ย้อนอดีตรำลึกถึง นร. อ.ชุมพวง จ. นครราชสีมา...ในทุกครั้งที่ผมเห็นรอยยิ้มของผู้คนผมนึกถึงคำกล่าวที่ว่า…ยิ้ม หัวเราะ และร้องเพลงในใจเป็นผลดีชั้นต้นต่อสุขภาพจิต ยิ้ม หัวเราะ และร้องเพลงออกมาจริง ๆ เป็นผลดีชั้นสูงต่อสุขภาพ ยิ่งบ่อยเท่าใดยิ่งดีเท่านั้น อุปสรรคและปัญหาต่าง ๆจะมลายหายไปสิ้น...
ดังนั้น...พวกเราจงมายิ้มกันเถิด...ยิ้ม ๆๆ ยิ้มมาในตาหวานชื่น...ยิ้มนิดชีวิตยั่งยืน...สดชื่นอุราอย่ารีรอ...มายิ้มกันหนอพวกเรา... ( ยกเว้นคนฟันหรอเท่านั้นที่ไม่ยิ้ม )...ฮา ๆ เอิก ๆ...
ผมขึ้นต้นการพูดกับนักเรียนระดับมัธยม...ที่ อ. ชุมพวง เมืองโคราช ชื่อโรงเรียนชุมพวงศึกษา...เมื่อคราผมไปร่วมอบรมเข้าค่ายพุทธบุตร ปี 2529 พวกเด็ก ๆชอบคนตลก...พูดไม่เครียด...ชอบฟังนิทาน...โดยเฉพาะเรื่องผี ๆ...
การไปของผมคราวนั้นที่จดจำได้...เพราะนักเรียนทั้งหลายที่นั้น...ยกให้ผมเป็นขวัญใจวัยรุ่นของพวกเขาครับ...มันเป็นเรื่องจริงไม่ใช่ผมยกหางตนเองนะครับ ฮา ๆ เอิก ๆ...ไม่ว่าผมจะพูดอะไร...มีกิริยาอะไร...พวกเด็ก ๆเหล่านั้นเป็นอันขำก๊าก ๆ เลย...
ผมเดินไปที่ยืนพูด...ขณะเดินไป...ผมเอามือลูบคางเหมือนคนมีเครา...พวกเขาก็หัวเราะ...เสียงดังลั่นหอประชุม...เส้นตื้นจริง ๆ...เมื่ออบรมเสร็จพวกเรากลับโดยรถไฟ...
พวกเด็กนักเรียนแห่กันมาส่ง...เต็มทางเท้ามายืนส่งถึงบันไดรถไฟครับ...พ่อแม่มารอ...เอารถมารับก็ขอมาส่งพวกเราก่อน...บางคนร้องไห้...ด้วยความคิดถึง...ตามส่งกันหมื่นลี้ก็ยังต้องจากกันอยู่ดี...ครับ...
พอกลับมาที่พัก...จดหมายน้อยปลิวมาหาผม...คงยังไม่รู้จัก...คุณ Email
ผมต้องใช้ลังกระดาษบรรจุใว้...เมื่อนึกย้อนอดีตดูแล้ว...ผมก็ยิ้ม ๆ...คิดถึงเด็กพวกนั้นจัง...
แต่ทุกอย่างมันผ่านเร็วเหมือนมีปีกบินครับ...นี้คือเสี้ยวหนึ่งของชีวิตที่ผมสัมผัสได้กับเด็ก ๆ...ซึ่งมีอารมณ์เปลี่ยนแปลงง่ายอยู่ตลอดเวลา...สวัสดีครับ คุณขจิต ฝอยทอง
ขออภัย...ผมพิมพ์ปีผิดครับ...แก้ไขเป็น 2529 ครับ
ขอบคุณครับ
จาก...umi