บทเรียนจากสิ่งมีชีวิตเล็กๆเรียกว่า "ไก่แจ้"


การได้ดูแลและเฝ้ามองพัฒนาการหรือพฤติกรรมของสัตว์ตัวเล็กๆ บางเวลาจะทำให้เราได้บทเรียนที่งดงามที่ต้องนำมาปรับให้ตัวเรารู้จักเปิดใจและเรียนรู้จะเข้าใจสิ่งรอบตัวเรา


          ช่วงที่แม่ของครูนกไม่อยู่บ้าน ไปพักผ่อนที่บ้านน้องชาย(หนีไปเป็นสาวกทม.)ทำให้หน้าที่หลักของครูนกคือ ดูแลไก่จำนวน ๗ ตัว เป็นไก่ป่าตาบอดหนึ่งตัว ไก่บ้านไทยตัวเมีย ๒ ตัว ไก่แจ้สายพันธุ์ญี่ปุ่นอีก ๑ คู่ และแจ้ไทยอีก ๑ คู่   ทั้งที่ประโยคของแม่ก่อนจะไปบอก "ไม่ต้องปล่อยทุกวัน  ใส่น้ำและอาหารให้เยอะๆ มันอยู่ได้"  แต่ครูนกพบว่าหากไม่ปล่อยไก่ดูไม่มีความสุข ถึงขั้นไม่ยอมไข่
          สำหรับเจ้าไก่ป่ากับแม่ไก่ไทยครูนกจะเปิดกรงแบบอิสระเพราะเธอเป็นเจ้าที่อยู่บ้านนี้มาเกือบสองปีแล้ว รู้ทิศทางดีมากๆ  ที่สำคัญคนอยู่ที่ไหนก็จะมาร่วมวงสนทนาด้วย
          ส่วนเหล่าบรรดาแจ้ๆ เป็นสมาชิกใหม่ของบ้านมาอยู่กับเราเมื่อสิงหาคมที่ผ่านมา  กรงของแจ้จะมีขนาดเล็กกว่ากรงของไก่ใหญ่ที่สำคัญมีมุ้งลวดเรียบร้อยประเด็นสำคัญอาหารจานโปรดของไก่แจ้คือ "ข้าวโพด"  นี้เป็นผลพวงจากการเลี้ยงดูไก่แจ้ของแม่ครูนกเองที่ให้ข้าวโพดสดแล้วไก่กินหมด  แม่เลยสรุปว่าไก่แจ้ชอบกินข้าวโพด  จริงๆแล้วข้าวเปลือกหรืออย่างอื่นเธอก็ทาน  ครูนกมักจะเก็บใบกระเพรา  ใบพริก  และหัวหอมโดยหั่นๆ ให้เป็นชิ้นเล็กๆ บรรดาไก่ก็ชอบ ครูนกก็จะแบ่งผักส่วนหนึ่งมาใส่ในไข่เจียว  ประมาณว่าไก่ทานอะไรครูนกก็ทานแบบนั่นละ  จากการเลี้ยงของตนเองพบว่า นอกเหนือจากสูตรข้าวโพดของแม่บรรดาไก่ๆก็มีของโปรดอีกมากมายล่าสุดครูนกหั่นดอกอัญชันใส่ลงไปด้วย (บำรุงหัวใจ)

         ส่วนเรื่องพฤติกรรมคือ หากครูนกเปิดกรงไก่แจ้ให้แจ้ออกมาเดินเล่น ชมวิวทิวทัศน์ บรรดาแม่ไก่สองตัวจะบุกรังไก่แจ้ทานอาหารจนเกลี้ยงทุกครั้ง (ครูนกยกตำแหน่งจอมตะกละให้เลย)  ส่วนไก่ป่าก็จะเหล่สาวๆไก่แจ้  จนเกิดศึกพิทักษ์นางกับแจ้เล็กบ่อยๆ    แต่เหล่าแจ้ก็รวมกลุ่มกันได้เหนียวแน่นดีมากจัดเป็นสัตว์สังคมเลย  แต่เจ้าแจ้ญี่ปุ่นนี้ก็พอสมควรชอบรังแกแจ้ไทย ส่วนแจ้ไทยก็จะดูแลตัวเมียของตนเองดีมากเป็นลูกผู้ชายตัวจริงเช่นกันที่สำคัญบรรดาแจ้เล็กจะมีการเที่ยวเดินเล่นแบบเป็นเวลาไม่เกินชั่วโมงก็จะกลับกรงของตนเอง  

         สิ่งที่ครูนกต้องปรับตัวตอนนี้คือ ตอนเย็นจะรีบกลับบ้าน ใครถามจะตอบเลย "จะไปปล่อยไก่"  หลายคนฟังแล้วตาโตได้ฟังคำอธิบายแล้วกระจ่างปล่อยไก่ตัวเป็นๆ  และสอนให้ครูนกรู้ว่า  อย่าคิดแทนไก่แค่เฝ้าดู  พฤติกรรมของไก่จะเป็นคำตอบให้เราเองว่า แบบไหนจะดีที่สุดสำหรับเขา  

         สุดท้ายต้องขอบคุณไก่ทุกๆตัวที่ให้ทั้งไข่และบทเรียนในการเข้าใจผู้อื่นแบบไม่ต้องคิดแทนเขา

หมายเลขบันทึก: 505628เขียนเมื่อ 14 ตุลาคม 2012 20:55 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 ตุลาคม 2013 21:10 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (11)

 

 "ไก่แจ้" ....น่ารักจังเลยนะคะ ...ไก่แจ้...เป็นมากกว่า "ไก" .... นะคะ

"ไก่แจ้เหอ ว่ายน้ำต้อแต้ไปขอเมีย ขันหมาลอยน้ำเสีย เอาไหรขอเมียล่ะไก่แจ้

ขอบคุณค่ะ ดร.Ple ที่มาเยี่ยมบรรดาไก่ใหญ่ ไก่เล็ก.... ได้นั่งมองสิ่งมีชีวิตเล็กๆทำให้ได้ข้อคิดได้เช่นกันค่ะ

ขอบคุณท่านวอญ่ามากๆเลย เอาบทกล่อมเด็กแบบใต้ๆมาฝากกันหล่าว "ไก่แจ้เหอ ว่ายน้ำต้อแต้ไปขอเมีย ขันหมากลอยน้ำเสีย เอาไหรขอเมียล่ะไก่แจ้" - แต่ว่าถ้าคนกรุงเทพฯ อ่านว่า ขันหมากลอย"น้ำเสีย" เขาจะคิดถึงน้ำคลองแสนแสบม่าย...เพราะเน่าเสียจนสีดำ...ฮาๆๆๆ

  • มีความสุขกับการดูแลบรรดาสมาชิก ธรรมชาตินี่เป็นครูตัวจริงเสียงจริงเลยนะครับอาจารย์.. 
  • ขอบคุณประสบการณ์ดีๆนี้ สบายดีนะครับอาจารย์

คุณครูนก Blank noktalay ครับ

บันทึกนี้ Happy Ba ครับ ;)...

" เจ้าชู้ไก้แจ้ " เราได้ยินบ่อยๆ จริงหรือเปล่า แต่ดูแลตัวเมียดีใช่ไหม ใช้ได้นะ  เจ้าตัวตาบอด น่าสงสารนะคะ ดีจังให้กินสมุนไพร น่ารักไปหมด ไข่มันคงน่ารักนะคะ  พี่ดานำนำสมุนไพรมาฝากค่ะ

 

ขอบคุณค่ะคุณครูธนิตย์....เปิดเทอมเมื่อไรค่ะ เห็นด้วยเลยค่ะ ธรรมชาตินี้เป็นครูและเป็นห้องเรียนที่ใหญ่มาก....เรียนได้อย่างหลากหลาย

สวัสดีค่ะ พี่กานดา คอมฯ ยุคถัดไปน่าจะสื่อสารด้วยกลิ่นได้ด้วยนะค่ะ......ดูจากภาพแล้วหอมชื่นใจดีจังค่ะ ขอบคุณค่ะที่แวะมาเยี่ยมด้วยสมุนไพร

สวัสดีค่ะ อาจารย์ Wasawat Deemarn

บันทึกตั้งใจจะบ่นแม่นะ ว่า"เลี้ยงไก่เยอะจัง"
แต่กลายเป็นว่าจากภาระหน้าที่ ทำให้มองเห็นมุมอื่นๆ ที่จะทำให้ happy ได้(เช่นกัน)

เลี้ยงไก่แจ้ 3 คู่ รอดูเค้า เมื่อไหร่จะออกไข่ค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท