ความสุขในความทุกข์ (ของการมีลูก)


มีลูกนี่ทุกข์นะครับ มีเรื่องต้องดูแลจัดการเยอะแยะมากมาย แล้วชีวิตก็ไม่ได้มีความสงบเท่าไหร่เพราะเราไม่ได้มีชีวิตอยู่ในจังหวะของเราเองแต่จะต้องอยู่กับจังหวะชีวิตของเขาซึ่งรวดเร็ว วุ่นวาย และหนวกหูกว่าจังหวะที่เราต้องการมากนัก

อย่างตอนเช้าๆ นี่แทนที่เราจะได้ค่อยๆ ขยับชีวิตยามเช้าช้าๆ ไปตามจังหวะที่สงบสุขของเช้าวันใหม่อย่างที่เราอยากเป็น เรากลับต้องมาตื่นด้วยเสียงตะโกนว่า "ตื่นได้แล้ว"

แล้วเสียงเด็กนี่จะเป็นเสียงแหลมๆ ที่แทรกเข้าหูเราได้ง่ายกว่าเสียงอื่นๆ แล้วเด็กในวัยห้าขวบอย่างเจ้าต้นไม้นี่จะเต็มไปด้วยคำพูดและเต็มไปด้วยคำถาม ดังนั้นแม้เราจะมีผู้ใหญ่หลายคนเราก็ไม่สามารถตั้งสมาธิคุยกันหรือทำอะไรได้เลยในขณะที่เขาอยู่ด้วย

(แต่เราก็ไม่ได้ห้ามให้เขาพูดหรือเขาถามนะครับ ผมเห็นหลายครอบครัวใช้วิธีห้ามเด็กซึ่งผมคิดว่าเป็นวิธีที่ผิด เพราะเด็กในวัยนี้คือวันอยากรู้อยากเห็นและเชื่อว่าทุกสิ่งทุกอย่างมีเหตุมีผล ผมเดาว่าเด็กจะฉลาดหรือไม่ฉลาดขึ้นอยู่กับการเลี้ยงดูช่วงนี้อยู่มากทีเดียว)

อย่างเช้านี้ผมกับ อ.จัน ก็ไม่ได้สงบอย่างที่ควรเป็นในเช้าวันอาทิตย์ แต่ต้องใช้เวลาจัดการเรื่องต่างๆ ตามจังหวะของเจ้าต้นไม้ ทั้งเรื่องกิน อาบน้ำ ฯลฯ

มาถึงตอนนี้ได้สงบหน่อยสำหรับผมเพราะ อ.จัน พาเจ้าต้นไม้ออกไปซื้อของใช้ในบ้าน แต่สำหรับ อ.จัน ก็จะเป็นการซื้อของที่วุ่นวายน่าดูเหมือนกัน

นั่งคิดดูในช่วงห้าหกปีที่ผ่านมาที่มีเจ้าต้นไม้ เห็นได้ชัดว่ามีลูกนี่มีทุกข์เพิ่มขึ้นมากมายมหาศาล แต่ถ้าให้เลือกว่าไม่ให้มีทุกข์เหล่านี้แล้วไม่ได้มีเจ้าต้นไม้ ผมสามารถตอบได้โดยไม่ต้องคิดว่าผมขอความทุกข์เหล่านี้จะดีกว่าแน่นอน

ทำให้ได้คิดว่าชีวิตมนุษย์หลีกเลี่ยงความทุกข์ไม่พ้น ไม่มีใครหลีกพ้นความทุกข์ได้แม้กระทั่งศาสดาของศาสนาต่างๆ แต่สิ่งที่เราสามารถหลีกเลี่ยงได้คือความทรมาณในความทุกข์อันเกิดขึ้นนั้นโดยธรรมชาติ เพราะความทรมาณนั้นเกิดขึ้นภายในใจของเราเอง หากเราเห็นทุกข์เป็นเรื่องธรรมดาปกติ หากมองมันในมุมใหม่ เราจะเห็นความสุขที่ซ่อนอยู่มากมายในนั้น

เขาว่าชีวิตคือการเดินทาง ผมบอกเพิ่มว่าชีวิตคือการผจญภัย (adventures) ซึ่งแน่นอนว่าเราต้องเผชิญกับสิ่งต่างๆ ในการเดินทางของเรานั้น และความสนุกคือการได้ต่อสู้กับสิ่งเหล่านั้นนั่นเอง

Enjoy the journey of life!

หมายเลขบันทึก: 506358เขียนเมื่อ 21 ตุลาคม 2012 11:12 น. ()แก้ไขเมื่อ 1 พฤศจิกายน 2012 15:15 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

 

ความสุขในความทุกข์ ...

สรุปของ P'Ple คิดว่า...มีความสุขมากกว่านะคะท่าน...

P'Pleคิดว่า(ส่วนตัว).... "บ้านที่มีความสุข" ...ต้องมีเด็กๆนะคะ ...ไม่เช่นนั้นจะเกิดช่องว่าง(Gap) ... เด็กๆๆ จะเข้ามาเติมเต็มในช่องนั้นค่ะ 

 

ขอบคุณมากค่ะ

 

"Dads' Parent  Interactions with Children" ...

งานวิจัย ป. เอก ของ ... Sheila Anderson  จาก Family and Development  UTAH STATE  UNIVERSITY 2012 ...นะคะท่าน

+ สวัสดีค่ะอาจารย์

+ อาจเพราะพี่เป็นครูประถม...พี่จึงชอบเสียงเด็ก...

+ ปิดเทอมนี้...ที่บ้านมีเด็กมาวุ่นวายทุกวัน วันละ 5-6 คนค่ะ

+ เวลาวิ่งไล่กัน...เสียงเกรียวดีจังค่ะ...

+ แต่ที่พี่ชอบคือ เสียงหัวเราะของพวกเขา ทำให้หัวใจพี่พองโตเลยเชียว...

+ แต่เวลาของเราจะหมดไปกับการจัดการกับพวกเขานี่แหละค่ะทั้งเรื่องการกิน การจัดเก็บ การทำความสะอาด

+ ทุกข์อยู่บนสุขนะค่ะอาจารย์

  • อ่านงานเขียนของ ดร.ธวัชชัยมา 2 เรื่องติดกัน ราวกับได้อ่านงานเขียน ของนักเขียนมืออาชีพเลยนะคะ เขียนได้ลื่นไหล ไม่มีสะดุด นำเสนอเรื่องราวและแนวคิดได้น่าติดตาม ทำให้เกิดความเข้าใจอย่างชัดเจน ในประสบการณ์และแนวคิดของผู้เขียนค่ะ

* อ่านไปยิ้มไปกับครอบครัวอบอุ่นพร้อมพ่อ-แม่-ลูก..หลานต้นไม้โชคดีจริงๆค่ะ..

.."ต้นไม้"..เป็นสิ่งมีชีวิต..ที่ประเสริฐสุด..ด้วย..ธรรมชาติ..ของเขา..และยังเป็นร่มเงาให้ความร่มเย็นเมื่อ.."ต้นไม้.".ได้มีโอกาศยืนหยัดเติบโตแผ่..กิ่งก้าน..สาขา..(ลูกไม้..จะหล่นไม่ไกลต้น..รอการเติบโต)..เป็น..ธรรมดาๆธรรมชาติ..เจ้าค่ะ..(ยายธี)

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท