บทเรียนจากข่าวใหญ่ กำนันเป๊าะถูกจับ


ในประไทยเรานี้มีอำนาจใหญ่ที่บังคับให้กลุ่มคนต้องทำหน้าที่เพื่อให้คนไทยอยู่ร่วมกันได้อย่างยุติธรรม

ต้องยอมรับว่ากำนันเป๊าะเป็นคนดังมากได้ยินข่าวคราวของกำนันมานานจริง ๆ รู้จักมากเมื่อ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส เล่าให้ฟังถึงประวัติความดังของกำนันในครั้งรับการอบรมเมื่อประมาณ 30 ปี ที่แล้ว

ข่าวใหญ่ในระยะสามสี่วันมานี้ ก็คือ ข่าวจับกุม “กำนันเป๊าะ” สมชาย คุณปลื้ม  บิดานายสนธยา คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม  ขณะที่กำนันเป๊าะ นั่งอยู่ภายในรถยนต์ส่วนตัวยี่ห้อเลกซัส สีดำ ทะเบียน ฏฏ 9519 กรุงเทพมหานคร พร้อมกับหลานสาวรวม 3 คน โดยมีหลานสาวกำนันเป๊าะเป็นผู้ขับขี่ มาจอดบริเวณด่านชำระค่าทางด่วนลาดกระบัง (ขาออก) เพื่อขึ้นทางด่วนมอเตอร์เวย์เดินทางกลับจังหวัดชลบุรี หลังช่วงเช้ามารักษาอาการป่วยที่โรงพยาบาลสมิติเวช ย่านพัฒนาการ โดยปลอมแปลงชื่อผู้ป่วยว่าชื่อ “กิม แซ่ตั้ง”

กำนันเป๊าะตกเป็นจำเลยคดีจ้างฆ่านายประยูร สิทธิโชติ หรือกำนันยูร อดีตกำนันตำบลท่าเสม็ด จังหวัดชลบุรี ร่วมกับนายภาสกร หอมหวล หรือ ส.ท.เหี่ยว ในความผิดจ้างวานฆ่าคนละ 25 ปี และ และคดีที่กำนันเป๊าะทุจริตจัดซื้อที่ดินสาธารณะ ตำบลเขาไม้แก้ว จังหวัดชลบุรี เพื่อสร้างบ่อกำจัดขยะ อีก 5 ปี 4 เดือน รวมแล้วกำนันเป๊าะจะติดคุก 30 ปี 4 เดือน

กำนันเป๊าะ และนายภาสกร ถูกศาลชั้นต้นได้พิพากษา เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2547  แต่จำเลยทั้ง 2 ได้ยื่นฎีกา ขอให้ศาลฎีกาพิพากษายกฟ้อง กระทั่งเมื่อถึงเวลานัด ไม่มีผู้ใดมาศาล ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยที่ 1-2 ทราบนัดโดยชอบแล้ว แต่ไม่มาศาล โดยไม่แจ้งเหตุขัดข้อง จึงมีเหตุอันเชื่อว่า จำเลยทั้ง 2 จะหลบหนี ซึ่งศาลได้อ่านคำพิพากษาลับหลังจำเลย โดยพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ให้จำคุก พร้อมให้ออกหมายจับจำเลยทั้ง 2 คน มาดำเนินคดี และสั่งปรับนายประกันของจำเลย ทั้ง 2 คน ที่ไม่สามารถส่งตัวจำเลยได้ตามนัด

กำนันเป๊าะจึงหายตัวไปตั้งแต่วันที่หลบหนี  และมาปรากฏอีกที หลังจากประมาณ 8 ปี ที่ถูกจับกุมในวันนี้

เรียบเรียงจาก

1.  http://manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9560000012463

2.  http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%A2_%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%A1  

ที่ต้องเข้าใจก่อนบทเรียนก็คือ  ในประไทยเรานี้มีอำนาจใหญ่ที่บังคับให้กลุ่มคนต้องทำหน้าที่เพื่อให้คนไทยอยู่ร่วมกันได้อย่างยุติธรรม  ก็คือ  อำนาจนิติบัญญัติที่คอยออกกฎระเบียบให้อยู่ร่วมกันได้  อำนาจบริหารที่ช่วยให้ปฏิบัติใด ๆ ให้คนไทยปฏิบัติต่อกันในกรอบกฎระเบียบ และอำนาจตุลาการ ที่คอยตัดสินความถูกผิดตามกฎระเบียบ  เพื่อให้อำนาจบริหารไปจัดการให้ถูกต้อง  หากเกิดความผิดขึ้น  

บทเรียนก็คือ

1.  การหนีคุกได้เพราะคนที่ใช้อำนาจการบริหารอ่อนแอ หรือ เห็นแก่เงิน หรือ เห็นแก่ความเป็นพรรคเป็นพวก มากกว่าความถูกต้อง  แต่ด้วยความเป็นอำนาจที่ปรากฏในกฎระเบียบ อำนาจจึงไม่ได้อ่อนแอตลอดไป เพราะคนที่ไม่อ่อนแอในการใช้อำนาจยังมี  ที่ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบ

2.  การหนีคุกไปหลาย ๆ ปี ติดคุกอยู่ที่ใจ จนโรคร้ายกำเริบ กลับมาอีกทีติดคุกทั้งใจและ กาย จนอาจไม่มีโอกาสได้ติดคุกอีกต่อไป

3.  เมื่อมีเงินมีอำนาจกร่างได้  หมดอำนาจ เมื่อไร แม้เงินมี ลูกหลานดี ใหญ่โตสัก  เท่าไหร่ ก็ถูกจับติดคุกจนตายได้เช่นกัน

5.  คนที่รับผิดชอบในอำนาจการบริหาร รวมถึงวงการตำรวจ  ในสมัยที่ศาลบอกแล้วว่าต้องจับ จับไม่ได้ในสมัยที่รับผิดชอบ หากสอบกลับไปก็รู้ว่าเป็นใครเชื่อมโยงกับผู้ผิดอย่างไร  นี่คือส่วนหนึ่งของสังคมไทย ที่ยึดเอาพรรคพวกเป็นใหญ่กว่าความถูกต้อง โดยไม่ละอายแก่ใจ  แต่อย่่างไร ๆ ก็ต้องได้รับผลกรรมที่เกิดจากการกระทำที่ไม่ถูกต้อง

4.  ผู้ที่ถูกกระทำโดยผู้กระทำผิดทั้งหลาย  ต้องไม่นิ่งเฉยที่จะต่อสู้โดยพึ่งอำนาจตุลาการไปนาน ๆ  ใจเย็น ๆ  ทำใจไว้ให้ได้ อย่าได้คิดแก้แค้นทำลายชีวิตเขา  ให้เขามีชีวิตทุกข์ยากอยู่นาน ๆ  ให้มีการกล่าวถึงตัวอย่าง ที่ไม่ควรเอาเป็นแบบอย่างตลอดไป

5.  ผู้ที่ถูกกระทำทั้งหลาย แล้วรู้สึกว่าทางการไม่ยุติธรรม  ทางการที่ว่าก็คือฝ่ายที่ใช้อำนาจการบริหาร  และรับใช้อำนาจการบริหาร  หากไม่ได้รับความยุติธรรมเมื่อไร ก็จงตั้งใจ ร่วมใจกับหลาย ๆ ฝ่ายให้ความไม่ยุติธรรมนั้นไปถึงอำนาจตุลาการ  หากคิดแก้แค้นตามล่าเข่นฆ่าผู้ที่ริเริ่มสร้างความไม่ยุติธรรม  ก็อาจไม่พ้นจากอำนาจตุลาการที่จัดการให้อำนาจการบริหารตามล่าเช่นกัน

หมายเลขบันทึก: 518095เขียนเมื่อ 1 กุมภาพันธ์ 2013 09:07 น. ()แก้ไขเมื่อ 1 กุมภาพันธ์ 2013 09:12 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

ลองมาดูข่าวนี้กันครับ  (ที่มา http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9560000012006)
วันนี้ (29 ม.ค. 56) ที่ว่าการอำเภอแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี นายสุทธิพงษ์
ตันบุญยศิริเดช นายอำเภอแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี
ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีล่าสัตว์ป่าในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน
ได้ชี้แจงถึงสาเหตุการสรุปสำนวนสั่งไม่ฟ้อง พ.ต.ท.ธีรยุทธ เกตุมั่งมี
สว.สส.สภ.ปราณบุรี คดีร่วมกันล่าสัตว์ในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน
ที่เป็นข่าวครึกโครมในขณะนี้ว่า
หากพิจารณคดีนี้ตามความรู้สึกของกระแสสังคมในตอนนี้ตนต้องยอมเจ็บตัว
แต่ถ้าพิจารณาตามสำนวนของพนักงานสอบสวนจะพบว่าตามคำให้การในสำนวนที่เสนอมาโดยเฉพาะผู้กล่าวหา
คือ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ได้ให้การว่าพบเห็น
พ.ต.ท.ธีรยุทธเดินอยู่คนเดียวในป่า และพบเพียงอาวุธมีดเท่านั้น

ความรู้สึกผิดชอบ ชั่วดี ความมีวิจารณญาณ การใช้อำนาจ ของผู้มีอำนาจ อยู่ที่เอกสารที่เสนอมาหรือ?

ครั้งหนึ่งน้อง ๆ ฝ่ายการเงินบอกว่าหลักฐานถูกต้องทุกประการ แบบไม่่มีที่ติ   ก็ใช่ว่าจะไม่โกง  ก็การเสียภาษีทั้งหลาย ก็ให้คนมาช่วยทำหลักฐานให้โกงได้  และที่เห็นก็คนรวย ฐานะดี มีตระกูล......ที่โกงภาษีไม่ได้ จ่ายเต็มร้อย ก็คือข้าราชการ 

สวัสดีค่ะ ท่าน ศน. มาเรียนเชิญไปร่วมกิจกรรมที่โรงเรียนสันทรายวิทยาคมค่ะ โดยจัดกิจกรรม ครั้งที่3 เชิญ ท่าน ติดตามบันทึกนี้ค่ะ    http://www.gotoknow.org/posts/501175

เรียนท่าน กทน. ชัด "ภาสกร หอมหวล หรือ ส.ท.เหี่ยว " สท เหี่ยวกับบังหีม แลแล้วคล้องจอง น่าว่าเป็นญาติกัน...


หื่น หีม  โหด

หื่น ชอบข่มขืน "จอมหื่น ข่มขืน นักศึกษาสาว

โหด  ชอบฆ่า "  โหด ฆ่ายกครัว หัวหน้า สถานีอนามัย ป่าขาด สงขลา

หีม  ชอบทำความดี " บังหีม เดินทางไกลจากภาคใต้ มามอบดอกไม้รางวัลสุดคะนึง ให้คุณกานดา.....

สองคนก่อน กรรมตามทันชดใช้กรรมอยู่ 

 ยังแต่หีมคนเดียวที่ยังอยู่  555555555


แหม...เสียดายจัง ไม่เจอบังหีมที่เชียงใหม่   ไม่เป็นไรต้องเจอกันแน่ ๆ .....ครับ  rพวกที่หื่น  โหด  ในที่สุดก็หด แล้วก็เหี่ยว  และ ก็คงหายไปแบบทันตาเห็นเหมือนกัน หึหึหึ!!!

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท