ชวนป๋วยปีแป่กอ...ตราลูกกตัญญู


การให้ความสุขกับพ่อแม่....เป็นการให้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

เมื่อศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา อิชั้นได้ดูละครหลังข่าวภาคค่ำทีวีทางช่อง 3 เรื่อง "ตี๋ตระกูลซ่ง" ที่ชอบดูน่ะเพราะชอบพระเอกของเรื่อง คืออั้ม...ตั้งแต่ดูเรื่องลมหวนเลยทำให้ติดใจว่า..ขาวดี...เอ๊ย...เล่นเป็นคนปัญญาอ่อนได้ดี แหม..เกือบไป..เกือบเสีย Picture ซะแล้ว. พูดจาไม่สมกับเป็นสุภาพสตรีเล้ยนะอิชั้นนี่...

มัวแต่พล่าม..จะเล่าให้ฟังว่าดูละครเรื่องนี้แล้วชอบมากเพราะจะมีคำพูดสอนใจหลายอย่างสอดแทรกไว้ตลอด...

เช่น..เมื่อตอนที่เล้งลูกคนเล็กของตระกูลซ่งที่มีนิสัยเกเร ใจสู้ไม่ยอมแพ้ เผอิญไปมีเรื่องชกต่อยRave Girlกับนักเลงที่ชื่อป่อง จนทำให้กิมเน้ยผู้เป็นแม่โมโหและทุกข์ใจ อากงได้พูดขึ้นมาประโยคหนึ่งว่า 

 

"ลูกที่ทำให้บุพการีต้องทุกข์ใจ เดือนร้อน ถือว่าลูกนั้นทำบาปยิ่งกว่าฆ่าคนเสียอีก"

 

คำพูดของอากงต้องการจะสอนให้รู้ว่าลูกมีหน้าที่ต้องกตัญญู ต้องทำหน้าที่ของลูกให้ดี ให้พ่อแม่มีความสุข ไม่ใช่นำแต่เรื่องทุกข์ร้อนมาให้

 

พลัน.... อิชั้นได้คิดอีกอย่างว่า นอกเหนือจากการแสดงความกตัญญูด้วยการทำหน้าที่ให้ดี ไม่นำแต่เรื่องทุกข์ร้อนมาให้แล้ว เราก็ควรที่จะเลี้ยงดูพ่อแม่ให้สมกับที่แม่ได้อุ้มท้องนานถึง 9 เดือนบ้าง

 

บางคนบอกว่า...โฮ้ย..ยุคสมัยนี้มันเปลี่ยนแล้ว ครอบครัวใหญ่ ๆ แบบครอบครัวไทย ครอบครัวคนจีนสมัยก่อนน่ะแทบจะไม่มีแล้ว เมื่อลูก ๆ แต่งงานแยกครอบครัวออกไปก็มัวแต่ยุ่งเหยิงกับครอบครัวตัวเองจนไม่มีเวลาให้พ่อกับแม่ แล้วคุณไม่คิดว่า ท่านจะเหงาบ้างหรือคะ ?

 

เวลาที่เราโทรศํพท์เม้าท์กับเพื่อน คุยกับแฟน หลาย ๆ ชั่วโมง คุยกันทุกวันยังคุยได้เลย แล้วกะอีแค่โทรศัพท์กริ๊งไปหาพ่อแม่บ้างมันเสียเวลานักหรือคะคุณ..ขา...

นึกถึงตอนที่เรายังเด็กหน่อยซิ

ใครกันที่พาเราไปเที่ยว...สวนสนุก Running In Field

ใครกันที่พาเราไปเที่ยว...ห้างสรรพสินค้า

ใครกันที่พาเราไปเที่ยว...ทะเล ฯลฯ

ใครกันที่ทำทุก ๆ อย่างให้คุณมีความสุข

คุณเคยพาพ่อแม่...ไปเที่ยวบ้างไหมคะ ?

คุณเคยทำอะไรให้พ่อแม่...มีความสุขหรือยัง ?

Circle Of HeartsCircle Of HeartsCircle Of Hearts

 

สำหรับคนที่ยังอยู่หลังคาเดียวกันกับคุณพ่อคุณแม่

...ก็อย่าละเลยเอาใจใส่พวกท่าน....เพราะการให้ความสุขกับพ่อแม่....

 เป็นการให้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในความคิดของอิชั้น...

ให้สมกับที่เป็นลูกกตัญญู...ชวนป๋วยปีแป่กอ

หมายเลขบันทึก: 50898เขียนเมื่อ 20 กันยายน 2006 00:24 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 17:33 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่าน


ความเห็น
มาสวัสดีก่อนนอนค่ะ
ขาวดี...ที่พี่เผลอออกมา ดำจัง...เศร้าสร้อยไปเลย นิ
  • บันทึกเรื่องนี้เสร็จก็มาต๊กกะใจกับเรื่องข่าวการประกาศจากคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธปไตย จากweb ผู้จัดการ ที่นี่
  • พ่อแก้วแม่แก้วเอ๊ย...สงสารประเทศไทยค่ะ
  อ่านแล้วคิดถึงเพลง "ใครหนอ"เลยจ๊ะ
อ่านแล้วก็ทบทวนตน...ก็ทำให้พ่อกับแม่ทั้งทุกข์และสุขนะ แต่มานึก ๆ บางทีนิสัยเหบ่อ ๆ (ไม่เอาไหน...นิสัยแย่ ๆ) ของเราก็มีเยอะนะ แต่พ่อกับแม่ก็ให้อภัยทุกที ฮ้าย! คิด ๆ แล้วก็ใจหาย...ที่พ่อแม่มักพูดทีเล่นทีจริงอยู่เสมอว่าว่า "พ่อกับแม่ให้อภัยแล้ว...กลับบ้านเถอะลูก" (ยิ้ม  ๆ) แต่ตอนนี้ท่านบอกว่า "ไม่ต้องกลับมานะ อยู่ที่นั่นแหละดีแล้ว...ที่นี่ระเบิดเยอะ ค่อยกลับมาไม่ต้องห่วงพ่อกับแม่สบายดี" (ยิ้ม ๆ มากกว่าเดิม) เดี๋ยวต้องโทรหาแม่แล้วล่ะ...คิดถึงท่านจัง...นิ

บันทึกสนุกดีครับ !!! ได้รู้ว่าเบื้องลึกพี่เล็กกำลังคิดอะไรกับพระเอกอยู่

พี่เล็กเขียนบันทึกได้สนุกและมีสาระโดนใจผมจริงๆครับ

เยี่ยมมาก 

จะมารู้ว่ารักของพ่อแม่มากแค่ไหน  ก็ตอนที่ตัวเองได้เป็นพ่อแม่น่ล่ะค่ะ

 ยิ่งตอนนี้ใกล้จะเป็นคุณยาย  ถ้ามีหลานยิ่งรักมากๆไม่รู้แค่ไหนค่ะ

รักพ่อแม่ให้มากนะคะ

  • น้องแมวทำให้พี่นึกทบทวนเนื้อเพลง...
  • " ใครหนอรักเราเท่าชีวัน
  •    ใครหนอใครกันให้เราขี่คอ...
  •    ใครหนอชักชวนดูหนังสี่จอ
  •    รู้แล้วละก็อย่ามัวรั้งรอ...ทดแทน..บุญคุณ" 
  • .....ซึ้งจัง...
  • คุณ Vij คะ
  • อิชั้นเขียนบันทึกนี้เพื่อเตือนตัวเองเช่นกัน..ที่บางครั้งลืมที่จะเอาใจใส่ความสุขของแม่
  • แต่นับจากนี้ไปบันทึกนี้ก็จะเหมือนกับเตือนตนและตั้งจิตที่จะทำหน้าที่ของชวนป๋วยปี่แปกอ...เป็นลูกกตัญญูเจ้าค่ะ...

 

  • น้องเอกเจ้าขา....
  • ขอบคุณสำหรับคำชมนะจ๊ะ
  • ว่าแต่ว่า....พี่ไม่ได้คิดอะไรกับพระเอกนะ...แค่คิดว่าผู้ชายคนนี้...อือ..ฮื้อขาวจัง...เอ๊ย..หล่อ..ล่ำจังเยย.. คิกคิก
  • ขอบคุณครูอ้อยนะคะ
  • ดิฉันจะรักและทำให้คุณแม่มีความสุขทุก ๆ วันค่ะ
  • ยอดเยี่ยมเช่นเคยนะคะ
  • อ่านแล้วมีความสุขด้วย ขอบคุณค่ะ
จริงคะ สมัยนี้ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้วคะ วัฒนธรรมความดีงามต่างๆของไทยเสื่อมไปคะพร้อมกับการแทรกตัวของความคิดแบบตะวันตกเข้ามาแทนที่ ตัวของผู้เขียนเองเคยมีเพื่อนฝรั่งคะ แล้วเค้าก็มาเรียนหนังสือที่เมือง ผู้เขียนก็เลยถามว่าเพื่อนที่เป็นฝรั่งว่า คิดถึงพ่อแม่บ้างหรือเปล่า เค้าก็บอกว่าคิดถึงนะ แล้วเพื่อนของผู้เขียนก็ถามกับตัวผู้เขียนว่า ไม่เข้าใจว่าทำไม ผู้เขียนต้องโทรศัพท์กลับบ้านไปคุยกับพ่อแม่ทุกวันเลยหรือ ผู้เขียนก็ตอบว่าทุกวันเลย โดยที่ตัวผู้เขียนบอกว่าจะต้องโทรไปบอกรักพ่อกับแม่ทุกวัน เค้าก็ว่าแปลกนี้เนอะ ขนาดเค้าคิดถึงบ้านยังไม่เคยโทรกลับบ้านเลย อย่างดีก็แค่ส่ง mail คุยกัน และที่สำคัญพ่อแม่ของเค้าก็ไม่เคยโทรมาหาเค้าด้วย จากจุดนี้เองทำให้มองเห็นได้ชัดถึงความแตกต่างระหว่างวัฒนธรรม ซึ่งตัวผู้เขียนนรู้สึกว่าวัฒนธรรมความผูกพันภายในครอบครัวนั้นเป็นวัฒนธรรมที่ดีงาม เสริมสร้างความรักความอบอุ่นให้เกิดขึ้นภายในหลังคาบ้านเล็กๆที่เต็มอิ่มไปด้วยความรัก จนตัวผู้เขียนรู้สึกว่า ดีใจจังที่เกิดมาเป็นคนไทย
  • รู้สึกอบอุ่นจังเลยค่ะกับครอบครัวของคุณเสาวณีย์
  • สังคมไทยเคยเป็นสังคมที่มีความดีงามมากมาย ยุคนี้ก็ชักจะเสื่อมไปบ้างแล้วแต่ดิชั้นยังหวังว่าความสวยงามของสังคมไทยที่มีอยู่นั้นจะยังไม่หมดไป
  • เรามาช่วยกันจรรโลงความดีงามด้วยกันนะคะ
  • ดีจังเลยครับ ถ้าทุกคนมีสถาบันครอบครัวที่ดี สังคมเราคงน่าอยู่กว่านี้นะครับ
  • ขอบคุณที่ทำให้คิดถึงแม่มากๆถึงมากที่สุด
  • อ.ขจิตคะ
  • ดิฉันเชื่อว่าสถาบันครอบครัวที่มีความรักอย่างแข็งแรงจะช่วยส่งเสริมให้สังคมไทยมีแต่ความสวยงามมาก ๆและดียิ่งๆ ขึ้นค่ะ
  • ขอบคุณครับแวะมาดูการสอนนางสาวพยาบาล/นางพยาบาลนานาชาติ
  • ขอเวลาคิด Plot ก่อนนะคะอ .ขจิต สัญญาว่า Plot เรื่องเสร็จเมื่อไหร่ อ. ได้อ่านแน่นอนค่ะ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท