Happy Ba ..GFGAP ได้ความสุขประทับใจ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ฯ บ้านจอมคีรี อ.เชียงดาว เชียงใหม่


ประทับใจมีความสุข



 

           

http://www.facebook.com/media/set/?set=oa.308244485956468&type=1

ก่อนไปถ้ำเชียงดาว


ออกเดินทางจากในเมืองเชียงใหม่ เวลาประมาณบ่าย 1 โมงกว่า เวลาตอนแรกเข้าใจว่าใช้เวลาเดินทาง 3 ชม.ถึงสวนบัวชมพู เจ้าของรถตู้บอกว่า ประมาณ 60 กิโลเมตร ใช้เวลาไม่ถึง 3 ชั่วโมง เวลาบ่าย 3 โมง ก็ถึง เมื่อเข้าใกล้เขตบริเวณ สวนบัวชมพู ก็ทราบทันที่กับขอบรั้วสีชมพูสวย ที่เราได้ชมภาพก่อนหน้าที่จะเดินทางไปถึง ลงจากรถเพื่อเดินขึ้นสู่เถียงนาที่มีที่นอน หมอน มุ้ง รอต้อนรับอยู่แล้ว สิ่งที่เด่นชัดมองเห็นแต่ไกลคือ กล้วยน้ำว้าสุก 1 เครือแขวนอยู่กับกอไผ่  ทางเดินขั้นบันไดขึ้นที่พัก  จนถึงพื้นบ้านล้อมรอบด้วยต้นไม้แตกกิ่งกออย่างสวยงาม คือ ต้นพุด โมก ดอกสีขาวเล็กๆน่ารัก เจ้าของสถานที่ได้เตรียมที่ผู้มาเยือนจะต้องใช้ วางเรียงรายเป็นระเบียบ คือ หมวก ที่จะใช้เดินชมสวนชมนา สวน ฯ  มะพร้าวแก่ 5 ลูกเตรียมทำน้ำมันมะพร้าว  ข้าวเหนียวดำซุปเปอร์ดอ (น้องแหม่มตั้งชื่อใหม่)  และข้าวไรซ์เบอรี่   รองเท้าบู๊ธ  และ ธัญพืชชงดื่ม มื้อค่ำ และมื้อเช้า คือ  จมูกข้าวมะลิแดงผง จมูกข้าวเกล็ด กาแฟ ฯ




http://www.facebook.com/media/set/?set=oa.367314556694068&type=1

รวมภาพ ถ้ำเชียงดาว


เมื่อไปถึงยังมีเวลาจึงชวนกันไปชมถ้ำเชียงดาว ก่อนเข้าถ้ำ เดินชมดอกไม้ ปลาในน้ำใสแจ๋ว ในถ้ำจะมีกลุ่มไกด์ พาเข้าไป นำทางโดย ใช้ตะเกียงเจ้าพายุ  ภายในถ้ำผู้นำทางจะอธิบายลักษณะของหินรูปแบบต่างๆที่สวยงามแปลกตา เช่น เหมือนช้าง  กลีบดอกบัว  ภายในบางจุด จะกว้าง ยาวมาก บางช่วงเตะบอลได้เลย แต่มืดมาก อาศัยแสงจากตะเกียงเท่านั้น จะมีช่องเล็กเฉพาะคน 1 คนลอดได้เท่านั้น ที่จะต้องลอดผ่าน ( ลืมถามว่าคนอ้วนมาเที่ยวจะให้ผ่านได้ที่จุดไหน )  จะมีหยดน้ำอยู่บ้าง หินงอกหินย้อยจะสวยเป็นสีขาว  ซึงยังมีพอให้ได้ชม มีค้างคาวเกาะกันเป็นกลุ่มอยู่สูง  กลับออกอีกทางที่ไม่ใช่ทางเข้า เมื่อถึงใกล้ทางออกจะมี องค์สมเด็จพุฒจารย์โต ฯ และหลวงปู่ทวด  ออกจากถ้ำ ชมปลาน้ำใสมากอีก




http://www.facebook.com/media/set/?set=oa.367328593359331&type=1

อาหารเย็น/ ขูดมะพร้าว


กลับถึงที่พัก สักพักฝนก็ตก น้องอ.ศิลาและคนใกล้ตัว(น้องลิน)มาถึงแล้ว น้องแหม่มเตรียมอาหารเย็น น้องหมอป.และน้องลิน ขูดมะพร้าวคั้น ส่วนน้องอ.ศิลาเก็บข้อมูล การทำน้ำมันมะพร้าว เย็นวั้นนั้นไม่ได้เคี่ยวแบบโบราณ จึงใส่ขวดแบบสกัดเย็น

ก่อนฝนตก ผู้ช่วยน้องแหม่มก็เตรียมก่อเตาถ่านเตรียมย่างหมูที่ลานกว้าง แต่ฝนตก จึงต้องยกมาย่างบนพื้นด้านล่างเถียงนา อาหารเย็นพร้อม คือ ปลานิลย่าง หมูย่าง จอผักกาด  ข้าวนึ่งซุปเปอร์ดอ ผลไม้แคนตาลูป  อาหารมื้อเย็น อร่อยๆ ท่ามกลางสายฝน อิ่มข้าว  น้องแหม่มขอตัวไปทำขนมวุ้นที่บ้าน  ทั้ง 4 ก็แยกย้าย อาบน้ำ ตรงที่พักนี้มีห้องน้ำ 3 ห้อง พร้อมเครื่องน้ำอุ่น แต่ละคนนอนกันไม่ดึก ลมพัดเบาๆด้านทิศใต้ อากาศเย็นพอดีๆ นอนฟังเสียงน้ำไหลตลอดเวลา





http://www.facebook.com/media/set/?set=oa.308232899290960&type=1

ยามเช้า/อาหารเช้า


ประมาณ ตี 5  ลืมตามองออกไปนอกมุ้ง มองเห็นดาวพระศุกร์  จัดแจงเพิ่มเสื้อผ้าให้อุ่นขึ้น แอบมองน้องๆยังไม่ตื่น  ค่อยๆย่องลงไปจัดการส่วนตัว จ๊ะเอ๋..กับคางคกน้อย กำลังเข้าไปที่วางรองเท้าบู๊ธ ก็ขึ้นไปคว้ากล้อง จัดการเก็บภาพไว้

อากาศดีมากหนาวเย็นพอประมาณ มุ่งตรงไปที่ต้นมะขามป้อมก่อนเลย น้ำฝนและน้ำค้างหยดอยู่ปลายใบสวยงาม ฟ้าเริ่มสว่างมากขึ้น เด็ดมะขามป้อมใส่ปาก สดๆรับวิตามินซี ป้องกันหวัด เจ็บคอยามเช้าตรู่ แล้วเดินต่อ เก็บภาพ ทางด้านทิศตะวันตก เดินเลาะริมสระบัว ชม ต้นไม้ ดอกไม้ เช่น ทรงบาดาล ชงโค พระจันทร์บนยอดไผ่ เดินบนคันนา ชมดอย หมอกลอยอยู่บนดอย สวยงามมาก และหันมองด้านทิศตะวันออกเป็นระยะๆ เพราะรอเก็บภาพตะวันขึ้นยามเช้า  แต่ต้องผิดหวัง ฟ้าเปลี่ยน เมฆมากขะมุกขะมัว นาของสวนบัวชมพูต้นข้าวเต็มแน่นหมดทุกแปลงนา ปลูกแบบขั้นบันไดก็มี  ได้ยินเสียงน้ำไหลตลอด พบต้น มะกอกฝรั่ง 2 ต้นกำลังมีลูกดก แต่ไม่ได้เก็บรอชวนน้องๆมาเก็บ (แล้วก็ลืมไม่ได้เก็บ) 

ใกล้ที่พักจะมีต้นมะม่วงมองขึ้นไปบนยอด มีรังนก ที่ชื่นชมนกว่า มีความพยายามเยี่ยมมากอยู่ 1 รัง น่าจะเป็นรังนกกระจาบแต่เป็นรังของตัวผู้หรือตัวเมียไม่ทราบได้เพราะอยู่สูงมาก รังนกของตัวผู้และตัวเมีย ไม่เหมือนกัน ของตัวเมีย จะสร้างเป็นกระเปราะไว้วางไข่ด้วย ส่วนตัวผู้มีที่ยืนตรงกลางเท่านั้น และมีรังต่อ ใหญ่ รังสมบูรณ์ อีก 1 รัง  ไปชมสระบัว ด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือต่อ มองไกลๆเห็นน้องลิน เดินชมนาแล้วเช่นกัน บัวซึ่งเป็นช่วงเวลาที่บัวไม่ออกดอกมากแต่ก็มีให้ได้ชมไกลๆ คือดอกบัวหลวงสีขาว และได้ภาพดอกบัวสัตตบงกชสีขาวมาฝาก  ชมแปลงผักเชียงดา  ชะอม  ต้นไม้ยืนต้นหลายชนิดที่กำลังเริ่มโต เช่น มะพร้าว 100 กว่าต้น  ไคร้ย้อย ราชพฤกษ์ ชงโค  ฯลฯ

อาหารเช้าพร้อม ด้วยเมนูข้าวต้ม คือ ยำกุ้งแห้ง ผัดยอดมะเขือเครือ ไข่เจียวดอกโสน สักพัก ครอบครัวของน้องเพลินที่ไปพักที่เวียงแหง ก็มา ตามด้วยน้องตูมและน้องเขี้ยว 




http://www.facebook.com/media/set/?set=oa.308252585955658&type=1

ก๋วย


ได้เวลาไปชม ก๋วย ซึ่งไม่ไกล เดินไปชมริมทางไปด้วย ซึ่งช่วงเวลานี้น้องอ.ศิลา ดูมีความสุขมากกับการ ก้มๆเงยๆเก็บภาพ ถาม  แล้วบันทึก ส่งเข้า FB. ก่อนใคร  ถามสัมภาษณ์ การทำก๋วย ณ จุดรับซื้อแล้ว เดินกลับแวะเข้าบ้านที่กำลังสานก๋วย อีก พร้อมนั่งชมจนสานเสร็จ 1 ลูก สอบถามขั้นตอนการทำการซื้อไม้ไผ่ ราคา ปริมาณที่ทำได้  เมื่อเข้าใจกันดี และชื่นชม ในชุมชนอย่างมากแล้ว

  เดินกลับแวะผ่านบ้านคุณแม่จาของ น้องแหม่ม และคุณแม่ (อม่าคนใกล้ตัวน้องแหม่ม) ก็อยู่ด้วย ในบริเวณบ้าน มียุ้งข้าว ชอบมากกับกอกุหลาบโคนต้นปลูกผักกาดจอ(ผักกวางตุ้ง) มุมบ้านจะมีต้นตาว (ลูกชิด) กำลังออกลูกแต่ยังไม่แก่ มีพืชผักสวนครัว เช่น สะระแหน่ พลูคาว ฯ ตากพริกแห้งไว้  คุณแม่จากำลังจัดเตรียมทำส้าผักสมุนไพรหลายชนิดใส่ปลาให้ชิมด้วย 




เมื่อถึงเถียงนาที่พักน้องๆเตรียมไปเดินชมแปลงนา ส่วนพี่ดาขอเคี่ยวน้ำมันมะพร้าวให้ทันทำอาหารและเสร็จก่อนไปเที่ยวต่อ พอดีช่วงเช้าได้เดินชมแล้ว ซึ่งตอนแรกว่าจะเดินช่วงเวลาเย็นของเมื่อวาน พอดีฝนตก  เคี่ยวมะพร้าวไปก็ชะเง้อมองน้องๆเดินไปถึงไหนกันแล้วใจจริงอยากไปเดินด้วย พอได้ชมภาพสวยเท่ห์ของน้องๆ และ เดินข้ามน้ำ มีน้องลินช่วยระวัง แล้วชอบมาก ชมแล้วก็ยิ้มมีความสุขไปด้วย




http://www.facebook.com/media/set/?set=oa.367335156692008&type=1

ทำน้ำมัน /อาหารกลางวัน


  การหมักเพื่อให้ได้น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น มาจากบ้านในเมืองและที่น้องหมอป.และน้องลิน ขูด คั้น ไม่ผ่าน เพราะ ขวดใหญ่ที่ใส่หัวกะทิไว้ 5 กิโลกรัมจากที่ซื้อจากตลาดนั้น ใส่ขวดหมักตั้งแต่ เวลาประมาณ 7 โมงเช้า ขึ้นรถตู้ บ่าย 1 โมงกว่า หัวกะทิเริ่มเปลี่ยน เมื่ออยู่บนรถเดินทางประมาณ 60 กิโลเมตร กระเทือนด้วย พอถึง ที่พักก็วางต่อ เย็นมาฝนตก ไม่เกิดน้ำมัน กลางคืนหวังว่าจะเกิดน้ำมัน อากาศเย็น ก็ไม่เป็นน้ำมัน ส่วนที่น้องหมอป.และน้องลิน หมักไว้ ก็ไม่เป็นน้ำมันซึ่งพอจะทราบอยู่แล้วเนื่องจากมีมะพร้าว 2 ลูกใน 5 ลูกนั้นงอกมีจาว

เมื่อไม่เกิดน้ำมัน ก็ต้องตักครีมกะทิที่ลอยอยู่บนน้ำหมักลงกระทะทั้งหมด หัวกะทิประมาณรวมกันมาจาก 6 กิโล ส่วนหนึ่งเป็นน้ำหมัก ครีมกะิทิจะเหลือไม่ถึง 6 กก. เพื่อเคี่ยวแบบโบราณ ซึ่งการเคี่ยวไฟอ่อนๆจะได้น้ำมันเร็วกว่าการเคี่ยวจากหัวกะทิสดใหม่ แล้วกากที่เหลือจากนำน้ำมันออกแล้วนั้นจะอร่อยมาก  ส่วนกากที่เหลือจากการเคี่ยวที่หัวกะทิผ่านการหมักมาแล้วนั้นไม่อร่อยมีรสเปรี้ยว การเคี่ยววันนั้นถึงแม้ครีมหัวกะทิจะมาก แต่ได้น้ำมันเร็ว ถ้าใช้หัวกะทิสดใหม่  6 กิโลจะใช้เวลานานมากหลายชั่วโมง เมื่อน้ำมันลอยใสขึ้นมาบ้างก็ตักไปทำอาหารที่ต้องใช้น้ำมันมื้อกลางวัน คือ ผัดยอดผักเชียงดา ทอดไข่เจียวชะอม  ดอกโสน  ผัดเพกาใส่หมู 

  น้องๆกลับมาถึง ก็เตรียมแกงผักเชียงดาใส่ปลาย่าง โดยน้องหมอป. และทุกคนลุ้นเป็นกำลังใจ พร้อมเก็บภาพ เป็นช่วงเวลาที่ สนุกสนานมาก มีแต่เสียงหัวเราะฯ อยู่ใน-นอกครัว อาหารส่วนหนึ่งทำมาจากบ้านน้องแหม่ม และบ้านคุณแม่ของน้องแหม่ม พืชผักสมุนไพรที่นำมาทำอาหารเก็บจากสวนบัวชมพูทั้งหมด เช่น ฝักเพกา  ผักเชียงดา ชะอม  ฯ ส่วนดอกโสน น้องเพลินเก็บจากนาบ้านแม่ตาด

  ยกเว้นปลานิล น้องแหม่มซื้อที่ตายแล้วมานึ่งสมุนไพรได้อร่อยน้ำสมุนไพรเข้าในเนื้อปลาไม่ต้องใส่น้ำจิ้ม เพราะปลาในเขตสวนบัวชมพูหรือสัตว์อื่นที่เข้ามาอยู่ ไม่มีการฆ่า ปล่อยให้อยู่อย่างธรรมชาติ น้องแหม่ม ศึกษาวิถีชีวิตของสัตว์บางชนิดด้วย  ตายเองตามธรรมชาติทั้งหมด  อาหารที่ได้ชิมทั้งหมดไม่ว่ามื้อไหน ปลอดสารพิษ ปลูกเองกินเองและแบ่งปัน ดีต่อสุขภาพมากน้องแหม่ม ลืมขนมวุ้นที่ทำำเองไว้เมื่อคืน นึกได้ ก็รีบไปนำมา ทำไว้มากมายหลายรส น้ำแดงเฮลบลูบอย อัญชัน ใบเตย อร่อยหมดทุกสี



 ขนมวุ้นฝีมือน้องแหม่ม่ทำด้วยใจอยากให้ชิม




http://www.facebook.com/media/set/?set=oa.367348770023980&type=1

กราบหลวงปู่สิม


เมื่ออิ่มอร่อยอย่างมีความสุข กับอาหารมื้อกลางวันด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ พูดคุย แซวกันอย่างมีความสุขแล้วก็เตรียมเดินทางไปกราบหลวงปู่สิม ที่วัด ถ้ำผาปล่อง ครอบครัวน้องเพลินขอกลับก่อนเพราะ อาจารย์พิกุลคุณแม่ของลูกทั้ง 2 มีธุระช่วงบ่าย  น้องอ.ศิลาเอารถไปเอง เพราะจะแวะเที่ยวถ้ำเชียงดาว รวมไปรถตู้ น้องเขี้ยวขอนั่งหน้าเก็บภาพ มองดอยสวยมาก น้องแหม่บอกหาจุดที่เก็บภาพที่สวยที่สุดไว้แล้ว เมื่อไปจอดรถลงไปถ่ายภาพดอยโดยเฉพาะ รถน้องอ.ศิลาก็คงตามมาแบบสงสัยเลยทางเข้าวัดแล้วจะไปไหนกัน เมื่อได้ภาพสวยงามแล้ววกรถกลับไปวัด ( กล้องพี่ดาก็ยังเก็บได้ภาพอยู่แต่ต้องกดเปิด-ปิดที่ละภาพไปใช้แฟลตมากตอนอยู่ในถ้ำเชียงดาว  )

พี่ดาไม่ทราบมาก่อนว่าต้องเดินขึ้นบันไดที่สูงขึ้นเรื่อยๆ เดินไปแอบนับขั้นบันไดไปด้วยบอกเดี่ยวพี่ดามีคำถาม  พอถึงจุดนั่งพัก น้องลินก็บอกว่ากี่ขั้น  นั่งพักเหนื่อยรอที่ยังเดินไม่ถึง สักพัก ก็เดินต่อนับขั้นบันได้อีก พอหยุดคุยก็ลืม แต่ก็ยังนับประมาณต่อไปเรื่อยๆ มีบันไดแยกซ้ายขวาอีกมาก เมื่อถึงก็เข้ากราบไหว้ จะมีภาพพระมากมาย ที่เราบูชานับถือของประเทศไทยเรา เดินเข้าไปถึงกุฏิ และที่เก็บ เครื่องใช้ของหลวงปู่ที่อยู่สูงที่สุดของวัด เดิน 3 รอบตรงนั้น เดินลงกลับ  สำหรับบันไดที่ขึ้นสูงไปบนยอดดอยนั้น มี 300 กว่าขั้น 300 เท่าไหร่ ไม่บอกนะคะ อยากให้ทุกคนหากมีเวลาขึ้นไปกราบหลวงปู่ นะคะ  ได้ แยก –ลา กับน้องอ.ศิลา และ น้องลิน ที่วัด



ได้ความสุขมากมายกับธรรมชาติที่ล้อมรอบด้วยภูเขา ท้องฟ้า มวลเมฆ สวยงาม นาข้าว สระน้ำ ต้นไม้นานาชนิด  เสียงน้ำไหล บ้านที่มีแต่ความสุข เราผู้เข้าไปเยี่ยม ฯ ก็มีความสุขไปด้วย ได้รับการต้อนรับด้วยความอบอุ่นแบบเรียบง่าย อย่างเหมาะสม กับท่ามกลางธรรมชาติ ไม่ว่าที่พัก อาหารปลอดสารพิษ ชื่นชมสิ่งที่น้องแหม่มสร้างขึ้นมาด้วยใจรัก มอบให้ด้วยใจ  พาไปชม เรียนรู้วิถีชีวิตของขุมชนหมู่บ้าน การสร้างรายได้ในครัวเรือน เด็กๆมีงานทำหารายได้ ในวันหยุด  ทำได้ตั้งแต่เด็กจนถึงผู้สูงอายุ ผ่านบ้านไหนก็พบรอยยิ้มพูดคุยด้วยอย่างดี ดีใจที่ได้เก็บลูกหม่อน ลูกตะขบ  หวานอร่อยมาก ผ่านต้นมะแว้ง ที่มีสรรพคุณ ลดน้ำตาลในเลือดผู้ป่วยเบาหวานได้เยี่ยม

จากที่พี่ดาชมภาพ และยังชมไม่หมดที่น้องๆเก็บภาพไว้กันมากมาย มีพี่ดาได้พอควร แบตเหลือริบหรี่ๆ ถ้ามีโอกาสได้ไปอีกจะต้องนำที่ชาร์จแบตไปด้วย  การไปเที่ยวครั้งนี้ รวมกันได้ภาพเป็นหลักพัน เพื่อมาฝากชมกัน การกล่าวของน้องๆที่เขียนบันทึกบ้างแล้ว ทุกคนที่ไป ประทับใจ มีความสุขมาก


           ขอบคุณมากๆค่ะ น้องแหม่ม – บัว ชมพู และขอบคุณ gotoknow มากค่ะ 




คลิก......ชมบันทึกเกี่ยวข้อง ที่มีการเขียนบันทึกการไป  Happy Ba ...GFGAP  ต่อได้นะคะ


ด้วยความปรารถนาดี  กานดา แสนมณี


หมายเลขบันทึก: 507899เขียนเมื่อ 7 พฤศจิกายน 2012 11:42 น. ()แก้ไขเมื่อ 4 พฤษภาคม 2013 18:01 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (15)

Happy Ba กิ๊บก๊าบ ครับพี่ ;)...

ทริปหน้าจะจัดโปรแกรมให้ 3 วัน 3 คืน เลยนะครับ พี่ดา 555

-สวัสดีครับ..

-Happy  ๆ ๆ

-หากมีโอกาสจะไปเยือนเชียงดาว...

-ขอบคุณครับ..

 

พี่ดาเขียนได้ละเอียดและมีอรรถรสดีจังคะ อัศจรรย์ที่พี่ดารอบรู้เรื่องต้นไม้กินได้. เดินผ่านอะไรเป็นมีสรรพคุณให้เรียรนู้. ขอบคุณมากคะ

อ่านอย่างเพลิดเพลินค่ะ พี่ดาเล่าแบบมีความสุขมากเลยนะคะ แต่ก็จริงค่ะแต่ลพกิจกรรมล้วนแต่มีเรื่องราวที่ประทับใจ โดยเฉพาะอาหารเพื่อสุขภาพมื้อกลางวันที่มาจากฝีมือคุณแม่จาของน้องแหม่ม อร่อยมากด้วยรสมือของพี่เขี้ยวนะคะ บันทึกจะงอกต่อไปของน้องนะคะ พี่เขี้ยวบล็อกเกอร์ขั้นเทพ...

เรียนคุณกานดา เห็นภาพผ่านอักษรยามผ่อนพัก ประทับใจเหมือนได้มาเยือนด้วยตนเอง

เยี่ยมมากๆ ค่ะ พี่ดาเขียนเล่าเรื่องราว ใครได้อ่านเหมือนเดินทางไปด้วยตนเองเลยค่ะ ..ยินดีต้อนรับนะค่ะ คุณอักขณิช แถมโปรแกรมพาไปแอ่วดอย ด้วยยังได้ค่ะ..

ชอบจังค่ะ..เป็นการเที่ยวด้วยความสุขอย่างปราณีตจริงๆ..เห็นมิตรภาพดีๆจากภาพมากมาย

  • ขอบคุณพี่ดามากค่ะที่ให้ความรู้มากมายตลอดเส้นทางการเดินทาง รายละเอียดในบันทึกนี้ ชัดเจนมาก ท่านใดไม่ได้ไปร่วมกิจกรรมก็เห็นภาพสำคัญครบถ้วน ชื่นชมมากๆ ค่ะ
  • ขออภัยที่ก้มหน้าก้มตาบันทึกข้อมูลและภาพต่าง ๆ ในไอแพดจนกลายเป็นบุคลิกติดตัว แต่ภาพที่เกือบจะลื่่นตกคันนา เป็นช่วงที่หญ้ารกและมีจุดลื่นจากฝนที่เพิ่งตกใหม่ ๆ ค่ะ แต่ก็โชคดีที่ก้นไปกระแทกพื้น ไม่บาดเจ็บ มิเช่นนั้น ภาพข่าวอาจจะดังกว่าภาพขูดมะพร้าวก็เป็นแน่ค่ะ (แต่ดังแบบฮามากกว่าดังน่ารักนะคะ) 
  • การรุมจากหลาย ๆ ท่านเป็น Happy Ba, Happy Relax อย่างหนึ่ง ยินดีให้พี่รุมได้เลยค่ะ 
  • น้ำมันมะพร้าว ทุกเช้ามีคนเห่อใช้ทาผิวแล้วนะคะ เขาคงอยากเปลี่ยนสีผิวน่ะค่ะ พี่ดาคงไม่ได้บอกเขาว่าน้ำมันมะพร้าวไม่ใช่ Whitening มังคะ เลยทาใหญ่ (แซวคนของตัวเอง อิอิ) 
  • กล้วยบวชชีมีคนขอแย่งกินหมดแล้วค่ะ คราวหน้าจะตามไปทานที่เชียงใหม่ค่ะ
  • แล้วพบกันใหม่นะคะ 
  • พิมพ์ผิดค่ะ  แต่ก็โชคดีที่ก้นไปไม่กระแทกพื้น

อ่านแล้วเหมือนได้ไปด้วยเลยค่ะ พี่ดาได้เดินชมท้องทุ่งสมใจอยากเลยซิค่ะ มีแอบเดินเที่ยวคนเดียวด้วย อิอิ

สวัสดีค่ะ

อ.wasawat Ico48  ค่ะ happy ba ...กิ๊บก๊าบ ว่างก็ไปแอ่วนะคะ

 

 

น้องเพลิน Ico48  3 วัน 3 คืนได้ค่ะ น้องแหม่มบอกจะเกี่ยวข้าวใันที่ 25 พย.55 นี้นะคะ

 

น้องเพชรน้ำหนึี่ง Ico48  ภาพมาฝากน่าสนุก วันที่ 10 นี้ Happy ba ทำบุญกันนะคะ

 

น้องหมอป. Ico48  ค่ะเดี๋ยวนี้ลืมง่ายพอได้บ้างค่ะ ขอบคุณมากนะคะ

 

น้องตูม Ico48 ค่ะอร่อยทุกอย่าง ส้าผักแบบคุณแม่ทำ พี่ดาไม่ค่อยได้ทานบ่อยเลยเหมาหมดเลย

 

คุณวอญ่า Ico48  ค่ะนัดหน้าไปที่โรงเรียนที่น้องตูมสอนนะคะ ช่วงเดือนกพ. 56 ทำกิจกรรมกับนักเรียน วันที่เท่าไหร่รอน้องตูมกำหนดแล้วจะแจ้งให้ทราบนะคะ

 

น้องแหม่ม Ico48  ขอบคุณมากค่ะ สวนบัวชมพูของน้อง สร้างสรรค์ได้สวยงามด้วยค่ะ

 

 

คุณพี่ใหญ่ Ico48 ขอบคุณมากค่ะ คุณพี่ใหญ่จะมาแอ่วบ้างได้ไหมค่ะ น้องๆคงดีใจมากมายค่ะ

 

น้องอ.ศิลา Ico48 ขอบคุณมากค่ะ ดีแล้วค่ะก้มๆเงยๆ ความสุขจริงๆ น้องตกคันนาจริงหรือค่ะ ไม่มีใครบอกพี่ดาเลย กระแทกแรงหรือเปล่า เขียวช้ำไหม ทาน้ำมันมะพร้าวหายเร็วค่ะ นัดหน้าไว้พบกันอีกนะคะ กพ. 56  น้ำมันมะพร้าว น้องลินทำเป็นแล้ว ต่อนี้ไปไม่ต้องซื้อนะคะ ทำได้แล้ว กล้วยบวชี พี่ดา อร่อยจริงๆนะ (มีคนชมบ่อยๆ)

 

น้องกอหญ้า Ico48  ชอบมากค่ะกับการเดินชมต้นไม้ เก็บภาพมวลเมฆ มาเดินชมกับพี่ดาบ้างนะ

 

สวัสดีค่ะ ขอบคุณมากนะคะ

ดอกไม้ และกำลังใจที่มอบให้บันทึก ควมสุข ประทับใจ สวนบัวชมพู ฯ

 

Ico48    อักขณิช
Ico48    krugui
Ico48    ป.
Ico48    krutoom
Ico48    Wasawat Deemarn
Ico48    tuknarak
Ico48    ดร. ธวัชชัย ปิยะวัฒน์
Ico48    นาง นงนาท สนธิสุวรรณ
Ico48    วอญ่า-ผู้เฒ่า-natachoei--
Ico48    เพชรน้ำหนึ่ง
Ico48    กอหญ้า
Ico48    บัวชมพู

 

ดูรอยยิ้มแต่ละท่านแล้ว happy ba, happy health จริงๆ นะคะ ;)))

พื้นที่ความสุขนี้เรามีส่วนร่วมด้วย ดีจังค่ะ 

เดินไปไหนกับพี่ดา ก็ทำให้ทราบสรรพคุณพืช ผัก สัตว์ (ไก่ดำ) ที่พบพานไปด้วย น่าสนุก น่าตื่นเต้น ได้ความรู้ตลอดทางค่ะ ถ้าเราหลงป่าไปด้วยกัน สบายใจไม่อดตายแน่นอนค่ะ  

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท