ความหนักที่ฝังลึกในใจ


ชีวิตช่วงนี้เหมือนมีม่านบางๆคลุมอยู่ตลอด รู้สึกตัวเองว่าใจไม่เคยโล่ง เป็นความอึมครึมที่ทำให้ไม่ค่อยกระตือรือล้นที่จะทำอะไร ใช้เวลาแบบผ่านไปเรื่อยๆ รู้สึกว่าเราไร้ประโยชน์ เราทำอะไรก็ไม่ได้ดั่งใจ ไม่ค่อยรู้สึกอยากทำอะไร ไม่รู้จะทำอะไรไปทำไม รู้สึกตัวเองนะคะว่า เราคิดไปเองทั้งนั้น เป็นความคิดปรุงแต่งที่เราสร้างเองล้วนๆ แต่ก็ไม่สามารถจะดึงตัวเองออกจากสภาวะนี้ได้ ทุกๆค่ำที่ได้ไปเห็นคุณย่าของสามหนุ่ม ก็จะรู้สึกหน่วงๆในใจ เพราะรู้สึกว่าเราช่างไร้ประโยชน์เสียจริงๆ ชีวิตคนเราทำได้แค่นี้จริงๆหรือ เราไม่ได้พยายามที่จะทำให้อะไรๆดีขึ้นกว่านี้หรือเปล่า เราทำให้ท่านได้เพียงเท่านี้จริงๆหรือ เราทำอะไรที่ดีกว่านี้ให้ท่านได้ไหม ไม่มีคำตอบให้ตัวเองกับคำถามเหล่านี้เลย ปล่อยเวลาให้ผ่านไปเรื่อยๆ ช่วงเดือนที่ผ่านมานี้ ท่านทำมือที่เป็นสัญลักษณ์ว่าท่านไม่ไหว จะ"ซี้" บ่อยมากๆ ทั้งๆที่สภาพร่างกายของท่านโดยรวมก็ไม่ได้แย่ลง ออกซิเจนก็อยู่ในระดับปกติตลอด ผลตรวจร่างกายที่เป็นตัวเลขทั้งหลายก็ถือได้ว่าปกติสำหรับผู้สูงวัยเช่นท่าน ยกเว้นแต่ว่าท่านต้องให้อาหารทางสายยาง เพราะเจาะคอเพื่อไม่ให้สำลัก ซึ่งท่านก็รับสภาพได้มาแล้ว แต่ที่เราแก้ไขไม่ได้ คุณหมอก็พยายามหาวิธีปรับไปปรับมายังไงก็ยังไม่สามารถช่วยได้คือการที่ท่านมีเสมหะมากมาย ที่ต้องคอยใช้สายยางดูดออก ที่ทำให้ท่านมีเสียงครืดคราดในคออยู่ตลอด เวลามันคั่งมากๆก็จะไอและเหนื่อย มีเสียงหายใจวี้ดๆอยู่เรื่อยๆ อยู่แต่ในห้องสี่เหลี่ยมที่ต้องมีท่อออกซิเจนและเครื่องมือเตรียมดูดเสมหะตลอดเวลา ไม่มีเรี่ยวแรงแม้จะลุกขึ้นมานั่ง...แต่พลิกตัวไปมาเองบนเตียงได้ 

ลูกหลานท่านมากมาย แต่ทุกคนก็ต่างมีภาระกับชีวิตตัวเอง มีโอกาสได้แวะมาเยี่ยมเยียนกันก็นานๆที เราก็พยายามหาวิธีการที่ให้ท่านได้เห็นคู่ชีวิตของท่าน ซึ่งดูจะเป็นเครื่องหล่อเลี้ยงจิตใจที่ดีอย่างเดียวเท่านั้น ลูกหลานมาท่านก็ดีใจอยู่แว้บเดียวเท่านั้นเอง เป้าหมายที่เราตั้งไว้ให้ท่านซึ่งดูจะเป็นสิ่งที่ท่านรอคอยก็คือ ให้ท่านได้กลับไปบ้าน ไปอยู่ใกล้ๆอากุงคู่ชีวิตท่าน ณ ตอนนี้ดูช่างห่างไกลเหลือเกิน ระหว่างนี้เราจะหล่อเลี้ยงจิตใจท่านอย่างไรได้บ้าง พอท่านท้อแท้ห่อเหี่ยว เราก็จะพลอยเป็นไปด้วย พยายามอย่างไรก็เหมือนเป็นการเสแสร้งแกล้งทำ ทั้งๆที่ในใจน้ำตาตกใน เราเข้มแข็งไม่พอ เราช่างไร้ความสามารถที่จะคิด จะทำอะไรช่วยท่านให้ได้มากกว่านี้   

นึกไม่ออกเลยค่ะว่า ตัวเองทำอะไรได้มากกว่านี้ไหม...ทำยังไงดี...แล้ววันนี้ก็ผ่านไปอีกวัน...โดยที่เราไม่รู้จะทำให้มันดีขึ้นได้อย่างไร 

หมายเลขบันทึก: 535384เขียนเมื่อ 9 พฤษภาคม 2013 23:42 น. ()แก้ไขเมื่อ 9 พฤษภาคม 2013 23:42 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (23)

พี่โอ๋ค่ะ.....ตอนนี้คุณย่ายังอยู่ที่โรงพยาบาลหรือเปล่าค่ะ

เคยมีกรณีแบบนี้เหมือนกันคะ.....ถ้าคนไข้ต้องการกลับบ้าน  อาจเป็นเพียงระยะเวลาหนึ่งเพื่อเป็นสิ่งหล่อเลี้ยงใจให้เข้มแข็ง

ให้ญาติลองปรึกษากันว่าจะสามารถผลัดกันมาดูได้หรือไม่ พร้อมกับหาคนมาช่วยดูด้วย  ยืมถังออกซิเจน หรือเครื่องผลิตออกซิเจน เครื่องดูดเสมหะจากโรงพยาบาล พร้อมกับฝึกทักษะอีกเล็กน้อย

 การที่มีโอกาสกลับไปอยู่ในสภาพที่คุ้นเคย ได้เจอกับคนที่รัก ผูกพัน  แม้เพียงระยะเวลาสั้นๆ อาจทำให้คุณย่าแข็งแรงขึ้นนะคะ


ส่งพลังใจให้พี่ และครอบครัวก้าวข้ามความรู้สึกอึมครึมไปได้คะ

 


สวัสดีค่ะคุณโอ๋ ...ขอเป็นกำลังใจให้ท่านนะคะ...ไม่อยากให้ท่านทรมานนะคะ...ไม่ทราบว่าเคยบอกกับคุณโอ๋เรื่องอุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรหรือเปล่า...ให้พี่น้องทั้งหมดไปทำบุญอุทิศส่วนกุศลพร้อมกัน...กล่าวคำอุทิศพร้อมกันนะคะ...และอยากบอกอยากพูดอะไรกับคุณย่าก็พูดได้ ตอนนี้ท่านยังมีชีวิตอยู่ท่านรับรู้ได้ค่ะ...

เป็นกำลังใจ เพื่อเสริมแรงใจให้พี่โอ่๋เดินผ่านความรู้สึกนี้ไปให้ไกล ๆ ครับ 

มาให้กำลังใจค่ะ ขอให้เราทำดีที่สุดก็เพียงพอแล้ว

บางครั้งอย่างที่ ดร พจนาว่าก็อาจเป็นไปได้

สมัยที่พ่อพี่แก้วป่วยหนักและทุกข์ทรมานมาก จนเรารู้สึกว่า ทุกคนทำใจพร้อมให้พ่อไปอยู่อีกโลกหนึ่งเพื่อให้พ้นทุกข์ แต่เรายังดูแลทุกอย่างเหมือนเดิม

พ่อก็ไม่รู้สึกดีขึ้น ดีแต่พ่อเคยสั่งไว้ว่า พ่อต้องการอะไรก่อนพ่อจะไม่รู้สึกตัว

แม่ก็ทุกข์ทรมานแทบจะทนไม่ไหว

พี่แก้วก็เลยพาแม่ไปวัดเพื่อคุยกับพระผู้ใหญ่ที่พ่อและแม่เคารพ

พระเลยบอกว่า พ่อมีความห่วงกังวล ไม่กล้าจากไป ให้เราสวดมนต์บทที่พระบอกและขอขมาพ่อ

และให้แม่บอกพ่อซะว่า ไม่ต้องห่วงเรื่อง...ที่พ่อกังวล

คืนวันนั้น พ่อก็จากไป

พี่คิดว่า พ่อหมดห่วงแล้ว

ตอนพ่อจะไปจริงๆ พ่อยังหันหน้ามามองหน้าแม่

เหมือนการสั่งลาเป็นครั้งสุดท้าย...

คุณโอ๋คะ หนึ่ง พาอากุงมาได้มั้ย คงไม่ง่ายใช่ไหมคะ
สอง ใช้เครื่องมือไอทีหรือเครื่องบันทึกเสียงอากุงมาเปิดข้อความที่ฝากถึงกัน
สาม ทำจิตใจให้สดใส แผ่เมตตา ทำบุญทำทานอุทิศส่วนกุศลออกไปแบบให้ออกไปทางเดียว

.....


บ่อยครั้งจะมีทางคลี่คลายหรือแง่มุมให้เราคิดออกค่ะ

เป็นกำลังใจนะคะ

เป็นกำลังใจให้นะคะ

ครั้งนั้นที่ดิฉันเคยเสียรู้เรื่องคุณพ่อ

วันที่ออร่าส่องแสงก่อนที่คุณพ่อจะไปสวรรค์ ท่านบอกดิฉัีนว่า  คนอยู่แก่เกินไปก็ไม่ดี

ก่อนหน้านั้น ท่านก็พูดไม่ค่อยได้  ได้แต่บอกว่า ลูกไร้เดียงสาเอ๋ยๆๆๆๆๆๆๆ ท่านบอกว่า ท่านรู้ว่าดิฉัีนปรารถนาดีต่อท่าน  ซึ่งดิฉันก็ยังโง่มากที่สุด 

พอคุณพ่อได้ไปสวรรค์แล้ว ใช้เวลาอีก 10ปี ต่อมา ดิฉัีนจึงได้ค่อยๆ รู้ว่า พลาดท่าอะไรไปบ้าง

ต่อมา 10ปีหลัง เคสแบบนี้ ก็มาเกิดกับคุณแม่อีก  เที่ยวนี้ ดิฉันบอกทุกคนว่า

ถึงวัยหนึ่ง คนต้องมีน้ำหล่อเลี้ยงจิตใจมากกว่าอาหาร ที่ร่างกายที่เสื่อมแล้วอาจไม่สามารถขับของเสียได้ทัน

และดิฉันก็ตามประกบแบบไม่เกรงใจใครอีก จึงรู้มาอีกอย่างหนึ่งว่า บุคคลากรยังมีการแยกการปฏิบัติด้วยจิตใจของความเป็นมนุษย์ไม่เหมือนกัน

ครั้งก่อน เราไม่สามารถดึงคุณพ่อออกมาจากฆาตกรที่ถูกต้องตามกฎหมาย  แต่ครั้งนี้ ทำได้เพราะคนในครอบครัวทุกคนร่วมมือค่ะ  ตอนหลังนี้คุณแม่ของดิฉันทรงตัวไม่ได้เลย ดิฉันประกบแบบนอนประกบปลายเท้าของคุณแม่ เอาเชือกผูกไว้ ถ้าคุณแม่ลุกจากเดียงเมื่อไร ดิฉันต้องลุกขึ้นมาด้วย ง่วงแค่ไหนก็ต้องรวบรวมพลังลุกขึ้นมาประกบ  และไม่ยอมประหยัดเงินค่าแพมเพิส เพื่อลดขั้นตอนการทำงาน และดิฉันบอกทุกคนว่า แม้เราจะหาคุณหมอที่เก่งที่สุดมาช่วยเรื่องหัดเดินใหม่ คุณแม่ต้องร่วมมือเดินเองด้วยกำลังของตัวเอง ห้ามนั่งwheel chair เด็ดขาด  

เราหาคนมาช่วยฝึกเดิน คุณหมอกับคุณแม่ก็ต้องคุยกันรู้เรื่องด้วย ถ้าแม้คนสอนคนรักษาเก่ง คุณแม่ก็ต้องออกแรงเดินเองเพราะนี่เป็นภาคปฏิบัติค่ะ  ตอนนั้นเหนื่อยมาก แต่ตอนนี้สบายแล้ว เพราะคุณแม่เดินเองใช้4ขาและ3ขาช่วยการทรงตัวได้แล้วค่ะ  เห็นเป็นเครื่องมือง่ายๆ แบบนี้ ก็ต้องหัดเดินนะคะ 

ปัญหาของคุณโอ๋  ดิฉันจึงมองว่า คนป่วยแบบนี้ อาหารบางอย่างก็อาจเกิดเสมหะมากขึ้น เช่น นมทั้งหลายที่ให้ทางสายยาง  และแม้เราช่วยไม่ได้ แต่เราก็ต้องหมั่นส่งพลังจิตไปช่วย รวมทั้งอาจหาวิธีเปิดเทปสวดมนต์พาท่านสวดมนต์หรือให้ท่านได้สวดมนต์ (ขอโทษค่ะ ดิฉันไม่แน่ใจว่าชาวพุทธหรือเปล่า)  การทำจิตใจให้ผ่องใสก็เป็นเรื่องที่สำคัญ และปัญหาสำคัญมากคือเรื่องสารคัดหลั่งต่างๆ  โดยเฉพาะเสมหะ ต้องแก้ไขเป็นเรื่องแรกสุดเลยค่ะ

ถ้าหากว่า ไม่ต้องดูดเสมหะแล้ว ก็ฝึกการหายใจลึกๆ ก่อนพากลับบ้านนะคะ  

ขอให้โชคดีค่ะ


เป็นกำลังใจให้ท่านและอาจารย์ โอ๋ ด้วยครับ

ขอเป็นกำลังใจให้นะคะพี่โอ๋

  • ขอให้เข้มแข็งนะครับ
  • คนไข้เจ็บไข้ไม่สบาย ก็ขออย่าให้คนเฝ้าไข้ต้องเจ็บไข้ไม่สบายไปด้วย
  • ขอให้ผ่านภาวะความหนักแบบนี้ไปโดยเร็วนะครับ
  • ขอให้มีความสุขอย่างเข้มแข็งครับผม

เป็นกำลังใจให้นะคะ ความทุกข์จากการพลัดพรากเป็นทุกข์ทีี่ทรมานมาก หากผ่านพ้นไปได้ เราก็เติบโตอีกขั้นหนึ่งค่ะ

จากประสบการณ์ของตัวเอง ทั้งคุณพ่อคุณแม่ ไม่มีโอกาสร่ำลากันเลยค่ะ จึงได้บทเรียนว่าเราจะทำวันนี้เพื่อคนที่เรารักเสมือนว่าเราจะไม่มีวันพรุ่งนี้ด้วยกันค่ะ

ความเศร้าโศกเสียใจมีไว้ให้พิจารณาตามรู้ ขอให้สู้เพื่อคนที่เรารักอย่างเข้มแข็งค่ะ

ขอบพระคุณนะคะที่นำมาเล่าให้พวกเราได้เจริญมรณะสติตามไปด้วยค่ะ

เป็นกำลังใจให้ค่ะพี่โอ๋

ขอบคุณทุกความเห็นและกำลังใจเลยค่ะ รู้สึกว่านี่คือเรื่องทุกข์ใจส่วนตัวจริงๆที่เขียนเพียงเพราะอยากเอาความหนักออกจากใจบ้าง และเป็นบันทึกเอาไว้ศึกษาตัวเองในภายหน้า 

ตัวเองเป็นแค่ลูกสะใภ้เล็กสุดของครอบครัว แม้พี่ๆทั้งหกคน (รวมสะใภ้ด้วยกันก็เป็นสิบเอ็ดคน) จะเกรงใจเราก็ไม่กล้าไปกะเกณฑ์หรือจัดการอะไรที่เกินสถานะค่ะ สิ่งที่ทำได้ตอนนี้ก็คือหาช่องทางที่คุณแม่สามารถได้เห็นคุณพ่อที่เราเรียกว่าอากุง ซึ่งตอนนี้ก็จำท่านได้บ้างไม่ได้บ้างและก็ต้องให้อาหารทางสายยางเหมือนกันแต่หายใจเองได้ ต้องมีคนดูแลตลอด 24 ชั่วโมงอยู่ที่ระนองกับพี่ชายคนโต น่าสงสารที่อากุงส่งเสียงได้ แต่อากุงก็คุยไม่รู้เรื่องแล้ว ส่วนคุณย่าเราก็เสียงไม่มีเพราะเจาะคอ ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ก็ทำให้เห็นกันได้ค่ะ แต่ท่านก็หวังจะได้กลับไปหาอยู่ดี เราต้องคอยลุ้นให้ท่านมีกำลังใจ อยากให้ท่านอยู่ในสภาพที่จะเดินทางไกลขนาดนี้ได้ ซึ่งดูจะเป็นไปได้ยาก นี่แหละค่ะที่ทำให้เราห่อเหี่ยวใจ เหมือนเราโกหกท่านอยู่ตลอด แต่บางครั้งที่ท่านลุกขึ้นนั่งได้เดินได้ (ปีกว่าที่ผ่านมามีอยู่ สองครั้งเท่านั้น) เราก็พอจะมีหวังค่ะ ช่วงนี้ท่านท้อแท้มากขึ้นเรื่อยๆน่ะค่ะ ทำให้รู้สึกผิดที่เราให้กำลังใจท่านได้ไม่พอ เรายังทำได้ไม่ดีเลยในการที่จะเสริมแรงให้ท่าน รุ้สึกผิดหวังกับตัวเอง แต่ก็ทำลับหลังนะคะ เพราะต่อหน้าท่านเราก็ต้องร่าเริงสนุกสนานให้กำลังใจ นี่แหละที่ทำให้เหนื่อยและห่อเหี่ยวที่รู้สึกว่าเรายังทำได้ไม่ดีพอ ท่านจึงยังท้อแท้อยู่

วันนี้คุยกันรู้เรื่องแล้วว่า ท่านท้อแท้อยากตายเพราะคิดว่าทำให้ลูกหลานลำบาก ก็เลยต้องส่งเสียงบอกพี่ๆทั้งหลายให้คุยกับท่าน เพื่อยืนยันว่าเราทุกคนรักท่านและอยากให้ท่านอยู่กับพวกเรา และจะช่วยกันพาท่านกลับบ้านไปหาอากุงให้ได้ ขอให้ท่านเข้มแข็ง สู้ สู้และพยายามทำให้ตัวเองทำได้ ไปได้  ต้องหาวิธีไปเรื่อยๆ

หลังสุดนี่ ได้เห็นว่าถ้าเอาคลิบที่ถ่ายตอนท่านมีแรงนั่ง แรงเดิน มาเปิดให้ดู ท่านดูทึ่งตัวเองและมีกำลังใจ น่าจะเป็นกลยุทธใหม่ในการสร้างพลังใจค่ะ 

บทสวดมนตร์ เพลงที่ท่านชอบ เราก็จัดหามาให้ท่านแล้วค่่ะ ใช้ได้แค่ช่วงแรกๆเท่านั้น ตอนนี้ทุกวันก็มีเราสองคนกับหลานสาวคนโตที่พยายามส่งเสียงมาคุยแบบเห็นหน้าเห็นตากัน แต่ก็ดูท่านเบื่อหน้าพวกเราหรือไม่ก็เกรงใจ แกล้งทำเป็นหลับตาให้เราไม่ต้องไปเยี่ยมนานๆ 

ขอบคุณทุกกำลังใจมากจริงๆค่ะ เขียนแล้ว เบาขึ้นนิดหน่อยจริงๆค่ะ

สิ่งที่พี่โอ๋เขียนแม้จะเป็นการระบายของพี่โอ๋แต่จันเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์กับอีกหลายๆ คนที่มีพ่อแม่แก่เฒ่าค่ะ อย่างน้อยก็ได้เห็นในความกตัญญูของครอบครัวโภคาธิกรณ์ที่จะเป็นแบบอย่างให้แก่ครอบครัวอื่นๆ ค่ะพี่โอ๋ 

เป็นกำลังใจให้นะคะ

ชื่นชมในการดูแลและบูชาจิตใจที่เต็มเปี่ยมด้วยความรักและปรารถนาดีต่อท่าน

คุณโอ๋ทำดีแล้วค่ะ

เป็นกำลังใจค่ะ

ส่งกำลังใจมาให้พี่โอ๋นะครับ เราทำได้ดีที่สุดแล้วครับ ผมเองก็มีคุณยายอยู่ รพ. มา 3 เดือนแล้ว ก็พยายามไปเยี่ยมและทำหน้าที่หลานอย่างดีที่สุด ทุกครั้งที่ไปเยี่ยมจะคิดบวกถึงบวกที่สุดตลอดเวลาทั้งๆที่เข้าใจว่าชีวิตกำลังอยู่ด้วยสังขารที่มีอยู่ในปัจจุบันขณะ ขอให้คุณย่าดีขึ้นไวๆนะครับ 

เข้มแข็งไว้นะคะพี่โอ๋

แล้วเราก็จะผ่านไปได้ค่ะ

ให้กำลังใจน้องโอ๋มากๆนะคะ  การให้อาหารทางสายยางนั้นควรงดอาหารที่ทำให้เกิดเสมหะเป็นทางช่วยได้วิธีหนึ่ง และหาผลไม้ที่ช่วยเรื่องเสมหะได้มาปั่นและให้ท่านบ่อยๆ เช่น สับปะรด  ส้มต่างๆ  สมุนไพร เช่น กานพลู ชะเอมเทศ ชะเอมไทย นำมาต้มแล้วใช้น้ำที่มีสมุนไพรใส่รวมในอาหารที่ทำเหลวที่จะให้ทางสายยาง  พอจะทำได้ไหมค่ะ อาหารที่ท่านทานทุกวันอาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ท่านมีเสมหะตลอดเวลา ท่านเกิดช่วงเดือนไหนค่ะธาตุอะไร การปรับความสมดุลเรื่องอาหารให้ท่านก็ทำได้ค่ะ

พี่ดาคะ อาหารท่านเป็นอาหารที่โรงพยาบาลปรับให้เพราะท่านเป็นเบาหวานด้วยค่ะ น้ำตาลไม่ค่อยนิ่งเท่าไหร่ ไตก็ขึ้นๆลงๆก็เลยไม่แน่ใจว่าจะลองปรับได้หรือเปล่า แต่พอพี่ดาพูดเรื่องนี้ทำให้นึกได้ว่า นี่น่าจะเป็นเรื่องที่เราลองขอคำปรึกษาจากนักโภชนาการลองดูได้นะคะ อาจจะเป็นอีกทางที่ช่วยได้ ขอบคุณมากๆค่ะ พี่ดา

พี่โอ๋บอกคุณย่านะคะว่ามีท่านพระครูมาอำนวยพรให้กำลังใจด้วยค่ะ 

สาธุค่ะ

ตามหาตั้งนานค่ะ

กว่าจะตามเจอ

มาให้กำลังใจด้วยคนค่ะ

สู้ๆนะค่ะ

เป็นกำลังใจให้ค่ะ 

ตัวผู้เขียนเองตอนนี้ดูแลแม่ที่เริ่มมีอายุมากแล้ว ก็ให้กำลังใจตัวเองตลอดค่ะ และนำหลักธรรมเข้ามาใช้

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท