่อ ตับและไต


  • แพทย์เองก็เป็นโรคเรื้อรัง

ถ้าจะคิดทบทวนให้ดี  เราจะเห็นว่า แพทย์หลาย ๆ คน (เราจะทราบเฉพาะแพทย์ที่

มีชื่อเสียงโด่งดัง) ก็ยังถูกโรคเรื้อรังคุกคาม ว่ากันว่าเหตุที่เป็นเช่นนี้ อาจเป็นเพราะ  

...แพทย์เรียนเกี่ยวกับโภชนาการที่เป็นต้นเหตุของโรคเรื้อรังน้อยมาก ส่วนใหญ่จะ

เรียนเกี่ยวกับการใช้ยา และการผ่าตัดเพื่อรักษา และเมื่อเรียนจบก็จะมุ่งศึกษา

เฉพาะทาง จึงมักมีความรู้เฉพาะสาขาที่ตนศึกษา...(โรส แมรี่,2556)


  • คนไทยกินยาเกินจำเป็น

เวลาที่ผู้เขียนไปหาหมอ  เท่าที่จำได้   คุณหมอไม่เคยแนะนำเรื่องการปฏิบัติเกี่ยวกับ

การกินอาหาร มักจะตรวจโดยการถามอาการ  จากนั้นก้จะสั่งยา เราจะพบว่า ทุกคนที่

ไปพบหมอ จะได้ยามาเป็นถุง ๆ  ไมเกรนก็ใช้ยา ปวดข้อก็ใช้ยา  เป็นโรคกระเพาะก็ใช้

ยา  คนส่วนใหญ่จึงติดนิสัยการใช้ยา ไข้หวัดธรรมดาก็ใช้ยา โดยเฉพาะยา พา

ราแซตตามอล  ระยะหลัง ๆ หากผู้เขียนเป็นไข้หวัดธรรมดา ก็มักจะใช้วิธี ดูแลเรื่อง

อาหรการกินกับการพักผ่อนให้เพียงพอ ก็พบว่า อาการไข้ก็จะหายได้เอง


  • กินยามาก ไม่ได้ช่วยให้สุขภาพดี

ผู้เขียนเองก็ชอบซื้อยามากินเอง  ด้วยเหตุผลที่ว่า หากไปโรงพยาบาลก็ต้องลางาน 

1 วัน เนื่องจากต้องไปรอคิว ดังนั้นเมื่อสมาชิกในครอบครัวมีอาการเจ็บป่วย ก็จะไปที่

ร้านขายยา และเชื่อว่าหลายคนคงเป็นเช่นนี้ ร้านขายยาบางร้านก็จัดยาให้เิกินความ

จำเป็น  ว่ากันว่า  คนไทยบริโภคยา เฉลี่ยต่อคน มากกว่าประเทศที่พัฒนาแล้ว

ประมาณ 2-3 เท่า ในขณะที่สุขภาพของคนไทยก็ไม่ได้ดีกว่าประเทศอื่นเลย 


  • ร้านขายยาไม่มีเภสัชกร

จากการอ่านบทความ....พบว่า ประมาณร้อยละ 80 ของร้านขายยา  ขายยาโดยไม่มี

เภสัชกรคอยให้คำแนะนำ ส่วนมากก็จะมีเพียงป้ายชื่อเภสัช  ซึ่งนอกจากจะทำให้เรา

มีโอกาสรับยามากเกินไปแล้ว เรายังมีโอกาสได้รับยาผิดโร ทำให้เกิดโทษและเกิด

การสะสมสารพิษที่เป็นอันตรายกับร่างกายและชีวิตของเราได้


หมายเลขบันทึก: 535392เขียนเมื่อ 10 พฤษภาคม 2013 05:52 น. ()แก้ไขเมื่อ 10 พฤษภาคม 2013 05:55 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (11)

เห็นด้วยกับครูอิงครับ บางทีขนาดไปหาหมอ หมอให้ยามา  มัวแต่ refill เป็นปีๆ

กว่าจะรู้ก็แย่  ยาบางตัวต้องกินตลอดชีวิต นอกจากจะปรับตัวเรื่องการกินการอยู่ 

ก็ยังคงต้องพึ่งยาตลอดเวลา

ตอนนี้โชคดีลูกสาวเป็นเภสัชแล้ว ปรึกษากับลูกได้ครับ

ผมอีกคนหนึ่งที่กินยาอยู่เป็นประจำตามแพทย์สั่ง จนรู้สึกแหยงเข้าให้แล้ว อยากจะให้ถึงวันครบกำหนดการรักษาเสียที จะได้เลิกใช้ยา หยุดฉีดยา ไม่คลื่นไส้อาเจียนและอาการข้างเคียงอื่นๆ

เพื่อจะได้เข้าสู่ความปกติธรรมดาของชีวิต

ขอบคุณที่ช่วยกันเผยแพร่ค่ะ..

  • สวัสดีครับ
  • ผมไปโรงพยาบาลทีไร ไม่ว่าจะมีอาการอะไรก็แล้วแต่
  • มักได้แต่ยาพาราฯ (ยายอดนิยมจริงๆ ครับ) ....แทบทุก รพ.เลย ฮ่าๆ ๆ
  • ขอบพระคุณสำหรับเรื่อง "การกินยาครับ"

สวัสดีค่ะคนบ้านไกล

  • ยินดีด้วยนะคะ
  • ที่ไม่ต้องเสี่ยงกับการจัดยาผิด ๆ ของร้านขายยาอีกต่อไป
  • ขอบพระคุณที่แวะมาเยี่ยมเยียนแสดงความคิดเห็น
  • ระลึกถึงเสมอนะคะ

สวัสดีค่ะคุณพิชัย

  • ติดตามเรื่องสุขภาพของคุณอยู่เสมอ ๆ ตั้งแต่ต้น
  • ยังไงก็เป็นกำลังใจให้นะคะ
  • ครูอิงเองก็อาการไม่ค่อยดีนักเกี่ยวกับตับ ค่ะ คือมีไขมันเกาะที่ตับ
  • ตอนนี้จึงหันมาสนใจสุขภาพมากยิ่งขึ้น  ไปพบไปเห็น ไปอ่าน อะไรมา
  • ก็อยากนำมาบอกต่อค่ะ
  • เป็นกำลังใจให้ สู้ต่อไปนะคะ

ดิฉันไปพบหมอก็ได้ยากินประจำโรคความดันโลหิตสูงรู้ว่าต้องกินคุมตลอด2ปีกว่าวัดทีไรความดันปกติก็ต้องกินยาไม่รู้เมื่อไรจะต้องหยุดกินเราต้องดูแลตัวเองเรื่องอาหารการกินการออกกำลังกายก็หาความรู้ไปเรื่อยขอบคูรมากค่ะได้ความรู้มากมาย

ขอบพระคุณค่ะคุณอิงจันทร์ ณ เรือนปั้นหยา

ตอนนี้พี่ก็เริ่มไปหาหมอ  คงเพราะอ้วน  กินอาหารไม่ระวังจึงเสพสารพิษมาก และยังขาดการออกกำลังกายที่ดี  โรคปวดเมื่อยจึงตามมา  ไปหาหมอ   หมอให้ยามาเยอะ  มาก    เพราะหมอนัดพบอีก 2 เดือน  ยาจึงมากจนไม่อยากกินเลย  ต้องหันมาดูแลสุขภาพจริงจังแล้วค่ะ  ขอบคุณที่แนะนำ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท