เรื่องเล่าที่ (ปลุกเร้าพลัง) HAI พวกเราชาว สรพ.


สูงเกินก็หนาวเกิน เหงาเกินกว่าใครจะเข้าใจ แต่จะหนาวเพียงใดฉันไม่เคยหวั่น

   

                เหมือนคืนที่เคยฝันไกลหัวใจออกโบยบิน ลอยขึ้นสูงเหนือผื้นดินด้วยปีกแห่งไฟ
               สูงเกินก็หนาวเกิน เหงาเกินกว่าใครจะเข้าใจ แต่จะหนาวเพียงใดฉันไม่เคยหวั่น
                          เพราะฉันรู้ว่ามีเธอนั้นเป็นดวงดาว……………………… ที่จะคอยชี้ทาง

           *หนทางยาวไกลเท่าไหร่จะบินไป ไม่สนใจ สายลมจะแรงเท่าไหร่จะบินไป ไปให้ถึงปลายทาง
                แม้เมฆโหดร้ายจะเข้าคุกคามฟ้ามืดกู่ร้องคำรามจะข้ามมัน เพียงมีเธอเท่านั้นฉันมั่นใจ

                ถึงไกลก็เหมือนใกล้หากมีหัวใจคอยห่วงหา ในอ้อมกอดเวลานั่นคืออ้อมแขนของเธอ
                             ค่ำคืนที่มืดนานจะผ่านพ้นไปได้เสมอ ตราบที่ยังมีเธอเคียงข้างตลอด

                   .... แสงแห่งความรักส่องใจให้เห็นทางขับไล่ความอ้างว้าง…………………..SOLO
                                                          (ย้อน *,* )



     ศ.นพ.ประสิทธิ์  วัฒนาภา คณะกรรมการ สรพ.

หรืออีกตำแหน่งอาจารย์ดำรงตำแหน่ง รองคณบดีแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล และในมหิดลอาจารย์ยังเป็นรองอธิการบดีฝ่ายทรัพยากรบุคคลและการพัฒนาคุณภาพ เรื่องนี้ผมต้องบอกตัวเองว่าเป็นบทเรียนที่แสนล้ำค่าของผมและผมอยากเขียนมากๆ ...แต่ด้วยข้อจำกัดเวลาต่างๆ ผมจึงมาเขียนเรื่องเล่าเร้าพลัง เพราะ ณ เวลานั้นสิ่งที่กระตุ้นจนทำให้ผมไม่ง่วงเหงาหาวนอนคือ แต่ละช่วงมันสนุกและได้อารมณ์ทุกขั้นตอน ....อาจเป็นเพราะว่าผมอยากรู้ก็เป็นได้



             วัฒนธรรมนี้ที่เขาเรียกว่าองค์กร


เรื่องที่ 1 เส้นทางการเดินทางของ SCG ท่ามกลางฟองสบู่ และ TPI เมื่อคนอยากอยู่ 


            

      เรื่องนี้อาจารย์เล่าให้ฟังว่า ท่านคงจำภาวะครั้งยิ่งใหญ่ของไทยได้นะครับ ครั้งที่เป็นประวัติการ หรือ "ต้มยำกุ้ง" ที่ผู้คนและธุรกิจของไทยพังมหาศาล จากเสือแห่งเอเชียสภาพเรานั้นแทบไม่ไหวกระทบไปทั่ว  ไม่เว้นแม้แต่บริษัทใหญ่ที่เราเห็น คือ SCG มีการประชุมเร่งด่วน สิ่งแรกที่เขาทำท่านเชื่อไหมคืออะไร บอร์ดของSCG ทุกคนทำเป็นแบบอย่างก่อนนั้น คือการลดค่าตอบแทนและขยับมางดรับค่าตอบแทน และบอร์ดได้ส่งการให้ถ่ายทอดคำสั่งนี้ให้กระจายทราบโดยทั่วกัน...นั่นแปลว่าอะไรครับ "คนปูนจะช่วยกันเสียสละดูแลกัน"  จากวิกฤตครั้งนั้นได้มีการทำประชาคมปูนขึ้น และมี เจ้าหน้าที่อาวุโสคนหนึ่งถามว่า "บริษัทจะเอาพนักงานออกไหม ถ้าเอาออกเขาขอออกเป็นคนแรก" ให้น้องได้ทำงานต่อ...แต่จากนั้นไม่นานปูนได้ออกมาประกาศจะไม่ปลดใครทั้งสิ้น นี่แหละครับครับคือสิ่งที่เรียกว่าวัฒนธรรมองค์กรของปูน SCG ณ ปัจจุบันจะสังเกต คนทำงานปูนจะต้องเข้าค่าย 1 เดือนเพื่อสร้างความรักและความเสียสละร่วมกัน


      แต่หากมองอีก 1 กรณีที่เจอปัญหาเดียวกันคือ TPI ไม่มีการสื่อสารลงข้างล่างพนักงานโดนปลดออก พร้อมทั้งไม่มีใครเสียสละ แต่มองว่าเจ๋งก็คงเจ๋งไป ทำให้การทำงานประสบปัญหาและขาดทุนอย่างหนัก ท้ายสุด TPI กุมสภาพช่วงดังกล่าวแทบไม่ไหว ....

เรื่องที่ 2 ลูกค้าสำคัญที่สุด Customer focus (จากรถไฟไทยและ ปตท.)

    

          เรื่องนี้ชวนย้อนอดีตเล็กน้อยจำได้ไหมครับ ใครเจริญมากเรื่องรถไฟ คำตอบคือว่า...ไทยครับในอดีตเมื่อนานมาแล้ว แม้ญี่ปุ่นยังมาดูงานครับ แต่หากมองปัจจุบัน ญี่ปุ่นมีชินคันเซน แล้วไทยเองยังเหมือนเดิมอยู่...เราเคยภูมิใจหลายอย่างต่างๆนานา แต่สภาพปัจจุบันที่ท่านเห็นการรถไฟไทย หากท่านเดินทางไปเชียงใหม่ระหว่างนั่งรถทัวร์ และรถไฟหลายท่านบอกว่า รถทัวร์สิ รถไฟเองคงไม่ไหว 12 ชั่วโมง ...และที่สำคัญห้องน้ำระบบสุขาก็เล่าเอาประทับใจเหลือเกิน อดีตหลายท่านภูมิใจหนักหนา ภัตตาคารรถไฟ ข้าวผัดรถไฟเลิศรส ..แสนอร่อย แต่เดี๋ยวนี้คงอย่างที่ท่านๆเห็น Core value ความร่วมรับผิดชอบและระบบที่เทอะทะ ส่งผลต่อระบบใหญ่ บางท่านหากเคยนั้น สปิ้นเตอร์รถไฟร่วมเอกชน ท่านเชื่อไหมมีระบบการบริการตู้แอร์ มีอาหารเสริฟ พนักงานก็พัฒนา และเอกชนดังกล่าวขั้นต่ำกำไรขบวนเล็กไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาทต่อไป และทำไมการถไฟขาดทุนทุกปี..



           หากเรามามองอีกองค์กร ที่เราน่าจะคุ้นมาก คือ ปตท. ทำไมหรือครับ แน่นอน "ราคาน้ำมันถูก ห้องน้ำสะอาด มีอื่นๆที่นั่น" หากเทียบเมื่ออดีตนานมาก ปตท.ได้ชื่อเรื่องห้องน้ำสกปรกใครก็ไม่อยากเข้า แต่ประเด็นคือเขาทำอย่างไร บอร์ดประกาศปรับกระบวนการค่านิยมองค์กร "เน้นลูกค้าสำคัญ" กระบวนการต่างเหล่านี้ปรับภาพลักษณ์จากน่ากลัว มาเป็นน่าใช้ ...และกลายเป็น Core value คน ปตท. 



วัฒนธรรมที่เขาเรียกว่าชาติ (ผู้ชนะสงครามโลกครั้งที่ 2 )

เรื่องที่ 3 จากเด็กชายโนบิตะผู้แทนญี่ปุ่นสู่โลกมหาอำนาจ และหมีขาวที่ผงาดและอ่อนแรง

      ณ ช่วงหนึ่งญี่ปุ่นคือประเทสที่แพ้สงครามมหาศาลและใหญ่หลวงไม่เป็นเช่นดังปัจจุบัน..หลังจากแพ้สงครามญี่ปุ่นประกาศว่า จะไม่ทำสงครามอีกแล้ว แต่ค่านิยมหรือวัฒนธรรมประเทสเปลี่ยนไปจะเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ หลังจากนั้นสิ่งที่ญี่มุ่งเน้นมากจึงเป็น


 

  1. การปลูกฝันการเรียนรู้ความคิดกับเด็ก เนื่องมาจากการมองมองทรัพยากรณ์มนุษย์ เด็กคือพลังสำคัญมากในการเคลื่อนประเทศต่อไป หากท่านทัน โดราเอมอน อุลตร้าแมน เป็นต้นกำลังบอกอะไรครับ โดราเอมอนเมื่อโนบิตะมีปัญหาก็คือโดราเอมอนที่ช่วย ด้วยเครื่องมือแสนวิเศษที่ประดิษฐ์มา แสดงออกถึงให้เด็กคิดค้นและสร้างสรรค์  ขณะเดียวกันอุลต้าแมนแสดงให้เห็นถึงทุกครั้งนั้นอุลตร้าแมนจะสู้จนมีแสงกระพริบใกล้ตาย แสดงถึงความเสียสละรักประเทศชาติ
  2. ทุกคนในญี่ปุ่น มีระเบียบวินัยในการใช้ชีวิต พร้อมทั้งพลังดังกล่าวจึงเป็นพลังในการสร้างชาติ ประกอบกับค่านิยมที่มุ่งไปสู่กระบวนการพัฒนาประเทสแบบก้าวกระโดดบทเรียนจากสงครามโลกครั้งที่ 2 แทบทำให้ญี่ปุ่นต้องหายออกไปจากแผนที่โลก เป็นต้น 


     ปัจจุบันญี่ปุ่นยังเป็นประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ และดำรงอยู่ได้  ตางกันข้ามหากเรามองอีกประเทศหนึ่ง คือรัสเซีย  ที่มุ่งเน้นกระบวนการทางสงครามและอาวุธแต่การขาดการพัฒนาคนนั้น รัสเซียล่มสลายม่านเหล็กพังลง เนื่องมาจากการลงทุนทางอาวุธการลงทุนด้านต่างๆ ซึ่งทำให้พบว่าสภาพความเป็นอยู่คนย่ำแย่สภาพการตกงานเป็นต้น


HAI พวกเรา


     จากเรื่องเล่าต่างที่อาจารย์ได้มีการหยิบมา HAI พวกเรานั้น  Key เพื่อจัดลำดับกาความสำคัญใหญ่ๆ

ผมเองจำได้บางอันเท่านั้น..คือ มี 8 วัฒนธรรมหลัก 36 องค์ประกอบ/พฤติกรรมที่พึงประสงค์ อาจารย์ได้สรุปไว้หลักๆคือ 




  1. Team work 
  2. Leadership 
  3. Responsibility 
  4. Discipline integrity
  5. Self development
  6. Altruism
  7. Respect 
  8. professionalism

     เพื่อการขับเคลื่อนการทำงาน สรพ. ให้เป็นกลไกประสานเชื่อมโยงระบบรับรองคุณภาพสถานพยาบาล และเชื่อมโยงไปสู่กระบวนการส่งเสริม .....




หมายเลขบันทึก: 535386เขียนเมื่อ 9 พฤษภาคม 2013 23:58 น. ()แก้ไขเมื่อ 13 มิถุนายน 2013 21:02 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (17)

อ่านแล้ว ทำให้รู้สึกว่ามีความหวังและพลัง และรับรู้ได้ว่า ยังมีคนดีดี ที่มีส่วนช่วยให้โลกเราและเมืองไทยดีขึ้น

ฟังเพลงแล้วจินตนาการ เหมือนภาระกิจของ สรพ ที่กำลังดำเนินต่อไปไม่สิ้นสุด

น่าสนใจมาก  ดูเหมือนประเด็นสุดท้ายจะเขียนผิดครับ

1.  Team work 

2.  Leadership 

3.  Responsibility 

4.  Discipline integrity

5.  Self development

6.  Altruism

7.  Respect 

8.  Professionalism



      อาจารย์ขจิตครับ คำนี้ถูกไหมครับ นี่คือเครื่องแสดงความยืนยันว่าอาจารย์อ่านของผมจริง ผมดีใจ  professionalism คำนี้ใช่ไหมครับอาจารย์ 555 อายไปแล้ว เขียนผิดนั่นเองขอบคุณมากครับอาจารย์ ผมสะกดผิดเอง...

   พี่แก้วขอบคุณมากครับที่เข้ามาอ่าน เพลงนี้ประกอบชื่อเพลง "ดาวนำทาง" ของบี๋คำนานา ครับพี่แก้ว และผมติดตามงานพี่แก้วเสมอนะครับ  ขอบคุณที่กระตุ้นและให้กำลังใจนะครับพี่แก้ว..

ได้ความรู้ที่สามารถนำไปใช้ได้เลยทีเดียวครับ

ขอบคุณที่แบ่งปันครับ

  พี่ พ.แจ่มจำรัส ยินดีนะครับในการนำไปใช้นะครับ ของอาจารย์เขาให้ความรู้มาทั้งนั้นครับผม และขอบคุณอีกครั้งที่เข้ามาเยี่ยมชม

สุดยอดเลยคร้าาาาา 

เยี่ยมมาน้อง ลูกหมู..อิอิ 

  พี่พอลล่า ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชมและเป็นกำลังใจครับ ขอพรหน่อยเอาทั่วหล้าเลย


  ขอบคุณมากครับพี่ครูทิพย์ ..ที่เข้ามาอ่านนะครับและเยี่ยมชมครับพี่

การอ่านเปิดโลก...อีกมุมที่ดีดีสำหรับคนคุณภาพจริงๆค่ะ

  ขอบคุณมากครับที่เข้ามาเยี่ยมและเป็นพลังในการทำงานร่วมกันนะครับ

คิิรินทร์ จินตะกะเวช

ะยร

คิิรินทร์ จินตะกะเวช

tpi

คิิรินทร์ จินตะกะเวช

ปตท

คิิรินทร์ จินตะกะเวช

gpo

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท