ที่แปลกกว่านั้นมันเสียบปลั๊กกับต้นไม้ได้มันเหมือนมีเส้นประสาทอยู่"
อ.ไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม
4 กพ. 2553
(เป็นคำพูดของอาจารย์ เมื่อการประชุมคณะกรรมการสภาองค์กรชุมชน ที่พอช.)
อวตาร คือร่างกายของสิ่งมีชีวิตที่ลอกเลียนแบบให้เหมือนชาวนาวี บน “ดาวแพนโดรา” มีลักษณะคล้ายมนุษย์ รูปร่างสูงใหญ่มีหาง ผิวหนังมีลายสีน้ำเงินเต็มตัว เรืองแสงได้ยามค่ำคืน เหมือนกับสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ บนดวงดาวแพนโดรา ดวงตาเปล่งประกายสุกใสสีเหลืองโทนน้ำตาล มีดั้งจมูกใหญ่เหมือนสิงโต มีฟันเขี้ยวที่ยาวแหลม
ทีมนักวิทยาศาสตร์ นำทีมโดย “เกรส” หัวหน้าทีมนักวิทยาศาสตร์ที่ได้ออกแบบวิจัยและสร้างร่างเสมือนของชาวนาวี หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “พาหนะ” นี้ขึ้นมา ด้วยวิทยาการชั้นสูง (ซึ่งบอกว่าเป็นยุคอนาคตที่ชาวโลกไฮเทคมากๆ) โดยการปลูกถ่ายเนื้อเยื่อให้ออกมามีรูปร่างหน้าตาเหมือนชาวนาวีอย่างกับแกะ โดยร่างจะหายใจหรือเคลื่อนไหวได้ด้วยจิตของมนุษย์เจ้าของร่างอวตาร ผ่านเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์เสมอ
“เจค ซัลลี่” พระเอกของเรื่องผู้มีขาพิการทั้งสองข้าง เป็นตัวแทนของกองทัพทหารฝ่ายมนุษย์โลก ที่ถูกส่งไปปฏิบัติหน้าที่โดยการใช้ร่างอวตารเป็นสื่อในการติดต่อกับชาวนาวี ที่แท้จริง บนดาวแพนโดราของพวกเขา เจคต้องเข้าไปใช้ชีวิตและคลุกคลีกับชาวนาวี ระหว่างนั้นเขาได้เรียนรู้และฝึกฝนตนเองให้อยู่และเป็นอย่างชาวนาวี การทำงานของเจคถูกใช้เพื่อการค้นคว้าทางวิทยาศาสตร์ และที่สำคัญเพื่อแผนในการโน้มน้าวให้ชาวนาวียอมโยกย้ายถิ่นฐานและออกไปจาก ดินแดนที่พวกเขาเคยอยู่ อันจะเป็นการเปิดทางสะดวกในการขุดเจาะแร่พิเศษ “อันออบเทเนียม” ที่มนุษย์โลกตีราคาไว้ด้วยมูลค่าสูงลิบลิ่ว และจะนำเอากลับไปยังโลกของตน ซึ่งในที่สุด ผู้นำแห่งกองทัพได้ชักจูงให้ผู้นำแห่งการปฏิบัติภารกิจครั้งนี้ ใช้การบุกโจมตีด้วยอาวุธอย่างรุนแรงเพื่อขับไล่ชาวนาวีออกไปให้พ้นทาง
โทรุมัคโต .....วีรบุรุษเผ่านาวี
เมื่อหนังหักมุม มนุษย์จากฟ้ากลับปราชัยธรรมชาติ ท้ายสุดเหตุการณ์ทุกอย่างกลับมา.....เมื่อธรรมชาตินั้นสามารถชนะได้อีก
ครั้ง นี่กระมังที่เขาเรียกว่าธรรมชาติลงโทษ ผูงมังกรบินและสัตว์อื่นๆ
รวมถึงธรรมชาติ
รวมพลังกันโจมตีกองทัพมนุษย์ผู้รุกรานทั้งหลายที่เรียกว่าอนารยชน
ในตอนหนึ่งบอกว่า "“มนุษย์ ทำร้ายแม่ตนเอง” แม่ที่นี้ชาวนาวีหมายถึงธรรมชาติขุมพลังที่เกาะเกี่ยวกันไว้
ต้นไม้แห่งชีวิตที่ทุกสรรพสิ่งประสานกันอยู่ ทั้งชาวนาวี มังกรบิน
หรือแม้กระทั่งการประสานสู่การเป็น โทรุมัคโต สัญลักษณ์แห่งการกลับใจและการพลิกฟื้นของเจค ที่กลับมาดูแลธรรมชาติ เผยในท่าทางชายผู้ขี่มงกรบินยักษ์ ที่นานกว่าหลายชั่วคนนักที่จะเป็นผู้กำชัยได้ในฐานะ โทรุมัคโต เพื่อประกาศพื้นที่ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์หนังเรื่องนี้ สะท้อนและกำลังบอกว่า คนจากฟ้า (หมายถึงพวกเรา)
ที่กำลังทำร้ายแม่ตัวเอง ดังเจคที่ได้ประกาศตัวเอง ในฐานะโทรุมัคโตเพื่อเป็นผู้รวมพลังชาวนาวีและกอบกู้ว่า ว่า :
"มาช่วยกัน บอกพวกเขาว่า โทรุคมัคโต เรียกพวกเขา"
"บัดนี้ท่านจะได้ สู้ศึกร่วมกับข้า พี่น้องข้า ทั้งชายหญิง "
"เราจะแสดงให้คนจากฟ้ารู้ว่า พวกเขาไม่สามารถได้ทุกสิ่งที่เขาต้องการ."
ความนัย.....จากอวตาร
จากความน่าสนใจของหนัง นี่แหละครับคงเป็นจุดเล็กที่ผมเขียนบทความเรื่องนี้ ในเรื่องอวตาร ที่ท่านเล่าให้เราฟังในวันนั้น จากประโยคของอาจารย์เรื่องหนังอวตารนี่เอง "ผมก็มานึกเอาเองว่าหากเรามีหางที่สามารถเชื่อมต่อสื่อสารกันได้รับรู้ความ รู้สึกระหว่างกันบ้างก็น่าจะดีแน่ เพราะบางครั้งการที่เราไม่สามารถรับรู้ความรู้สึกคนอื่นได้ สิ่งนั้นเองก็ทำให้คนอื่นก็ไม่เข้าใจเราเองเช่นกัน" เพราะคิดว่าหนังเรื่องนี้แม้แต่อาจารย์เองก็สนใจต้องมีอะไรดีแน่
"ผมตัวเองว่า บนความรู้สึกว่าคนเราไม่เคยพอจริงๆนะครับว่าไหม
ที่เราดั้นด้นเข้ามาในที่นี่ก็เพื่อ แร่อะไรสักอย่างนี่แหละ
ที่เป็นที่อยู่ของมนุษย์มีหาง
แต่ก็มีคนกลุ่มหนึ่งที่ก็พยายามเพื่อเข้าใจพวกมนุษย์เหล่านี้
ผมกำลังนึกถึงอะไรรู้ไหม ก็จะไปไล่ที่เขายอมทำทุกวิถีทางเลย
ท้ายสุดไม่ได้เป็นอย่างนั้น
อำนาจยิ่งใหญ่ที่แท้จริงไม่ได้เป็นของมนุษย์กลับแปลกที่ยิ่งใหญ่นั้นคือ ธรรมชาติ
ในเรื่องที่สื่อสารสายใยชีวิตของคนและธรรมชาติโดยการใช้หางของตัวเองประสาน
กับทุกสิ่ง ที่มีช่องทางเพื่อการเชื่อมต่อกัน
ท้ายสุดมนุษย์ก็คือตัวเล็กๆคนหนึ่งที่อยู่ภายใต้ธรรมชาติและเราเองก็ใช้มัน อย่างบ้าคลั่ง ขณะที่ผมบ่นนี่ผมก็ยังคิดว่าผมเองก็ใช้พลังงานพอสมควรเลยครับทั้งแอร์ ไฟฟ้า สารพัดที่ผมจะใช้มันลงไปได้ และที่กระตุกแนวคิดผมที่อาจารย์พูดคือ ต้นไม้มันเยอะไปหมด แต่เดี๋ยวนี้หละบ้านเรายังเยอะแบบนั้นหรือเปล่า เป็นเรื่องที่น่าหาคำตอบพอสมควร" และเราเองก็คงต้องหาคำตอบต่อไป...
เรารู้จักธรรมชาติดีแค่ไหน ?
รู้เท่ากับชาวดาวแพนเดอร่าไหม ?
แล้วเราเลือกที่จะทำลาย หรือเลือกที่จะรักษาธรรมชาติไว้ ?
ในหนังเขาอาจจะสร้างจินตนาการไปถึงดาวดวงอื่นแต่เรื่องจริงมันก็เกิดขึ้นบนดาวโลกของเรานี้แหละประเทศที่เจริญทางวัตถุมากๆ รุกรานเข้าไปในพื้นที่เพื่อเข้าไปแก่งแย่งกอบโกยทรัพยากร และ
มองว่าชาวป่า ชาวบ้านว่า "โง่" ไม่รู้อะไรทั้งๆที่ชาวป่าเขารู้จักโลกในธรรมชาติของเขาเป็นอย่างดี(ก็คงเหมือนกับว่ามนุษย์มีหางสื่อสารกับต้นไม้ได้กระมัง)คนในเมืองต่างหากที่ "ไม่รู้" และไม่รู้อะไรเกี่ยวกับป่าและธรรมชาติ มีแต่การเสาะแสวงหาและใช้ทรัพยากรอย่างไม่รู้จักพอ
"เมื่อธรรมชาติอยู่ไกลเรายิ่งขึ้น และขณะเดียวกันเรายิ่งหนีธรรมชาติไปอีก" ลองฟังเพลงประกอบดูนะครับเราจะได้รับรู้ธรรมชาตินั้นยังมีความลับอยู่ ผ่านเพลง The secret garden
เป็นบันทึกที่สะท้อนมุมมองได้น่าคิดมากค่ะ
เรารู้จักธรรมชาติดีแค่ไหน ?
รู้เท่ากับชาวดาวแพนเดอร่าไหม ?
แล้วเราเลือกที่จะทำลาย หรือเลือกที่จะรักษาธรรมชาติไว้ ?
* ขอร่วมรำลึกถึงคุณไพบูลย์ คนดีของแผ่นดิน..
* ขอบคุณแง่คิดดีๆจากบันทึกนี้ที่สะท้อนความสมถะเรียบง่าย ในการดำเนินวิถีชีวิตแบบรักธรรมชาติ..ให้คุณค่าของเพื่อนมนุษย์ และการเผื่อแผ่ต่อสังคมอย่างจริงใจค่ะ
อิงจันทร์ ขอบคุณมากนะครับครูที่เข้ามาเยี่ยมชม พอมามองย้อนไปตอนเขียนอายุน้อยกว่านี้จะเป็นอีก 1 อารมณ์ ส่วนเขียนปัจจุบันก็เป็นอีก 1 อารมณ์ครับ
มีท่านใครคิดเหมือนผมบ้างครับ
ว่าบันทึกทุกบันทึกของ "คุณลูกหมูเต้นระบำ" ทำให้หัวใจได้เต้นอย่างมีความสุข
เป็นสีสันหนึ่งที่งดงามของโกทูโนว์
รบกวนว่าเขียนเรื่อยๆ นะครับ...อยู่ให้นานๆ ที่สุด
หลงรักเข้าเสียแล้วครับ
(คิดถึงอาจารย์ไพบูลย์ด้วยนะครับ)
ขอคารวะความคิดเห็นของท่านไพบูลย์ด้วยครับ
ผมพลาดที่จะได้ทำงานกับท่านตอนท่านมาทำงาน สัจจะออมทรัพย์ที่หนองสาหร่าย กาญจนบุรีครับ
ทิมดาบ ขอบคุณพี่มากครับถ้ามีเวลาจะเขียนปกติครับ ยอมรับว่าหลงรักในมิตรภาพและหลงในบรรยากาศพี่น้องของบอร์ดนี้ไปแล้วครับ เพราะการแลกเปลี่ยนและความรักจากบอร์ดนี้มีพลังในการที่จะอยากเขียนในการที่จะอยากเล่าและในการที่จะแบ่งปันครับ ไม่มีอะไรผิดถูกแบ่งปันกันและเรียนรู้ร่วมกันครับ ขอบคุณพี่นะครับที่เข้ามาเยี่ยมชม
อาจารย์ครับ ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชม อาจารย์ไพบูลย์แนวคิดท่านเป็นแนวคิดเศรษฐศาสตร์การพัฒนาที่ปรับประยุกต์ใช้ได้จริงๆครับ
จันทวรรณ |
ขจิต ฝอยทอง |
ชยพร แอคะรัจน์ |
อิงจันทร์ |
นาง นงนาท สนธิสุวรรณ |
ทิมดาบ |
tuknarak |
อักขณิช |
เขียนซะผมอยากดูและเสียดายที่ยังไม่ได้ดู
ขอบคุณครับ
พ.แจ่มจำรัส ขอบคุณนะครับพี่ที่มาเยี่ยมชมครับ เรื่องนี้น่าจะนานมากสัก 3 ปี แต่เนื้อหาและเทคนิคดีจริงๆ ครับ
ชอบหนังเรื่องนี้มาก ชมสองครั้ง ขอบคุณที่นำมาฟื้นความจำอีกครั้งค่ะ
ตันติราพันธ์ ขอบคุณมากครับที่เข้ามาเยี่ยมชม หนังเรื่องนี้กำลังบอกเราเรื่องธรรมชาติและคนครับ....
แวะมาร่วมรำลึกถึงอาจารย์ไพบูลย์ด้วยคนนะครับ คุณลูกหมู
ปล. ภาพประจำตัวดูแล้วอารมณ์ดีนะครับ เหมือนบินได้จริง
รออ่านบันทึกนะครับ
ขอบคุณมากครับพี่แสงที่เข้ามาเยี่ยม...สบายดีนะครับพี่ช่วงนี้ครับ
ขอบคุณมากครับพี่ ที่มาเยี่ยมชม ผมเอาเพลงนี้มาฝากป่ากำลังบอกเรา..ผ่านเพลงป่าตะโกน