จดหมายฉบับสุดท้ายถูกเปิดออกจากผนึกเพื่อถ่ายสำเนาสำหรับการเก็บคะแนนในรายวิชาหนึ่งที่ผมรับผิดชอบ อีกทั้งผมยังเขียนจดหมายแจ้งจุดประสงค์ไปยังคนที่รักของเด็กเหล่านี้ว่า นี่เป็น "แบบฝึกหัดการใช้ื่ื่ืสื่อทางไกล" ในยุคแรก ซึ่งก็เหมือนเอาเนื้อหามาอ้างไปให้ดูดีเสียอย่างนั้น แต่ใจจริงแล้ว อยากให้พวกลูกศิษย์วิชาเอกเหล่านี้ได้มีโอกาสเขียนสื่อที่ล้าสมัยที่สุดในยุคนี้ กลับไปหาคนที่รอคอยพวกเขาทางบ้านบ้าง
กำแพงบาง ๆ ที่กั้นพวกเขา เป็นแค่ข้ออ้างลอย ๆ ที่บอกว่า "กระดากอาย" "ขวยเขิน" "ไม่กล้า" หากสักวันหนึ่งมันสายเกินไปแล้ว ดูเหมือนเขาจะหนีความเสียใจไม่พ้นตัวอย่างแน่นอน
จดหมายกระดาษสักฉบับที่ตีมูลค่าของความรักเอาไว้ข้างใน อาจจะมีคุณค่าที่สุดในชีวิตของเขาเองก็ได้
เมื่อความเชื่อเช่นนั้นบังเกิด ผมขอเดินตามรอยโครงการดี ๆ ของ "คุณแผ่นดิน" ที่เคยทำไว้
"จดหมายจากมหาวิทยาลัยถึงคนไกลที่อยู่ทางบ้าน"
จึงเกิดขึ้นในรายวิชานี้อย่างไม่มีงานชิ้นใดจะมาคั่นกลางได้
จดหมายฉบับสุดท้ายฉบับนี้ ถูกเปิดผนึกในวันนี้
และไม่มีข้อสงสัยใด ๆ ในใจอีกว่า มันได้ผลหรือไม่
...................................................................................................................................................................
to. คุณแม่ที่เคารพ
สวัสดีครับ คุณแม่ครับ ผมเองนะครับ ตะดูนู นะครับคุณแม่
ตอนนี้คุณแม่ทำอะไรอยู่ครับสบายดีหรือป่าวครับ
แม่ครับแม่คงทำงานเพื่อลูกจนเหนื่อยเลยใช่ไหมครับ
ผมเป็นห่วงแม่ที่สุดเลยนะครับ
แม่คงไปเลี้ยงวัวดูแลวัวทุกวันเลยใช่ไหมครับ
แม่ครับที่จริงแล้วแม่ไม่ต้องทำงานแล้วก็ได้นะครับ เพราะว่าแม่แก่แล้วนะครับ
ผมไม่อยากให้แม่ทำงานอีกแล้วนะครับ
ผมรู้ว่าแม่คงวางมือไม่ได้เพราะว่าลูกอีกหลายคนใช่ไหมครับที่ยังดูแลตัวเองไม่ได้
แม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับคุณแม่
ตอนนี้ถึงเวลาแล้วนะครับที่แม่จะต้องเริ่มที่จะต้องดูแลตัวเองนะครับ
หยุดได้แล้วนะครับ ส่วนลูกคนนี้อยู่ที่นี้ สบายดีมากเลยนะครับ
ไม่ต้องเป็นห่วงลูกคนนี้นะครับ เพราะว่าลูกคนนี้สบายดีมากเลยครับ
คุณแม่ครับ ผมคิดถึงแม่ที่สุดเลยนะครับ และที่สำคัญรักแม่ที่สุดในโลกเลยนะครับ
ในโลกนี้ไม่มีใครที่ผมจะรักสุดหัวใจเท่าแม่คนนี้นะครับ
ถึงแม้แม่อาจจะไม่มีอะไรให้ผม แต่ทุกสิ่งที่แม่ทำให้ผมถึงทุกวันนี้
มันทำให้ผมมีชีวิตได้ถึงทุกวันนี้ "ผมรักแม่ครับ"
แม่ครับ ตอนนี้อากาศเริ่มหนาวแล้วนะครับ แม่ต้องดูแลสุขภาพให้ดีดีนะครับ
และบอกให้ดาดาน้องรักของผมอีกคนด้วยนะครับว่า
ถ้ากลับไปแล้วจะซื้อเสื้อให้แม่กับดาดานะครับ ผมสัญญานะครับ
แม่ครับ ย้ำอีกทีนะครับ แม่ต้องดูแลสุขภาพให้ดีดีนะครับ
สุดท้ายนี้ ผมจะบอกว่า รักแม่ที่สุดในโลกเลยครับ
จาก
นาย ..............................
(ลูกรักของแม่)
.........................................................................................................................................................................
ข้อความดิบ ๆ จากผู้เขียนที่แทบไม่ต้องใช้เวลาใคร่ครวญมากมาย
เขียนด้วยลายมือ บนกระดาษที่ไม่ีมีเส้น
ถูกเขียนออกอย่างที่ได้อ่าน
มีหลายตอน ที่ไม่ถูกต้องตามหลักภาษาไทย
แต่การใช้ "หัวใจ" เขียน ย่อมให้อภัยได้ไม่ยาก
ย้อนกลับในวันหนึ่ง
อาจารย์ครับ ผมจะขอลากลับบ้าน ๑ คาบครับ
ผมต้องกลับไปเก็บข้าวโพดที่บ้าน
หากไม่กลับไปตอนนี้มันจะเสียหายครับ
ที่บ้านผมไม่มีใครเก็บได้ทัน
ครูอนุญาต
แล้วก็อย่าลืมมาตามงานนะ
จดหมายฉบับสุดท้าย คือ งานที่เขาตามมาส่งคนสุดท้าย
จดหมายจาก "อำเภอเมือง" สู่ "อำเภอแม่แจ่ม"
จดหมายจาก "ลูกชาย" ที่ได้เข้ามาร่ำเรียนในเมืองใหญ่
จดหมายที่คนเป็นแม่ อ่านออกหรือไม่ ก็ไม่ทราบ
จดหมายจากเด็กปกากญอคนหนึ่งที่รักแม่มาก
ไม่ว่า เขาจะเป็นใคร
แต่เขาคือ "ลูกชาย" ที่รัก "แม่" มากที่สุดในโลกคนหนึ่ง
บุญรักษา ทุกท่านครับ ;)...
คนอ่านก็พลอยน้ำตาซึมไปด้วยค่ะ
เชื่อได้ว่า..เขาเป็นลูกชายที่ดี
ขอบคุณ "ครู" ที่ได้กล่อมเกลาและให้โอกาสเขา
ครูเก่งแค่ไหน...ดูได้ที่ศิษย์ :)
ดีใจกับลูกศิษย์ของอาจารย์ที่ได้รับการพลิกฟื้นความเป็น "คน" ที่มีจิตวิญญาณและรู้กตัญญู หลายสิ่งหลายอย่างหากเพียงลงมือทำ วันข้างหน้าคงไม่มีคำพูด "...ถ้าวันนั้น...." กิจกรรมนี้คงทำให้ลูกศิษย์ของอาจารย์ได้สะดุด หยุดอยู่กับความจริง แทนความเจริญทาง IT ที่แทบจะมาแทนที่ในชีวิตของพวกเขาทั้งหมด
ตื้นตันด้วยความอิ่มใจ...ความรักของลูกที่มีต่อแม่งดงามมากครับ...(ความรักของแม่ไม่ต้องพูดถึงครับยิ่งใหญ่งดงามอยู่แล้ว)...ลูกศิษย์ขอลาไปเก็บข้าวโพด....ผมเห็นความรักและความงดงามของครูด้วยเช่นกันครับ
น้ำตาไหลแต่เช้าเลยท่านอาจารย์
ปริมส่งอีเมลล์หาท่านอาจารย์ได้รับไหมคะ ;)
ขอบคุณมากครับ พี่นก NU11 :)
ขอบคุณมากครับ คุณ หยั่งราก ฝากใบ ;)
ขอบคุณมากครับ คุณ สามสัก(samsuk) ;)
ขอบคุณ ท่านพี่ คณิน อุดมความสุข รุ่นพี่ มศว.ของผมครับ ;)
คงเป็นความชัดเจนคร้งแรกครับ คุณหมอ ทิมดาบ
ที่มีเด็กขออนุญาตอย่างตรงไปตรงมาขนาดนี้
เชื่อว่า เคยมีเหตุการณ์เช่นนี้ แต่คงไม่กล้าหาญมากขนาดนี้
ขอบคุณมากครับ ;)
ขออภัยครับ อาจารย์ ...ปริม pirimarj... ที่ทำให้เสียน้ำตาแต่เช้าเลย
ฉบับอื่นน่ะ ยังไม่ได้คัดนะครับ อ่านแล้วรู้สึกแปลกใจขึ้นมาทันที
บางทีภายนอกแข็งแกร่งมาก แต่เวลาคุยกับพ่อแม่ เหมือนคนละคน
ขอบคุณมากครับ ;)
ป.ล. ยังไม่พบจดหมายอาจารย์ในเมล์ที่ใช้ใน G2K นี้เลยครับ
สงสัยจะยังไม่ถึง ส่งไปเมื่อวานค่ะ ปริมยังอยู่เชียงใหม่ หากท่านอาจารย์พอจะมีเวลาหันมาบ้าง ;))
รบกวนส่งอีเมลล์มาที่ [email protected] ค่ะ ขอบคุณมากค่ะ
ส่งเมล์ไปหาอาจารย์แล้วครับ ;)...