ย่ำแดนคาสิโน (๑๓) ดูการแสดงแสงสีที่อ่าวฮ่องกง

      เมื่อลงมาจาก VICTORIA PEAK โดยการนั่งรถเมล์ 2 ชั้นลงมา ได้ชมบรรยากาศเกาะฮ่องกงยามย่ำค่ำ  จนถึงสถานีปลายทางที่ท่าเรือข้ามฟากฝั่งฮ่องกงแล้ว ก็นั่งเรือข้ามฟากกลับไปยังฝั่งเกาลูน เพื่อพบกับไกด์กิตติมศักดิ์ของเรา  ที่นัดหมายกันไว้

     ในการนั่งเรือกลับครั้งนี้ ก็มีเหตุการณ์ให้ตื่นเต้นกับคณะทัวร์ของเราอีกเล็กน้อย คือเมื่อซื้อตั๋วโดยสารเสร็จ พอดีได้ยินเสียงสัญญาณบอกว่าเรือใกล้เวลาจะออกจากท่าแล้ว ทุกคนจึงต้องเร่งเดินกึ่งวิ่งเพื่อให้ขึ้นเรือเที่ยวนั้นให้ทัน ปรากฏว่าเมื่อถึงกลุ่มของเรา มีส่วนหนึ่งขึ้นได้ทันพอดี แต่อีกส่วนเมื่อมาถึงจุดที่จะขึ้นเรือ ถูกเจ้าหน้าที่กักไว้และปิดประตูทางที่จะขึ้นเรือในจุดนั้น ทำให้กลุ่มเราถูกแยกออกเป็น ๒ กลุ่ม แต่ด้วยประสบการณ์ของหัวหน้ากลุ่มทัวร์ของเรา ซึ่งแม้ว่าเดินทางมาถึงก่อนแต่ก็รออยู่ที่จุดที่จะขึ้นเรือ จึงยังคงอยู่ทำหน้าที่พาอีกกลุ่มเดินทางตามมาทีหลังได้โดยสวัสดิภาพในเที่ยวต่อไป โดยพาเดินไปขึ้นเรืออีกลำที่อยู่ที่อีกด้านหนึ่งของท่านั้น เดินทางมาได้ในเวลาที่ต่างกันไม่นาน

       หลังจากทุกคนมาพบกันที่จุดนัดพบบริเวณท่าเรือแล้ว ตามโปรแกรมเดิมก็คือการไปรับประทานอาหารค่ำกันที่ถนนชื่อ Lady Street ซึ่งตามคำบอกเล่า จะมีบรรยากาศเหมือนถนนเยาวราช ยามค่ำคืนในกรุงเทพฯ บ้านเรา  คือมีร้านขายอาหารประเภทรถเข็นและแผงลอยต่าง ๆ มากมาย แต่เมื่อดูเวลาและปรึกษากับไกด์ของเรารวมทั้งเพื่อนชาวฮ่องกงที่เดินทางมาร่วมด้วยแล้ว มีความเห็นว่า ถ้าเดินทางไปที่ถนน Lady Street เพื่อรับประทานอาหารตามความตั้งใจเดิม จะกลับมาบริเวณท่าเรือเพื่อชมการแสดงแสงสีที่อ่าวฮ่องกง (Symphony of Lights) ที่จะเริ่มในเวลา ๒๐.๐๐ น. ไม่ทัน การแสดงแสงสีนี้มีการกล่าวอ้างว่าเป็นการแสดงแสงสีที่ใหญ่ที่สุดในโลก จึงไม่ควรพลาด เราจึงเปลี่ยนแผนเป็นการรับประทานอาหารจีนที่ภัตราคารในบริเวณใกล้ ๆ กับท่าเรือเกาลูนนั่นเอง  แล้วเดินทางไปรอชมการแสดงแสงสีที่บริเวณ หอนาฬิกา (Clock Tower) ที่อยู่ใกล้ ๆ กับท่าเรือนั่นเอง มีคนรอชมกันเยอะมากจริง ๆ ....เรื่องการนัดหมายเวลาในมาเก๊าและฮ่องกง สำหรับคนไทย จะต้องซักซ้อมกันให้ไม่ลืมว่า เวลาในมาเก๊าฮ่องกง จะเร็วกว่าเวลาในประเทศไทย ๑ ชั่งโมง  สำหรับคนที่ไม่ได้ปรับเวลาของนาฬิกาข้อมือใหม่จะต้องไม่ลืม รวมทั้งเวลาในภาพถ่ายต่าง ๆ ที่อยู่ในกล้องด้วยนะคร๊าบ

ประวัติการแสดงแสงสีที่อ่าวฮ่องกง   (Symphony of Lights)

   เป็นการแสดงแสงสีเสียง ซึ่ง Hong Kong Tourism Board จัดขึ้นเพื่อเป็นการ promote การท่องเที่ยวของฮ่องกง โดยร่วมกับอาคารสูงสองฝั่งอ่าว Victoria รวม 44 อาคาร ประดับไฟตามอาคาร (แสงไฟจากอาคารเหล่านี้งดงามแปลกตามาก เนื่องจากอาคารสูงในฮ่องกงมีรูปทรงแตกต่างกัน เพราะสร้างตามหลักความเชื่อในศาสตร์ฮวงจุ้ย ) มีการยิงแสง laser, searchlights, LED lights ประกอบเสียงเพลงและคำบรรยายเป็นภาษาอังกฤษ, จีนกลาง,จีนกวางตุ้ง สลับวันกันไป การแสดงแบ่งเป็น theme สั้นๆ 5 ตอนติดต่อกัน  ใช้เวลาแสดงครั้งละประมาณ 15 นาที โดยจัดให้มีการแสดงทุกวันในเวลา 20.00 น เว้นแต่วันที่มีฝนตกหนักหรือเกิดพายุลมแรง ตามประกาศทุกบ่าย 3 โมงของกรมอุตุนิยมวิทยาของฮ่องกง  Guinness World Records ได้บันทึกว่า Symphony of Lights เป็นงานแสดงแสงสีเสียงที่ใหญ่ที่สุดในโลก  จุดที่เหมาะในการชม Symphony of Lights ที่สุดก็คือริมฝั่งเกาลูนตั้งแต่ Clock Tower ไปจนถึง Avenue of Stars

  Clock Tower เป็นหอนาฬิกาสูง 44 เมตร เริ่มก่อสร้างตั้งแต่ปี 1910 พร้อมๆ กับสถานีรถไฟเกาลูนซึ่งได้ย้ายไปอยู่ที่ Hung Hom Station ตั้งแต่ปี 1975 สถานีรถไฟเกาลูนถูกทุบทิ้ง พื้นที่ทั้งหมดถูกพัฒนาใหม่ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของ Hong Kong Space Museum, Hong Kong Museum of Art และ Hong Kong Cultural Centre ในขณะที่ Clock Tower ถูกอนุรักษ์ไว้เพื่อระลึกถึงสถานีรถไฟเกาลูน  ทุกวันนี้บริเวณ Clock Tower กลายเป็นจุดนัดพบแห่งหนึ่งของ Hong Kong เนื่องจากทำเลที่อยู่ไม่ไกลจากอ่าว Victoria  นับแต่มีการจัด Symphony of Lights ก็ยิ่งทำให้บริเวณนี้คึกคักขึ้น มีผู้คนแวะเวียนมาเยี่ยมชมและถ่ายรูปตลอดเวลา

(อ้างอิงข้อมูลจาก   http://goto-hongkong.blogspot.com/2010/07/symphony-of-lights.html )

   หลังเสร็จสิ้นการชมการแสดงแสงสีที่อ่าวฮ่องกง ซึ่งสำหรับผมไม่ค่อยประทับใจซักเท่าไหร่....อาจจะเป็นเพราะเหนื่อยมากกับการเดินทางมาหลายวัน หรืออาจจะเป็นเพราะประทับใจกับการแสดงแสงสีเสียง ที่สุดอลังการของ มาเก๊า คือ  The Dragon’s Treasure มาก่อนหน้านั้นก็ได้...คณะของเราก็เดินชมบรรยากาศยามค่ำคืน เพื่อไปยังท่าเรือไฮโดรฟอยล์ ที่อยู่ไม่ไกลจากจุดชมแสงสีมากนัก ....เดินทางกลับมายังมาเก๊า โดยเรือเที่ยว ๒๒.๓๐ น. สำหรับการเดินทางกลับในคืนนั้น คณะของเราเดินทางกลับถึงมาเก๊าหลังเที่ยงคืน ช้ำกว่ากำหนดเดิมไปเกือบชั่วโมง  เนื่องจากมีพายุเข้าทะเลมีคลื่นลมแรง  เรือต้องจอดรออยู่ในทะเลระหว่างทางนานพอสมควร ก่อนที่จะเดินทางต่อได้....ก็เป็นอีกประสบการณ์หนึ่งที่เพิ่งได้สัมผัสเป็นครั้งแรก ในการเดินทางท่องเที่ยวในครั้งนี้

[ชาดา ~natadee]

อาจารย์แพนด้ากะอาม่า ไปช้อปมาเพียบเลยใช่มั้ยคะ