ครูคือผู้ที่มีจรรยาบรรณของวิชาชีพครู ครูคือผู้รู้จักวิธีแก้ปัญหานักเรียนรายบุคคล
ครูคือผู้นำในการเปลี่ยนแปลงทางวิชาการ รู้เท่าทันสถานการณ์สามารถนำมาบูรณาการกับเนื้อหาสาระที่ตนเองสอนได้ ครูคือนักวิจัย เพราะการทำวิจัยเป็นการค้นคว้าหาความรู้และหาแนวทางต่าง ๆ อย่างเป็นระบบโดยใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์และนำมาใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้จริง
ดังนั้นการมีอาชีพเป็นครูจึงอยู่นิ่งไม่ได้ วันเวลาเปลี่ยนไป นักเรียนจบไปรุ่นแล้วรุ่นเล่า ผ่านไปแต่ละปี.. มีลูกศิษย์แวะเวียนมาทักทายทำให้ตัวเองนั้นรู้สึกว่าความรู้ของตนเองนั้นคงจะไม่เพียงพอกับนักเรียนยุคใหม่ และสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป จึงได้พัฒนาตนเองโดยการศึกษาต่อทางด้านที่ตนเองถนัดที่สุดและอยากนำมาต่อยอดเพื่อส่งเสริมนักเรียนให้เกิดความรักทางด้านวิชาชีพ
จึงได้ทำการวิจัย(การค้นคว้าแบบอิสระ)ในเรื่องที่สามารถพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ และการทำงานกลุ่มที่เป็นทักษะที่จำเป็นในการเรียนรู้และการออกไปทำงานร่วมกับผู้อื่น สามารถอยู่ในสังคมอย่างมีความสุขได้
หัวข้อที่ได้ศึกษา คือการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน เพื่อพัฒนาทักษะการทำงานกลุ่มของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนสันทรายวิทยาคม จังหวัดเชียงใหม่
Problem – based Learning Management to Develop Group Working Skills for Mathayom Suksa 1 Students, Sansai Wittayakom School, Chiang Mai Province
การจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานประกอบด้วย 6 ขั้นตอน ได้แก่
ขั้นที่ 1) เชื่อมโยงปัญหาและระบุปัญหา
ขั้นที่ 2) กำหนดแนวทางที่เป็นไปได้
ขั้นที่ 3) ดำเนินการศึกษาค้นคว้า
ขั้นที่ 4) สังเคราะห์ความรู้
ขั้นที่ 5) สรุปและประเมินค่า
ขั้นที่ 6)นำเสนอ และประเมินผลงาน
ซึ่งเป็นของสำนักมาตรฐานการศึกษาและพัฒนาการเรียนรู้ กระทรวงศึกษาธิการ
Problem – based Learning แตกต่างจาก Project-Based Learning อย่างไร ซึ่งทั้งสองรูปแบบเน้นพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ และการเรียนรู้ร่วมกันในห้องเรียน จึงขอสรุปดังนี้
Problem – based Learning คือการใช้ปัญหาเป็นฐาน การเรียนรู้จากตัวปัญหาที่มีอยู่แล้วดำเนินการหาแนวทางที่มีหลักการเข้ามาเรียนรู้แก้ปัญหานั้นๆ ด้วยกระบวนการกลุ่มหรือทีมงานที่สนใจในเรื่องนั้นๆ
Project – Based Learning คือการเรียนรู้ในสิ่งที่อยากค้นหา เพื่อเข้ามาศึกษาเรียนรู้ที่ถ่องแท้ เป็นระบบด้วยการทำงานเป็นทีมร่วมกันศึกษาโดยบูรณาการออย่างหลากหลายสาระ
ครูจึงต้องเปลี่ยนบทบาทจากครูสอน ไปเป็นครูฝึก (โค้ช) หรือวิทยากรกระบวนการ (facilitator) หน้าที่คล้ายๆผู้จัดการเรียนรู้ของนักเรียน เริ่มตั้งแต่กา SWOT Analysis ศึกษาความแตกต่างหลากหลายของนักเรียนในชั้นของใช้วางแผนการจัดกิจกรรมหรือออกแบบโจทย์ PBL ให้นักเรียนเรียนรู้ครูในโลกยุคใหม่ ยุคศตวรรษที่ ๒๑ ครูต้องไม่สอน เปลี่ยนไปชวนศิษย์คิด และทดลองทำ เพื่อให้ศิษย์เรียนรู้จากการลงมือทำ
ดังนั้นการยกระดับคุณภาพผู้เรียนและการศึกษาไทยควรจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน (Project-Based Learning เรียกย่อว่า PBL) ที่ใช้โจทย์และกิจกรรมให้นัก เรียน ได้รู้ลึกจากสัมผัสตรงของตนเอง เกิดการเรียนรู้ด้วยตนเอง ไม่ใช่อ่านจากตำรา เป้าหมาย PBL คือการเรียนรู้แบบที่เกิดการพัฒนาและสั่งสมทักษะ (และฉันทะ) ขึ้นภายในตัวผู้เรียน ไม่ใช่เพียงมีความรู้แบบจำได้อธิบายได้ตอบข้อสอบได้แต่ใช้ไม่เป็น
(จากหนังสือ ส่งความสุข สู่คุณภาพการศึกษา ๒๕๕๖ ผู้เขียน ศ. นพ. วิจารณ์ พานิช)
ISBN 978-616-91478-0-0
ทักษะของครูในศตวรรษที่ 21 จึงต้องการครูที่สอนให้นักเรียน ได้ลงมือปฏิบัติและฝึกทักษะที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตในอนาคต หรือในยุคเทคโนโลยีที่ก้าวไกล....
ขอบคุณพี่ครูอ้อยมากค่ะที่มาให้กำลังใจที่หนึ่งเลย
ครูต้องไม่สอน เปลี่ยนไปชวนศิษย์คิด และทดลองทำ เพื่อให้ศิษย์เรียนรู้จากการลงมือทำ
.
ได้ทดลอง Project-based learning ดูวิชาหนึ่งคะ กำลังลุ้นรอผลวันที่ 4 กพ. ได้ผลอย่างไรจะนำผลงานนักศึกษา
มาให้ติชมคะ
ชอบอ่านบันทึกของครู มากคะ อ่านแล้วได้อะไรหลายอย่างขอบคุณคะสำหรับสิ่งดีๆ คะ
ขอบคุณ คุณหมอ ป. ค่ะ ใช่เลย สอนน้อย แต่ให้ทำกิจกรรมเยอะๆ ทักษะการคิดค่ะ
คุณรัตน์ชนกขอบคุณที่ชอบอ่านบันทึกค่ะ
เป็นแนวคิดที่น่าสนใจมากๆค่ะ..และขอแสดงความยินดีที่ได้รับเกียรติบัตรครูดีเด่นนะคะ..
ขอบคุณพี่ใหญ่ที่ให้กำลังตลอดมาค่ะ รางวัลเป็นสิ่งมาเพิ่มพลังใจ กาย ในการทำงานต่อไปค่ะ