Priyapachara
นางสาว ปรียาพัชร ตุลาเนตร

วิธีเลี่ยงความทุกข์ รู้จักสร้างความสุขให้ตัวเอง


ผู้เขียน :: ปรียาพัชร  ตุลาเนตร

ชีวิตคนเราไม่สามารถคาดเดาหรือพยากรอนาคตได้ ไม่ได้ล่วงรู้ถึงสิ่งที่จะเป็นไปและเกิดขึ้นกับชีวิตเราได้ จำเป็นอยู่เองที่จะต้องรู้จักเรียนรู้ที่จะป้องกันตัวเองจากความทุกข์ ความไม่สบายใจที่เกิดจาก การไม่สามารถรับมือต่อสถานการณ์ที่กำลังเผชิญอยู่ได้ 

ในที่นี้จะกล่าวถึงการหลีกเลี่ยงความทุกข์โดยรวม เพราะผู้เขียนก็ไม่สามารถจำแนก และแจกแจงสาเหตุที่ก่อให้เกิดความทุกข์ได้หมด โดยทั้งหมด เป็นเพียงวิธีแนะนำ และแง่คิดจากประสบการณ์ผู้เขียนเท่านั้น คงไม่ใช่หลักและทฤษฎีตายตัว ว่าจะสามารถขจัดทุกข์ และสร้างความสุขให้กับผู้อ่านได้อย่างทันทีทันใด เพียงแต่เป็นวิธี เพิ่มเติมจากที่ผู้อ่านได้อ่าน  ได้ศึกษา และแสวงหาความสุขจากบทความอื่นๆแล้วเท่านั้น


●●》สิ่งแรกในการรับมือกับความทุกข์ ที่เรากำลังเผชิญหน้าอยู่ " ให้คิดเสมอว่า ทุกอย่างมันต้องผ่านไป " ไม่มีสิ่งใด ภาวะใดคงอยู่ได้นาน เพราะ วันเวลามันเปลี่ยนไป เราไม่สามารถถอยหลังกลับไปแก้ไขที่ต้นเหตุที่เราไม่รู้ได้ มีแต่ต้องเดินหน้าไปพร้อมกับมัน

●●》 เมื่อเกิดปัญหาที่ก่อให้เกิดความทุกข์ขึ้นแล้ว  " ให้ยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น ด้วยสติ อย่าฟุ้งซ่าน รู้จักนิ่งให้เป็น " ไม่มีใครที่เก่ง เชี่ยวชาญการแก้ปัญหาชีวิตได้เหมือนเรียนหนังสือ ต่อให้เป็นระดับ ด็อกเตอร์ก็ตาม ไม่มีใครกล้าตั้งตัวเป็นผู้เชี่ยวชาญปัญหาชีวิตแน่นอน ฉะนั้นเราอาจจะคิด แก้ปัญหาไม่ได้ทันที ให้นิ่ง และเดินตามเวลา เวลามันจะเยียวยาทุกอย่างได้ 

●●》 ในเมื่อเรายังไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะเกิดปัญหาอะไรในอนาคต เราก็ไม่สามารถเดาได้เหมือนกันว่า จะมี " สิ่งดีๆ" อะไรเกิดขึ้นกับเราในอนาคตเช่นกันจริงไหม ที่กล่าวมาในข้อนี้ เพื่อ " ให้คิดถึงสิ่งดีๆ วางแผนถึงสิ่งดีๆ ที่จะทำให้สบายใจ ไม่ใช่ให้หวังลมๆแล้งๆ แต่มันจะเป็นจุดเริ่มต้น ให้เราสามารถคิดถึงวิธีแก้ปัญหาได้ "  นอกจากแก้ปัญหาได้ ข้อนี้ มันจะทำให้เรามีความสุขขึ้นบ้าง ในภาวะจิตใจเป็นทุกข์

●●》 ชีวิตต้องดำเนินต่อไป เหมือนๆกับวันเวลา ที่ต้องเดินไปข้างหน้า " ให้คิดว่า ชีวิตต้องดำเนินต่อไป" ยังไงเราก็ยังคงต้องก้าวต่อไป บางคนก็ด้วยภาระที่ต้องรับผิดชอบคนที่อยู่ข้างหลัง พ่อแม่ ลูกเมีย เป็นต้น จะทำอย่างไรได้ ก็ในเมื่อปัญหามันเกิดแล้ว เรารู้ว่ามันคือสิ่งก่อทุกข์ เมื่อยังหาทางแก้ไขไม่ได้ เราเลือกได้ที่จะให้มันหยุดนิ่ง  หรือดีขึ้นเท่านั้น อย่าทำให้มันแย่ลงก็พอ  ข้อนี้จะรู้ได้อย่างไร ตอบว่าให้เชื่อและใช้สัญชาตญาณของคุณค่ะ เพราะมนุษย์เราทุกคน มีสัญชาตญาณการเอาตัวรอด และหลีกหนีความทุกข์อยู่แล้ว

●●》 ไม่มีใครชอบความทุกข์ใจหรอกจริงไหม ฉะนั้น " ควรหลีกเลี่ยงภาวะและสถานการณ์ ที่ก่อให้เกิดความทุกข์ " เช่น อย่าฟังเพลงเศร้า เหงา หรือเพลง ละคร หนัง ที่มันไปตรงกับปัญหาที่ตัวเองกำลังเผชิญอยู่ หลีกเลี่ยงสักพัก สักช่วงเวลาจะได้ไหม ก็ขนาดเราเป็นโรคอะไรสักอย่าง หมอยังสั่งให้ลด หรือหลีกเลี่ยงอาหารบางประเภท เช่น เปรี้ยวจัด หวานเกินไป งดแป้ง งดเผ็ดจัด แล้วทำไมเมื่อคุณกำลังป่วยด้วยปัญหาบางอย่างที่กำลังเผชิญ คุณถึงไม่เลี่ยงมันบ้าง เพราะผู้เขียนยังเห็น คนอกหัก ทั้งหลาย ยังเลือกฟังเพลงเหงา เศร้า เพลงที่มันเป็นปัญหาตัวเองพอดี ยังเอารูปถ่ายเก่าๆมาดู ยังไปสถานที่เก่าๆที่เคยไปกับเขา ...จะไปตอกย้ำตรงนั้นทำไม..หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นความรู้สึกเจ็บปวดเหล่านั้นสักพัก แล้วเวลามันจะเยียวยาทุกอย่าง

●●》 ปัญหาบางอย่างต้องการเพื่อน ไม่ใช่ให้เพื่อนมาช่วยรับรู้ หรือแก้ปัญหาอะไร ( จำไว้ว่า ปัญหาของทุกคนมีมากพออยู่แล้ว โดยเฉพาะเมื่อเราโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว อย่าเอาปัญหาของตนเองไปเพิ่มให้ใคร แล้วบอกว่าเพื่อนไม่รัก เพื่อนไม่เข้าใจ ) เราเพียงแค่ต้องการเพื่อนอยู่เคียงข้าง ทำกิจกรรมร่วมกัน เช่นพูดคุยเรื่องทั่วไป  ดูหนัง ดูทีวีด้วยกัน แม้กระทั่งเราไปนอนนิ่งๆเฉยๆ แต่มีเพื่อนอยู่ข้างๆ เพราะในบางภาวะ บางปัญหา คุณยังคงไม่พร้อมที่จะเล่าให้ใครฟังใช่ไหม บางทีก็อยู่ในภาวะที่ไม่อยากกิน ไม่อยากเดิน ไม่อยากทำอะไรเลย อยากอยู่นิ่งๆ บางปัญหา บางความทุกข์ก็ควรเล่าและพูดออกมา แล้วจะสบายใจหายทุกข์ บางอย่างก็ไม่ควรพูด เพื่อนที่เข้าใจ เค้าจะรู้ ไม่ถาม แต่พร้อมจะรับรู้ความทุกข์ และอยู่ข้างๆคุณ " ลองมองรอบตัวคุณ และหาเพื่อนแบบนี้ไว้สักคนค่ะ "

●●》 ในขณะที่เผชิญปัญหา และความทุกข์ใจครั้งใหญ่ " ปล่อยตัวเองให้นอนนิ่ง นั่งนิ่ง จมความทุกข์สักพัก แล้วลองลุกขึ้น ทานข้าว ดื่มน้ำ แม้จะฝืนก็ตาม แต่เชื่อเถอะว่า มันจะผ่อนคลายขึ้น อย่าปล่อยให้ร่างกายแห้ง ปากแห้ง คอแห้ง เพราะขาดน้ำ อย่าปล่อยให้แสบท้อง ท้องร้อง เพราะความหิว สิ่งเหล่านี้ เป็นความรุ่มร้อนทางกาย ที่จะไปเพิ่มอุณหภูมิความทุกข์ในใจ จริงๆนะคะ" ฉะนั้น รีบลุกขึ้นมาอาบน้ำ ทานข้าว ดื่มน้ำ ให้ร่างกายได้สดชื่น แล้ว " ถามตัวเองว่า จะใช้เวลา และให้เวลากับความทุกข์ครั้งนี้กี่วัน" ขอคำตอบเป็นจำนวนวันก็พอนะคะ อย่าให้ถึงกับเป็นเดือน เพราะคุณจะชอบหรือ ที่ต้องตกอยู่ในภาวะของความทุกข์ หนักอกหนักใจ เป็นเวลานานๆ ฉะนั้น ควรให้เวลากับความทุกข์นั้น ไม่กี่วันก็พอ พอครบกำหนด คุณต้องทำตัวเองใหม่ ปฏิวัติตัวเองใหม่ กล้าเผชิญหน้ากับสิ่งต่างๆด้วย หาหนังที่คุณชอบเคยดูแล้วมีความสุขมาดู ฟังเพลงที่คุณชอบ หาตลก จากยูทูปมานั่งดู ยิ้มแรกของคุณ จะสร้างรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะได้มากขึ้น มากขึ้น ในวันต่อๆไป ....และให้ดีใจกับตัวเองว่ายิ้มได้แล้ว...อย่าเป็นคนย้ำคิด ย้ำซ้ำเติมปัญหาให้ตัวเอง

●●》 สุดท้าย เมื่อวันเวลาผ่านไป เยียวยาให้คุณลุกขึ้นยืนได้แล้ว ให้ " ค่อยๆคิดแก้ปัญหา " ถ้าเป็นปัญหาการเงิน ลองเริ่มหางานใหม่ หรือ ดูช่องทางฝึกอบรมพัฒนาตัวเอง เพื่อหาอาชีพเสริม ถ้าเป็นปัญหาร่างกาย สุขภาพ ลองออกกำลังกาย เล่นโยคะ สวดมนต์ ได้ทุกศาสนา ทุกความเชื่อของคุณ กินอาหารเพื่อสุขภาพ  อะไรที่เราไม่คิดว่ามันจะเกิด มันก็อาจจะเกิดมีปาฏิหาริย์ก็ได้ พบเห็นได้จากหลากหลายตัวอย่างในโลกใบนี้ ถ้าเป็นปัญหาความรัก ให้ลองเริ่มรักตัวเองให้มากที่สุด ถนอมตัวเอง ดูแลตัวเอง ปฏิวัติตัวเอง อย่างน้อยเราจะดูดีขึ้น ทำให้เราสดชื่นขึ้น บางทีเราไม่ต้องดูดีเพื่อใครหรอกค่ะ แค่เห็นตัวเองดูดี เราก็มีความสุขแล้ว พ่อแม่ก็พลอยมีความสุข ( พ่อแม่ผู้เขียน จะมีญาณวิเศษจับสีหน้าลูกได้ดีนักแล ปิดไม่เคยมิด เมื่อเราดูแย่จากจิตใจ ร่างกาย หน้าตาเราก็แย่ พ่อแม่ก็จะพลอยไม่สบายใจไปด้วยค่ะ ) จากนั้นขยายความรักมาถึง พ่อแม่ เพื่อนฝูง คนที่รักเราดีกว่าค่ะ การที่เรารู้จักรักใครให้เป็น จึงจะเรียกว่าคุณรู้จักความรัก และพร้อมที่จะก้าวไปพัฒนาความรักครั้งใหม่

ขอให้ผู้อ่านทุกคนที่ได้ผ่านเข้ามาอ่าน สามารถลุกขึ้นยืนด้วยพลัง และมีจิตใจที่เข้มแข็งค่ะ


หมายเลขบันทึก: 534763เขียนเมื่อ 4 พฤษภาคม 2013 18:56 น. ()แก้ไขเมื่อ 5 พฤษภาคม 2013 23:44 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

" ปล่อยตัวเองให้นอนนิ่ง นั่งนิ่ง จมความทุกข์สักพัก" 

ดีจังค่ะ 555  เมื่อก่อนเป็นบ่อยค่ะ แต่ตอนนี้หายแล้วค่ะ 

มันต้องเป็นล่ะค่ะ  มันเลี่ยงยาก แม้เราจะฝืนลั๊นลาขนาดไหน  อยู่ท่ามกลางผู้คนมากมายยังไงก็ทุกข์ค่ะ  ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่า 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท