กลืนไม่เข้า-คายไม่ออก...บำบัดได้


> Date: Mon, 22 Apr 2013 13:26:40 +0000

> From: support (at) gotoknow.org
> To: otpop (at) windowslive.com
> Subject: [gotoknow.org] You've received a contact mail (22 Apr 2013 20:26).

> จาก: NNNN
> หัวข้อ: กลัวการกลืน
> ---------------------------------------

> สวัสดีครับ อ. ดร. ศุภลักษณ์ เข็มทอง ตอนนี้แฟนผมมีปัญญหา คือความกลัว เพราะขาดความมั่นใจ
> อาการคือ กินแล้วรู้สึกติดคอ หรือ สำลัก จนไม่กล้ากลืน แฟนผมอายุ 20 ครับ เริ่มเรื่องมาจาก เขาไปผ่าฟันคุด แล้วหลังจากผ่า ก็รู้สึกว่ากินไม่ได้ ติดคอไม่ก็สำลัก จนตอนนี้กลัวจนไม่กล้ากินแม้แต่ข้าวต้ม คือผมอยากจะพาเขาไปบำบัด หรือ ให้ความมั่นใจครับ เพราะบอกลองให้เขาทำทุกอย่างแล้วก็ไม่ได้ผล แต่ถ้ามี หมอเขาคงหายกลัวไปได้บ้าง ช่วยติดต่อกลับมาด้วยนะครับ

Date: Tue, 30 Apr 2013 03:06:30 +0000
> From: support (at) gotoknow.org
> To: otpop (at) windowslive.com
> Subject: [gotoknow.org] You've received a contact mail (30 Apr 2013 10:06).

> จาก: NNNN
> หัวข้อ: Panic
> ---------------------------------------

> ใช่ครับ ผมได้โทรติดต่อไปวันนั้น ตอนนี้เขาก็ยังกินไม่ได้เหมือนเดิมครับ แล้วอาการที่เขาเป็น ตอนกินคือ อาการตื่นตระหนก(Panic) คือ อาการหน้ามืดใจสั่น จนเธอกลัวไม่กล้ากินครับ ผมว่าถ้าเธอกินได้ปกติ เธอหน้าจะหายจากอาการ Panic ด้วยครับ ปล. ไปหาจิตแพทย์มาแล้วครับ แล้วเด๋ววันที่ 4 พ.ค. ผมจะพาเขาไปครับ

> ขอบคุณ Dr.pop มากนะครับ

เมื่อวันที่ 4 พ.ค. 56 เวลา 12.30-13.30 น. ดร.ป๊อป ได้พบคุณ ณ. กับแฟนคือคุณ ม. และให้นำอาหารที่คุณ ม. ชอบมารับการตรวจประเมินทางกิจกรรมบำบัดจิตสังคมด้วย 

Subjective: สัมภาษณ์สภาวะการกลืนอาหารปัจจุบัน พบว่า คุณ ม. ทานอาหารเสริมแบบผงชงกับน้ำปริมาณเล็กน้อย ไม่ค่่อยทานน้ำ เวลาเดินไปทำงานจะรู้สึกไม่มีแรง เคยลองทานอาหารเคี้ยวก็แน่นหน้าอก หน้าชา มีอะไรจุกที่คอ และสำรอกอาหารออกมา ตอนนี้หมอให้ทานยาคลายเครียดอย่างเดียว อยากทานอาหารได้เหมือนเดิม ไม่ได้ทานอาหารอีกเลยนับตั้งแต่ทดลองจนสำรอกอาหารนาน 6 เดือนแล้ว 

Objective: ได้ตรวจช่องปากและลิ้น พบว่า ลิ้นแห้งมากจากการทานน้ำน้อย ทดสอบให้อมน้ำแข็งจนละลายและจิบน้ำผ่านหลอด คุณ ม. เกร็งคอเวลากลืนน้ำ เลยปรับให้หายใจเข้า ยกหน้าอกขึ้น ไหล่ยกขึ้น แล้วเป่าลมออกแรงๆ ทางปาก จากนั้นก้มคอเล็กน้อย ไม่เกิน 10 องศา ตามด้วยการกลืนน้ำลาย นับรวม 1 รอบ ให้ทำ 3 รอบ ก็ดูมั่นใจขึ้น รู้สึกกลืนลงคอได้ดี เมื่อทดสอบปฏิกิริยาอัตโนมัติของการป้องกันสิ่งแปลกปลอมในการกลืน (ใช้ไม้กดลิ้นจากปลายสู่กลางลิ้น ถ้าลิ้นดันไม้บริเวณถัดจากตรงกลางลิ้นด้านใน ถ้าปกติก็จะไม่ดันแรงเกินไป ของคุณ ม. ช่วงแรกก่อนอมน้ำแข็งนั้นดันแรง พออมซัก 4 ก้อนเล็กก็เป็นปกติ) ก่อนทดลองทานอาหารที่มีผิวสัมผัสจากง่ายสู่ยาก ที่เตรียมมาเริ่มจากแบ่งอาหารเป็น 1/4 ได้แก่ ลูกชุบ 1 ชิ้นเล็ก แตงโม 1 ชิ้นเล็ก ขนมจีบ 1 ชิ้นเล็ก และข้าวผัดไม่ปนเนื้อสัตว์ 1 ช้อนชา (แนะนำที่บ้าน ให้จัดอาหารในแต่ละวันสะสมได้ไม่เกิน 5 คำ ระหว่างมื้อให้มีน้ำผลไม้ปั่น 1 แก้ว และจิบน้ำให้ได้วันละ 2 ขวดๆ ละ 500 มล.) พบว่า ช่วงแรกแนะนำให้หลับตา นำอาหารผ่านช้อนไปที่กลางลิ้นแล้วใช้ลิ้นขยับซ้ายขวาดันกระพุ้งแก้มและฟันกรามเพื่อเคี้ยวให้ละเอียด ค่อยๆ ปล่้อยให้อาหารไหลลงคอแบบตั้งใจกลืนทีละคำ อาหารตั้งแต่ลูกชุบ แตงโม ขนมจีบ ใช้เวลาชิ้นละ 3-5 นาที มีจิบน้ำช่วยชิ้นละ 1-3 คำ และกลืนชิ้นละ 3-5 ครั้ง แต่เมื่อเป็นข้าวผัด มีความรู้สึกหายใจไม่ออก รู้สึกติดคอ อยากคาย (อดีตเคยสำลักข้าว) ผมก็พยายามช่วยกดบริเวณคอหอยแล้วยกขึ้นเบาๆ พร้อมบอกให้คุณ ม. ตั้งใจกลืนช้าๆ ไม่ต้องหลับตาเกร็งจนเกินไป ค่อยๆ เบี่ยงเบนความคิดระหว่างทานอาหาร เงยหน้ามองดูสิ่งแวดล้อมบ้าง เป่าลมออกเบาๆ เพื่อรับรู้ความสัมพันธ์ระหว่างการหายใจกับการกลืนที่ป้องกันได้ 

Assessment: ประเมินว่า คุณ ม. กลืนได้สำเร็จแม้ว่าจะเป็นการใช้เวลาและการปรับความมั่นใจในการกลืน คุณ ม. รู้สึกว่า กลืนได้ เข้าใจกระบวนการหายใจและการกลืนที่ควบคุมได้ แม้ว่าจิตยังกลัว แต่ต้องค่อยๆ ฝึกทานทุกวัน เพื่อให้มีพลังงานในการใช้ชีวิต 

Plan/Progression: เน้นการฝึกทุกมื้อสะสมรวม 5 คำต่อวัน หากจะสำรอกให้คายอาหารออกมาแล้วจิบน้ำ ขอติดตามผลใน 2 สัปดาห์ 

Date: Mon, 6 May 2013 00:34:55 +0000
> From: support (at) gotoknow.org
> To: otpop (at) windowslive.com
> Subject: [gotoknow.org] You've received a contact mail (06 May 2013 07:34).

> จาก: NNNN
> หัวข้อ: ถึง Dr.pop
> ---------------------------------------

> สวัสดีครับ พี่ Dr.pop หลังจากที่ผมพาแฟนไป รู้สึกเธอมีความมั่นใจมากขึ้นครับ ตอนนี้เริ่ม จะกลับมากินข้าวต้ม,โจ๊กได้สักหน่อยแล้วครับ ผมอยากจะขอบคุณพี่ Dr.pop ที่เข้าใจพวกผมนะครับ ขอบคุณมากครับแล้วจะติดต่อพี่เรื่อย ๆ ครับ ขอบคุณครับ

From: otpop (at) windowslive.com
To: NNNN                                                                                                                                               Subject: RE: [gotoknow.org] You've received a contact mail (06 May 2013 07:34).

Date: Mon, 6 May 2013 09:11:34 +0700

เรียน คุณ NNNN

ยินดีอย่างยิ่งครับ และให้กำลังใจให้น้องทานได้ดีขึ้นเรื่อยๆไป ซึ่งต้องใช้เวลาเร็วสุด 3 เดือน เพราะกระบวนการกลืนที่ควบคุมจากสมองต้องค่อยๆเรียนรู้ใหม่ในแต่ละมื้ออาหาร 

อย่าลืม มีอาหารที่หลากหลาย มื้อละ 3 รายการ ใช้แบบนิ่ม ข้น และชิ้นเล็กๆ ก่อนก็ได้ และก่อนทานต้องฝึกการหายใจกับการกลืนน้ำลาย พร้อมจิบน้ำเปล่าและน้ำผลไม้บ่อยๆนะครับ จะได้มีน้ำลายไม่แห้งจนเกินไป 

โชคดีครับผม

ดร.ป๊อป



หมายเลขบันทึก: 534768เขียนเมื่อ 4 พฤษภาคม 2013 19:38 น. ()แก้ไขเมื่อ 24 กรกฎาคม 2013 10:31 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (23)

เป็นความรู้จริงๆ  พ่อกำลังเป็นแบบนี้ ขอบคุณค่ะ

เข้าใจว่าเป็นภาวะทางจิตใจ อ่านไปๆ อ้าวกลืนไม่เข้า และคายไม่ออกจริงๆ ค่ะ

โชคดีนะคะที่ดิฉันไม่เคยเป็น ...เอาการอยู่เหมือนกันนะคะ

ขอบคุณเกร็ดความรู้ดีๆ ค่ะ

ใจเป็นนาย กายเป็นบ่าวจริงๆ คะ

กรณีนี้พอจะบอกเหตุ ปัจจัยที่ทำให้เกิดความรู้สึก panic ได้หรือไม่คะ 

จะได้เป็นความรู้ในการดูแล ต่อไป

ขอบคุณคะ

ขอบคุณมากครับคุณกระติก ปัจจัยที่ทำให้เกิด Panic ต่อการกลืนอาหาร คือ ประสบการณ์ความกลัวหลังจากการผ่าฟันคุดจนถึงความกลัวขณะเคี้ยวข้าวต้ม ดังนั้นควรเพิ่มความมั่นใจในการเคี้ยวและกลืนอาหารที่มีผิวสัมผัสนิ่มและกลืนง่ายกว่าข้าว รวมทั้งวิธีการฝึกการหายใจแยกการตั้งใจกลืนครับผม

อ่านแล้วได้คิดว่า เรื่องบางอย่างที่ง่ายๆจนเราลืมนึกถึงก็กลายเป็นปัญหาได้ ความเข้าใจเป็นสิ่งสำคัญจริงๆ

          มาชื่นชมให้กำลังใจค่ะ

เป็นกรณีที่น่าสนใจมาก..เห็นความตั้งใจดีของผู้บำบัด...ให้กำลังใจน้องม.ค่ะ

แสดงว่า เขาเคยสำลักใช่หรือไม่ ถึงกลัวการกลืน

ตอนเริ่มกิน ยาชาอาจยังไม่หมดฤทธิ์

อ่านแล้ว ได้ประโยชน์มากค่ะ คงนำไปใช้กับแม่ในการกลืนอาหารและกินยาได้ดีค่ะ

สวัสดีค่ะอาจารย์

การดูแลแบบองค์รวมที่ชอบพูดกัน ถ้าเราทำจริงๆ ก็จะเกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้ป่วย คุณยายเคยเจอเคสคล้ายๆกัน หลังจากที่ได้พูดคุย อาการดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ดีใจมากเลยค่ะ

พ่อไมชอบดื่มน้ำ  ขี้เกียจทานข้าวก็มาจากดื่มน้ำมะไหร่สำลัก เป็นตลอดๆ  ...พยามบอกให้ดื่มระวัง ตั้งสติใหม่เวลาดื่มน้ำ และขึ้นอยุ่กับการหายใจด้วย ...ทำให้พ่อไม่ชอบดื่มน้ำ แกบอกว่า ทั้งวันไม่ดื่มเลยก็ได้ 


ขอบคุณมากครับสำหรับความคิดเห็นที่ดีมากๆจากพี่โอ๋ คุณครูทิพย์ พี่นงนาท คุณกระติก คุณใบบุญ คุณมนัสดา และคุณ Priyapachara

ผู้ฝึกการกลืนต้องใจเย็นและอดทน เพราะผู้ที่สำลักน้ำหรืออาหารจะกลัวมากจนไม่อยากทานอะไรอีก เวลาเราบอกให้ระวังและตั้งสติ ดูเป็นนามธรรมเกินไป แค่สัมผัสให้ก้มศรีษะและทานอาหารที่จัดเตรียมแบบข้นก็จะช่วยให้ผู้ที่สำลักเข้าใจได้เองเมื่อกลืนอาหารครับผม

ขอบคุณมากครับคุณลูกหมูเต้นระบำ

ได้ความรู้เพิ่มมากเลยค่ะ

ยังไม่เคยเจอคนไข้แบบนี้

เป็นสภาวะจิตใจที่กำกับจนร่างกายไม่กล้าฝืน

น่าสงสารนะคะ

ขอบคุณค่ะจะได้ศึกษาเป็นความรู้ในการเยี่ยมบ้านต่อไปค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท