เสียงกู่จากครูใหญ่


" ไม่มีใครประสบผลสำเร็จโดยไม่ผ่านอุปสรรคใดๆเลย"

เสียงกู่จากครูใหญ่ บรรยายโดย ร.ต.อ. ภานุ     พิณเนียม นักพัฒนาเกิดจากความศรัทธา ความรัก ความเข้าใจการที่เราจะเป็นนักพัฒนาได้นั้นยากแต่ถ้าเรามีความจริงจังและจริงใจที่จะทำความสำเร็จก็อยู่ไม่ไกล    การพัฒนาอะไรที่ว่าง่ายนักก็แพ้การพัฒนาคนหรือมนุษย์ยากยิ่งนักกับการที่เราต้องไปเปลี่ยนแนวความคิดของคนที่ยึดติดกับสิ่งเดิมๆมาช้านานเราจะเป็นผู้นำการพัฒนาความคิดคนเราต้องรู้จักใช้วาทศิลป์การพูดจูงใจคนให้เป็นดังเช่นเรื่องของครูใหญ่นักพัฒนาชาวเกาหลีคนนี้เรื่องมีอยู่ว่าครูใหญ่ได้เดินทางจะไปสอนนักเรียนที่บนเขาห่างไกลความเจริญมากต้องเดินเท้าระหว่างทางเจอชาวบ้านคนหนึ่งเขามองครูอย่างแปลกๆเพราะสภาพการแต่งตัวของครูขณะนั้นแทบไม่น่าเชื่อเลยว่าเป็นครูใหญ่เสื้อผ้าเก่าๆที่สวมใส่กับรองเท้าขาดๆครูใหญนี้ต้องการเข้าไปสอนนักเรียนและต้องสร้างโรงเรียนให้กับเด็กๆก่อนทำงานต้องสร้างกำลังใจในการทำงานเสียก่อนครูได้คิดย้อนไปเมื่อตอนเป็นเด็กครูมาจากครอบครัวที่ยากจนมีแต่ความลำบากแต่ความลำบากในอดีตนั้นย่อมเป็นกำลังใจให้กับปัจจุบัน  ครูใหญ่ได้เขียนคำขวัญว่า การทำงานหนัก  เป็นดอกไม้ของชีวิตที่เขียนก็เพราะหวังว่าจะเห็นความร่วมมือจากชาวบ้านเพราะความสำเร็จของการพัฒนาขึ้นอยู่ที่ความร่วมมือแต่ท่านไม่ได้รับความร่วมมือจากเด็กๆ  ชาวบ้านและครูน้อยๆอีก2-3คนแต่ครูใหญ่ไม่ได้ละความพยายามครูใหญ่ได้ลงมือทำคนเดียวเพราะเห็นว่าพึ่งตนเองเสียก่อน แล้วสวรรค์จะช่วยทำจนกระทั่งวันหนึ่งล้มป่วยลงและเมิ่อท่านหายป่วยก็ลุกจะไปทำงานต่อแต่ไดพบกับเด็กๆ ชาวบ้านและครูน้อยๆช่วยกันทำงานต่อจากที่ครูใหญ่ได้ทำไว้และแล้ววันหนึ่งโรงเรียนของเด็กๆก็ได้สำเร็จด้วยความร่วมมือและสามัคคีของทุกๆคนและตั้งชื่อโรงเรียนว่า โรงเรียนแห่งแสงเพลิง  โรงเรียนนี้เป็นความร่วมมือของทุกคนในหมู่บ้านล้วนๆโดยที่ไม่ได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลเลยครูใหญ่ได้ยึดหลักที่ว่าเราต้องพึ่งตนเองและประหยัด มิให้คนอื่นมาประณามว่าเป็นโรงเรียนขอทาน  งานพัฒนาสามารถทำได้ตลอดเวลาไม่มีวันหมด ดิฉันเลยเปรียบกับการเรียนที่ว่า การเรียนรู้ไม่มีวันหมดสิ้น ตลอดชีวิตของเรามีบทเรียนให้เรียนเสมอ ต่อจากที่มีโรงเรียนแล้วครูใหญ่ก็ได้นำแนวอาชีพมาสู่หมู่บ้านเสมอเริ่มด้วยการซื้อไก่มาเลี้ยงและแจกให้นักเรียนไปเลี้ยงให้ออกไข่เองที่บ้านใครที่เลี้ยงแล้วได้ไข่มากก็จะได้คะแนนมากเด็กๆอยากได้คะแนนมากจึงชวนผู้ปกครองให้ช่วยกันเลี้ยงต่อมาก็มีการปลูกผัก การเลี้ยงผึ้ง การเลี้ยงวัว จนวันหนึ่งทางรัฐบาลได้ส่งเรือยนต์มาให้ใช้ 1 ลำ ครูใหญ่ท่านนี้สอนทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นทางด้านการร้องเพลง  ดนตรี   ออกกำลังกายเป็นต้นต่อจากนั้นหมูบ้านแห่งนี้ก็เจริญขึ้นเริ่อยๆมีเพื่อนบ้านที่ดีไม่ต้องมีรั้วบ้าน ความสุขเช่นนี้หาไม่ได้ด้วยเงินซื้อการจะเป็นนักพัฒนาต้องมีความอดทน และลงมือทำต่อสู้อุปสรรคเสมอเพราะไม่มีใครที่จะก้าวพรวดเดียวแล้วจะประสบผลสำเร็จความสำเร็จ ท้ายสุดนี้ดิฉันฝากคำคมไว้ว่า แรงของปลาอยู่ที่หาง   กำลังของคนอยู่ที่ใจ

หมายเลขบันทึก: 51304เขียนเมื่อ 22 กันยายน 2006 13:46 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 01:36 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

สวัสดีค่ะ  คุณป๋าเปิ้ล

  • ครูอ้อยได้ดูแล้ว  หนังเกาหลีเรื่อง เสียงกู่จากครูใหญ่  และได้สรุปไว้แล้วด้วย  เรียนเชิญอ่านที่นี่ค่ะ
  • ครูอ้อยชอบปรัชญาของครูใหญ่มาก  ถึงแม้ว่าครูอ้อยจะไม่มีตำแหน่งเป็นครูใหญ่  แต่ครูอ้อยก็ทำงานหนักนะคะ
  • ครูอ้อยเก็บประเด็นมาไม่หมดเท่าคุณป๋าเปิ้ลค่ะ
  • แต่ก็ประทับใจเหมือนกัน  ครูใหญ่คนนี้  อยากประทับใจคนใกล้ๆแบบนี้บ้างค่ะ  อิอิ  ฝันไปก่อน
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท