ชายเดียวในดวงใจ (2-136)


ฉันควรภาคภูมิใจใน “เตี่ย” นะ เพราะ ความดีความซื่อสัตย์ของเตี่ย นั้น เป็นมรดกของครอบครัวที่ทรงคุณค่าที่สุด


การเขียนถึง “พ่อ” นี้ สำหรับฉันแล้ว...ยากจริงยากจัง พอๆ กับที่ให้เขียนถึง “แม่” นั่นแหละ

เพียงแต่ยากไปคนละแบบ เพราะฉันสนิทกับแม่ อยู่กับแม่ ซึมซับรับรู้และชื่นชมแม่ เป็น “ต้นแบบ”

สำหรับ “เตี่ย” ฉันเป็นลูกหลงคนเล็กที่ยังเล็กมากเมื่อเตี่ยจากไป จึงมีข้อมูลของเตี่ยน้อยมาก

สรุปว่าหาการจะเขียน ”บันทึก” ให้ได้อย่างใจนึกคิด...ทั้งการมีข้อมูลมากและน้อยเกินไป...ก็ล้วนเป็นอุปสรรคเหมือนๆ กัน


จำได้คร่าวๆจากคำบอกเล่าของแม่และพี่ๆ รวมทั้งญาติผู้ใหญ่บางคนที่กล่าวเกี่ยวกับ “เตี่ย”

เตี่ยเป็นชาวจีนโพ้นทะเลที่เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารประเทศไทย ตั้งแต่อายุ 15 ปี บ้านเกิดคือ “ไซตั่ง ซัวเถา” ประเทศจีน เตี่ยเป็นคนแซ่เฮ้ง เป็นลูกชายคนที่ 2 มีพี่น้อง 3 คน ชาย 2 คน หญิง 1 คน และคุณอาหญิงคนเล็ก (อาโส่ยโกว) ก็มาตั้งรกรากมีครอบครัวที่เมืองไทยด้วย เพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อ 4 ปีที่แล้วนี่เอง


เตี่ยเป็นชายร่างเล็กบาง

ฉันคิดว่าเตี่ยเป็นคนหน้าตาดีคนหนึ่งนะ (ต้องไปค้นหารูปก่อน) เตี่ยใจร้อน ปากไว เข้มงวด หัวโบราณ แต่ใจดีและใจบุญอย่างที่สุด และเป็นพ่อที่ “ใจดี” สำหรับลูกคนเล็กอย่างฉัน (พี่ๆบางคนอาจไม่เห็นด้วยกับฉันก็ได้ฮาๆๆๆ) ก่อนแต่งงานอยู่กินกับแม่  เตี่ยเคยแต่งงานกับ “แม่ใหญ่” ซึ่งเป็นสาวสวยชาวสวน มีลูก 5 คน และเมื่อแม่ใหญ่ป่วยเป็นอัมพาตกว่า 10 ปี จึงอนุญาตให้เตี่ยแต่งงานใหม่กับแม่ (ซึ่งอายุน้อยกว่าเตี่ย 19 ปี) และแม่ก็ทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลปรนนิบัติ “แม่ใหญ่”ยามเจ็บป่วยหลายปี จนท่านจากไป


ครอบครัวเราเป็นครอบครัวใหญ่

แม้จะมีการทะเลาะเบาะแว้งกันบ้างของพี่ๆน้องๆในวัยไล่เลี่ยกัน แต่ไม่เคยแบ่งแยก อิจฉาริษยากัน หากรักและช่วยเหลือดูแลกันราวกับเป็นพ่อแม่เดียวกัน


เตี่ยทำงานหลากหลายอาชีพ 

ส่วนใหญ่เป็นงานรับจ้างใช้แรงงาน เพราะเรียนหนังสือน้อยและไม่มีเงินทุน  ทั้งทำสวนหมากสวนพลู สวนผัก ต่อมาเป็นหัวหน้าคนงานคุมไซต์งานก่อสร้าง จนกระทั่งออกมาเป็น “เถ้าแก่” รับเหมาก่อสร้างเอง ล้มลุกคลุกคลานจากการทำงานและล้มละลายจากการลงทุน จนต้องอพยพครอบครัวไปอยู่จังหวัดเชียงใหม่ ครอบครัวแตกกระสานซ่านเซ็น 7 ปี และได้กลับมารวมตัวกันเป็นครอบครัวอีกครั้ง


การล้มละลายของเตี่ย

เป็นบาดแผลของครอบครัว ด้วยความซื่อสัตย์ ยอมแบกรับหนี้สินทั้งหมดแทนการเรียกร้องความรับผิดชอบจากหุ้นส่วนที่ทำธุรกิจร่วมกัน ทำให้เตี่ยต้องขายสมบัติทุกอย่าง ยอมเสียเกียรติแต่ไม่ยอมเสียสัตย์  ลูกเมียต้องระหกระเหินลำบากยากจน พี่ๆ ไม่ได้เรียนหนังสือเพราะไม่มีเงิน ต้องทำงานเพื่อช่วยครอบครัว


ในวัยเด็ก... ฉันเคยคิดน้อยใจ 

เตี่ยเราเป็นคนล้มละลายขายบ้าน ล้มเหลว เป็น “แผล/ปม” ในชีวิตที่ฉันรู้สึกอับอาย และน้อยใจที่มีเตี่ยเป็น "เจ๊ก/จีน"  เคยไปสอบเข้าเรียนต่อระัดับมัธยมในโรงเรียนแห่งหนึ่ง ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นโรงเรียนที่ดีที่สุด ชื่อโรงเรียนก็เกี่ยวกับเจ้าๆ นายๆ ตอนสอบสัมภาษณ์ อาจารย์บอกว่า "น่าจะเปลี่ยนแซ่ไปใช้นามสกุลเสียนะ" ในวัยนั้น แมัยังเด็กมาก แต่ตัดสินใจว่าหากการใช้ "แซ่" ซึ่งแสดงถึงกำพืด/เทือกเถาเหล่ากอ ของตัวเอง ไม่ได้รับการยอมรับ ฉันก็ไม่อยากเรียนที่โรงเรียนอันทรงเกียรติแห่งนั้น สละสิทธิ์ไปโดยไม่ได้บอกใครเลย


เมื่อถึงวัยหนึ่ง จึงตระหนักชัดว่า...

แม้เตี่ยจะเป็นเจ๊กเป็นจีนบ้านนอก ไม่เก่ง ทำธุรกิจล้มเหลว ทำให้ทุกคนในครอบครัวลำบาก ...

แต่เตี่ยเป็น “คนดีที่ซื่อสัตย์” ที่ทุกคนซึ่งได้รู้จักต่างรับรองว่าเป็นเช่นนั้น

อะไรจะสำคัญไปกว่าการเป็น "คนดี" อีกเล่า


ฉันยิ้มอยู่นาน 

รู้สึกถึงมืออุ่นๆ หยาบกร้านที่จับจูงฉันไปเดินเล่นยามเย็นเมื่อวัยเด็ก

ความอบอุ่นที่หัวใจ ที่เกิดจากน้ำตาอุ่นๆ แห่งความรักและระลึกถึง ทำให้รู้สึกตัวว่า...

ฉันควรภาคภูมิใจใน “เตี่ย” นะ เพราะ ความดีความซื่อสัตย์ของเตี่ย นั้น เป็นมรดกของครอบครัวที่ทรงคุณค่าที่สุด

ตอนนี้...พูดได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่า...

เตี่ยเป็นผู้ชายที่ “หล่อที่สุด” เลย...


หมายเลขบันทึก: 511023เขียนเมื่อ 5 ธันวาคม 2012 13:50 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 ธันวาคม 2012 10:40 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (14)

ทำให้ผมเชื่่อว่า ความรัก ความอบอุ่น ต้นแบบที่ดีงาม แม้เราจะเด็กเพียงใด ทุกสิ่งทุกอย่างที่พ่อให้นั้นใจของลูกก็สัมผัสได้ .....   (บันทึกนี้มาพอดี สนับสนุนสิ่งที่ผมคิดกังวลพอดีเลยครับ....ธรรมะจัดสรรอีกแล้ว......)  พี่  GREEN  Ico128     THANKS A LOT ......

ขอบคุณคุณพ่อน้องซัน... Ico48

บันทึกยาวๆ แบบนี้ไม่ค่อยชอบเขียน แต่วันนี้เขียนรวดเดียวจบเลย

หากกังวลเรื่องความรู้สึกของน้องซัน... อย่ากังวลเลยค่ะ

พี่เชื่อว่าน้องซัน...ต้องภูมิใจที่ได้เป็นลูกของป่าป๊า "วิชญธรรม"

เป็นแบบอย่างหนึ่งของ"พ่อในดวงใจ"ค่ะ..

ขอบคุณคุณ Ico48 ค่ะ

สำหรับลูก...พ่อเป็นคนดีที่หนึ่งจริงๆค่ะ  :)

เป็น bloggerที่เขียนบันทึกได้น้าอ่านมาก ขอบคุณนะครับ

สวัสดีค่ะคุณ Ico48

ขอบคุณที่แวะมาอ่านค่ะ

มีความสุขที่ได้ทักทายเช่นกันค่ะ  :)

  • ประทับใจค่ะ "...แม้เตี่ยจะเป็นเจ๊กเป็นจีนบ้านนอก ไม่เก่ง ทำธุรกิจล้มเหลว ทำให้ทุกคนในครอบครัวลำบาก ...แต่เตี่ยเป็น “คนดีที่ซื่อสัตย์”ที่ทุกคนซึ่งได้รู้จักต่างรับรองว่าเป็นเช่นนั้น อะไรจะสำคัญไปกว่าการเป็น "คนดี" อีกเล่า"

  • ยายไอดินพบเห็นคนไทยมากมายทุกวงการที่ขาดความซื่อสัตย์ ที่สำคัญคือในกลุ่มคนที่กุมอำนาจบ้านเมือง แล้วบ้านเราจะไปรอดได้อย่างไร ไม่สบายใจเลยค่ะกับภาวการณ์นี้

สวัสดีค่ะคุณยายไอดิน Ico48

ดูจากภาพโปรไฟล์แล้ว ก็ให้ขัดเขินที่จะเรียกว่า "ยาย" แต่ขออนุญาตเรียกตามเจ้าของชื่อนะคะ

เรื่องของอำนาจ ทำให้เกิดผลหลายอย่างในบ้านเืมือง 

อำนาจเป็นดาบสองคม ซึ่งขึ้นกับผู้ใช้อำนาจนั้น ...

ความเชื่อ ค่านิยมในบ้านเมืองเราขณะนี้กำลังไปสุดโต่งของทุนนิยม นั่นคือ วัตถุ อำนาจ เงินทอง พรรคพวก ผลประโยชน์คือสิ่งที่จะดลบันดาลทุกสิ่งอย่าง...ใครพูดถึงความดีงาม ความซื่อสัตย์ สุจริต ...จะกลายเป็นเรื่องน่าขบขัน หัวโบราณ ฯลฯ ไปเสียแล้วค่ะ

ถึงอย่างไร เราก็ยังคงเป็นส่วนหนึ่งแม้จะเป็นส่วนเล็กๆ เราคงต้องมั่นคงและยืนหยัดไว้ซึ่ง "ความดี/ซื่อสัตย์" แม้จะยังไม่เห็นผล แต่เราต้องทำค่ะ

ขอบคุณที่มาเยือนและกรุณาติดตามอ่านบันทึกนะคะ

อ่านแล้วครูนัดคิดถึงเตี่ยขึ้นมาทันทีเลยค่ะ ทุกวันนี้ เวลากินอาหารที่เตี่ยชอบ หรือไปเดินเที่ยว ตามสถานที่ที่เคยพาเตี่ยไป น้ำตาจะไหลเพราะคิดถึงเตี่ย (เตี่ยเพิ่งจาก 2-3 ปี)

เตี่ยคงมองดูลูกๆอยู่บนสวรรค์ รักเตี่ยค่ะ

สวัสดีค่ะคุณครูนัด Ico48

เขียนถึงท่านเลยค่ะ การเขียนจะช่วยให้เราได้บันทึกความรู้สึกของเราที่มีต่อท่าน ส่วนตัวเตี่ยจากไปตั้งแต่ยังเด็กมาก มีความผูกพันกับท่านน้่อยมากเพราะเป็นลูกหลงคนเล็กและท่านอายุสั้่นจากไปเมื่อายุเพียง 69 ปี เรื่องราวของเตี่ยจึงได้รับฟังจากพี่ๆและแม่มากกว่า

แต่ถึงอย่างไร...คิดถึงทีไรก็รู้สึกถึงความอบอุ่นและความรักของเตี่ยค่ะ ไม่ว่านานแค่ไหน

ขอบคุณค่ะ  :)

 

ภูมิใจที่สุด เตี่ยคนดี ซื่อสัตย์ และหล่อด้วยนะคะ ทำให้พี่ดาคิดถึงเตี่ยมากเช่นกัน ท่านจากไปเมื่อปี 52 อายุ 79 ปี หลายสิ่งหลายอย่างมากที่ไม่ได้เรียนรู้หัดทำมา ตอนเด็กๆสอนพี่ดาก็ไม่ได้จำๆได้ไม่ครบไม่หมด ตอนพี่ดาโตก็อยู่ต่างจังหวัด โดยเฉพาะอาหารโบราณหลายอย่างมากที่เตี่ยทำอร่อย มีสูตรครบ แต่ไม่จดบันทึกกันไว้เลย พอถึงเวลานี้ที่มีโอกาสเผยแพร่บอกกล่าวก็บอกไม่ได้ ได้แต่คิดถึงความอร่อยที่เตี่ยเคยทำให้เท่านั้น ขอบคุณบันทึกที่ประทับใจมากนะคะ

สวัสดีค่ะพี่ดา Ico48

น้องเองก็แทบจะจำอะไรเกี่ยวกับเตี่ยไม่ได้เลยค่ะ ปะติดปะต่อจากคำบอกเล่าของพี่ๆ แม่และญาติผู้ใหญ่บางท่าน แต่พอได้เขียน ยิ่งเขียนก็ยิ่งพรั่งพรูนะคะ

อยากเชียร์ให้พี่ดาเขียนถึงคุณพ่อพี่ดาค่ะ น้องคิดว่าเราทุกคนควรได้บันทึกถึงสิ่งที่เกี่ยวข้องและความรู้สึกที่เรามีต่อบรรพบุรุษของเรา  เพื่อให้คนรุ่นหลัง ลูกหลาน จะได้ระลึกถึงได้ค่ะ

ขอบคุณพี่ดาค่ะ  :)

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท