สัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์

***** วันนี้ขออนุญาตเล่าถึงช่วงเวลาสำคัญสำหรับคริสตศาสนิกชน โดยเฉพาะนิกายโรมันคาทอลิก ซึ่งถือว่าเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด ยิ่งกว่าช่วงเทศกาลคริสต์มาส เพราะคริสต์มาสเป็นการเริ่มต้น แต่ปัสกาคือชัยชนะ

***** ช่วงเวลา 40 วัน ในเทศกาลมหาพรตผ่านไปอย่างรวดเร็ว ตลอดสัปดาห์นี้ในศาสนาคริสต์ถือว่า เป็นสัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์ ไล่เรียงตั้งแต่ วันจันทร์ศักดิ์สิทธิ์ - วันเสาร์ศักดิ์สิทธิ์ และวันอาทิตย์ที่จะถึงคือวันปัสกา (Easter)

***** พิธีกรรมสำคัญจะเริ่มในเย็นวันพฤหัสบดีศักดิ์สิทธิ์ ปีนี้ตรงกับวันนี้ (27 มีค.56) มีการล้างเท้าเลียนแบบพระเยซูเจ้า ซึ่งจะมีผู้แทน 12 คน (เท่ากับจำนวนอัครสาวกทั้ง 12 องค์) มีการตั้งศีล เฝ้าศีล เปรียบเสมือนพระเยซูเจ้าทรงอธิษฐานภาวนาในคืนก่อนที่จะถูกจับไปทรมาน

***** วันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์ ตลอดทั้งวันจะอยู่ในบรรยากาศเงียบสงบ ตามชนบทที่มีการรตีระฆัง วันนี้จะงดแต่ตีฆ้องหรืออย่างอื่นแทน ตามวัดส่วนใหญ่จะมีพิธีกรรมเพื่อรำลึกถึงพระทรมานของพระเยซูเจ้าเรียก "เดินรูป 14 ภาค" และนมัสการกางเขน ในเวลา 15.00 น. เพราะเป็นช่วงเวลาที่พระเยซูเจ้าสิ้นพระชนม์นั่นเอง แต่หากจำเป็นบางวัดสามารถกระทำในเวลาเย็นได้ หลังเสร็จพิธีกรรม ทุกคนจะเดินออกจากวัดอย่างเงียบๆ ไม่มีการภาวนาตอนจบ ไม่มีการร้องเพลง เป็นการไว้ทุกข์

***** วันเสาร์ศักดิ์สิทธิ์ เป็นการตื่นเฝ้า มีพิธีกรรมตอนเย็น มีการเสกน้ำ เสกไฟ และมิสซาเย็นเริ่มเข้าสู่ปัสกา คือการระลึกถึงการกลับคืนชีพของพระเยซูเจ้า

***** วันอาทิตย์ปัสกา เป็นมิสซาแห่งความชื่นชมยินดี เมื่อพระเยซูเจ้าเสด็จกลับคืนชีพ หมายถึง พระองค์ทรงชนะความตาย อันเป็นเครื่องหมายการไถ่บาปมนุษย์ทุกคน

***** สัญลักษณ์ที่ใช้กันมากคือไข่ปัสกา ผู้เตรียมจะนำไข่มาต้มแล้วตกแต่งให้สวยงาม บางวัดจะเขียนข้อความ บางวัดจะจัดใส่ตะกร้าเล็กๆ หรือบางวัดก็มีการซ่อนไข่เพื่อให้เด็กๆ และผู้ไปร่วมมิสซาได้ช่วยกันหาอย่างสนุกสนาน หรือบางทีก็แจกช็อกโกเล็ตสำหรับเด็กๆด้วย แต่ความหมายที่แท้จริง ไข่คือสัญลักษณ์ ของการเกิดใหม่

***** การเกิดใหม่เกิดขึ้นได้ทุกวัน ทุกขณะ สำหรับผู้เขียนแล้วคิดว่า การเกิดใหม่คือการมองในมมุมใหม่ มองแง่บวก ในทุกเหตุการณ์ของชีวิต แม้ในความทุกข์ ความลำบาก เราสามารถมองเห็นพระพรได้ เพราะความทุกข์นั้นได้หล่อหลอมจิตใจเพื่อความดีงาม จากประสบการณ์ของผู้เขียน หลายครั้งไม่สามารถระลึกได้ทันที บางเหตุการณ์ผ่านไปถึง 10 ปี จึงสามารถมองเห็นพระพรที่แฝงอยู่ในเหตุการณ์นั้นๆ

**** จงขอบคุณอดีตด้วยความกตัญญู  จงอยู่กับปัจจุบันอย่างมีสติ จงก้าวไปในอนาคตด้วยความไว้วางใจ*****

[ดร. ธวัชชัย ปิยะวัฒน์]

ผมชอบย่อหน้า "การเกิดใหม่เกิดขึ้นได้ทุกวัน....." ครับ ขอบคุณที่แบ่งปันครับ

[พ.แจ่มจำรัส]

อ่านบันทึกนี้เสร็จทำให้ได้สติ ทบทวนปัจจับันของตัวเอง

[ครูทิพย์]

ขอบคุณที่มีบันทึกดีๆ ให้อ่านค่ะ

[ธิ]

ชอบจัง...เกิดใหม่ทุกวัน  เกิดใหม่ทุกครั้งที่รู้