ห้องเรียนที่ผมอยากได้


ผู้เขียนพยายามจะเขียนเรื่องนี้หลายครั้งแล้ว แต่ไม่ได้เขียนเสียที วันนี้มีโอกาสเนื่องจากไม่มีคุมสอบเลยได้เขียนเรื่องห้องเรียนที่อยากได้นี้

 

ห้องเรียนที่ผู้เขียนอยากได้

 

1.ไม่จำเป็นที่ต้องมีอาคารเรียนแบบเป็นทางการ เรียนที่ไหน ก็ได้ เช่นในทุ่งนา ป่า เขา ชุมชนหรือได้เรียนจากสถานที่จริง ได้ลงมือปฏิบัติจากเรื่องที่เรียนจริงๆเช่นเรียนเรื่องแมลงก็ได้ดูแมลงจริง ได้สัมผัส ได้จับแมลงตัวเป็นๆ

 


 



2.ผู้สอนเป็นเพียงผู้ชี้แนะ เป็นผู้ที่คอยอำนวยความสะดวก (facilitator)ให้ชั้นเรียน มีบรรยากาศของความเป็นมิตร ผู้เรียนรู้สึกว่ามีพื้นที่ปลอดภัย(comfort zone)ในการ แสดงความคิดเห็น การพูดคุยกับเพื่อนๆร่วมชั้น การเรียนไม่มีการตัดสินชี้เป็นชี้ตาย ตัดสินถูกผิด การสอบไม่เป็น การสอบแบบแพ้คัดออก แต่เป็นการสอบว่าเพื่อพัฒนา ผู้เรียน ผู้เรียนทราบว่าตนเองได้พัฒนาไปมากน้อยแค่ไหน

 

 

 

3. ห้องเรียนที่ผู้เขียนอยากได้ อยากให้มีการเรียนรู้ร่วมกัน ระหว่างพ่อแม่  ผู้ปกครอง นักเรียน มีผู้เรียนหลายวัย  เรียนรู้ร่วมกัน เรียนรู้ที่จะทำความดีร่วมกัน มีจิตอาสาร่วมกันครอบครัวมีการเรียนรู้ร่วมกัน ครอบครัวจะได้อบอุ่น

 



4.สถานที่เรียนไม่จำเป็นห้องเป็นห้องเรียน เป็นพื้นที่เปิดโล่งกว้างๆสามารถจัดและปรับได้ตามสะดวก ใครอยากนอน เรียนก็เรียนได้ ใครอยากค้นคว้าพูดคุยกันก็ทำได้ทันที มีครูหรือผู้ช่วยอำนวยความสะดวกให้

 



5.ผู้เขียนอยากเห็นห้องเรียนที่มีการวัดประเมินผลตามสภาพจริง ส่งเสริมให้ผู้เรียนเป็นคนดีมีศีลธรรมมาจากใจจริงๆ ไม่ใช่การทำความดีแค่เพื่อให้ได้คะแนน

 

 


6.ห้องเรียนมีความเสมอภาคกันทั้งในชนบทและในเมือง มีครูอาจารย์ มีสื่อเทคโนโลยีเท่าเทียมกัน ผู้เขียนคิดว่าไม่มีสื่อ เทคโนโลยีอะไรที่แทนคุณครูที่มีจิตวิญญาณของความเป็นครูได้

 

 

7.ผู้เขียนอยากได้ห้องเรียน ที่สอนผู้เรียนไม่ลืมรากเหง้าหรือกำพืดของตนเอง มีความภาคภูมิใจในท้องถิ่นของ ตนเอง มีความสำนึกในการตอบแทนโดยการทำความดีให้ท้องถิ่นของตนเอง

 



8.ผู้เขียนอยากได้ห้องเรียนที่คุณครูสอนสนุก ใจดี ไม่น่าเบื่อสอนให้ผู้เรียนคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์เรื่องที่เรียนได้ ไม่ใช่ แต่เพียงตามความรู้หรือสอนตามชาติทางตะวันตกเพียงอย่างเดียว  ต้องมีห้องเรียนที่สอนให้ผู้เรียนรักในท้องถิ่นรู้จักปรับความรู้ที่เจริญแล้วมาใช้ในท้องถิ่นของตน ไม่ หลงคำโฆษณาของตะวันตก  หลงในการยั่วยุของ  สื่อมวลชนที่ไม่ดี รู้จักแยกแยะว่าสิ่งใดดีสิ่งใดไม่ดีรู้จักปรับความรู้ภูมิปัญญาในตะวันออกของตน รู้สึกรักและหวงแหนในภูมิปัญญาของท้องถิ่นตนเป็นอย่างดี

 

9.ห้องเรียนที่กระตุ้นให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากสื่ออันหลากหลายมีแรงจูงใจในการเรียนของตนเอง รู้จักค้นคว้าหาความรู้ได้ด้วยตนเอง เรียนรู้ได้ด้วยตนเองตลอดชีวิต(long-life education) นอกจากนี้ยังมีความสุขในเรื่องที่ ตนเองอยากเรียนรู้ด้วย

 



  ผู้เขียนเขียนมากเกินไปไหมหนอ ขอบคุณมากครับที่เข้ามาอ่าน มีประเด็นไหนเพิ่ม เขียนต่อได้เลยนะครับ…

 

  

หมายเลขบันทึก: 504805เขียนเมื่อ 7 ตุลาคม 2012 15:31 น. ()แก้ไขเมื่อ 24 พฤศจิกายน 2013 21:03 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (35)

อยากจะกลับไปเป็นนักเรียน ได้เข้าเรียนในห้องเรียนห้องนี้จัง

OK ...ใช้เลยค่ะ  ท่าน ขจิต

ห้องเรียนของอาจารย์นี่แหล่ะครับ...ห้องเรียนในฝัน เลยครับ

ดร.ขจิต

เป็นห้องเรียนในฝันที่ตื่นตาตื่นใจ และนำไปสู่การเปิดตาในได้อย่างน่าอัศจรรย์

อนุโมทนา

มาขอสมัครเป็นนักเรียนห้องนี้นะคะ ตอนเป็นเด็ก...วิชาเกษตร ครูให้ไปทำนา จะได้รู้ว่า ข้าวแต่ละเม็ดได้อย่างไร ยากลำบากขนาดไหน รายได้หลักการเกษตรเมื่อก่อนคือ ทำนา...นักเรียนจึงต้องรู้ว่า ทำนา ทำอย่างไร แต่ตอนนี้คงไม่มีอีกแล้วนะคะ

ชื่นชมความฝันของอาจารย์ค่ะ

น่าเรียน ผู้เรียน มีความสุข ...สวัสดีครับอาจารย์

อรุณสวัสดิ์รับฝนตกพรำๆ..มาร่วมฝันกับห้องเรียนดีๆนี้ด้วยค่ะ..ครูใส่ใจ..ผู้เรียนมีส่วนร่วม..พ่อ-แม่ และชุมชนช่วยเพิ่มคุณค่าการแลกเปลี่ยนเรียนรู้..ต่อยอดสู่สังคมเป็นสุขอย่างยั่งยืน..

 

ผมก็อยากได้อย่างนี้แหละครับ ที่สำคัญ ห้องเรียนนี้ น้ำต้องไม่ท่วมครับ

  • ขอบคุณคุณสันติสุข
  • ผมอยากได้ห้องเรียนแบบนี้เหมือนกันครับ
  • ขอบคุณคุณมะเดื่อมากครับ
  • ที่เข้ามาอ่าน
  • ขอบคุณมากครับ
  • พี่ somsri
  • ห้องเรียนแบบนี้หายากนะครับ
  • ขอบคุณมากครับ
  • อาจารย์นุ
  • ห้องเรียนบ้านของอาจารย์ก็น่าสนใจ
  • homeschool บ้านเรามีน้อยนะครับ
  • นมัสการท่านธรรมะหรรษา
  • ห้องเรียนของท่านที่มหาจุฬาฯก็น่าสนใจ
  • สนับสนุนห้องเรียนดีๆนะครับ
  • ขอบคุณคุณเจน
  • ตอนผมเรียนในสมัยเด็กๆก็ได้ปลูกผัก
  • ลงมือทำจริง
  • ปัจจุบัน
  • เด็กๆแทบไม่ได้เรียนแบบลงมือทำเลยครับ

มาเชียร์ให้กำลังใจครับ ห้องเรียนในความจริงของอาจารย์นี่สุดยอดมากครับ เอาทุกข้อรวมกันรับรองว่าผู้เรียนเป็นสุขในการเรียนแน่นอนสุดๆ เลยครับ

  • ขอบคุณคุณแว่นธรรมทอง
  • สบายดีไหม
  • ห้องเรียนถ้ามีครูใจดี
  • ใครก็อยากเรียนครับ
  • ขอบคุณพี่ครูพิสูจน์
  • น้ำท่วมไหมครับที่บางลี่
  • ตอนนี้ที่มหาวิทยาลัยฝนหยุดแล้ว
  • ปิดเทอมเมื่อไรครับ
  • ขอบคุณพี่ณัฐรดา
  • ที่เข้ามาอ่าน
  • ขอแสดงความยินดีกับใบประกาศบาลีด้วยครับ
  • ขอบคุณอาจารย์ประถม
  • ห้องเรียนที่บ้านอาจารย์ก็น่าสนใจ
  • สบายดีไหม
  • ฝนตกหนักไหมครับ
  • ขอบคุณพี่ใหญ่
  • ตอนนี้ที่กำแงแสน
  • ฝนหยุดแล้ว
  • แต่ว่ท้องฟ้ามืดครึ้ม
  • อยากเห็นห้องเรียนที่ร่วมกันระหว่างผู้ปกครองและครูครับ

เข้ามาชมห้องเรียนในฝัน ค่ะ น่าสนุก และมีความสุขในการเรียนมาเลยค่ะ

รู้สึกว่าบันทึกเรื่องห้องเรียนของหนู จะตรงกับข้อ3 ของอาจารย์นะคะ

บันทึกนี้ของอาจารย์ครอบคลุมทุกหัวข้อเลยค่ะ

.ไม่จำเป็นที่ต้องมีอาคารเรียนแบบเป็นทางการ เรียนที่ไหน ก็ได้ เช่นในทุ่งนา ป่า เขา ชุมชนหรือได้เรียนจากสถานที่จริง ได้ลงมือปฏิบัติจากเรื่องที่เรียนจริงๆเช่นเรียนเรื่องแมลงก็ได้ดูแมลงจริง ได้สัมผัส ได้จับแมลงตัวเป็นๆ

ผู้เรียนไม่ลืมรากเหง้าหรือกำพืดของตนเอง มีความภาคภูมิใจในท้องถิ่นของ ตนเอง มีความสำนึกในการตอบแทนโดยการทำความดีให้ท้องถิ่นของตนเอง

การเรียนรู้ร่วมกัน ระหว่างพ่อแม่ ผู้ปกครอง นักเรียน มีผู้เรียนหลายวัย เรียนรู้ร่วมกัน เรียนรู้ที่จะทำความดีร่วมกัน มีจิตอาสาร่วมกันครอบครัวมีการเรียนรู้ร่วมกัน ครอบครัวจะได้อบอุ่น

มันเป็นความสุขของการเรียนรู้

แนวคิดของท่านอาจารย์น่าสนใจครับ

แนวคิดคล้าย ๆ กับท่านรพินทรนาถ ฐากูร ที่มองการเรียนการสอนนั้น ไม่ควรที่จะต้องจำกัดไว้เพียงแค่ภายในอาคารหรือห้องสี่เหลี่ยมเท่านั้น ท่านจึงได้สร้างเรียนขึ้น ชื่อว่า ศานตินิเกตัน ปัจจุบันเป็นหมาวิทยาลัย วิศวภารตี โดยมีการเรียนการสอนที่แน่นการอยู่กับธรรมชาตินะครับ และมีการเรียนการสอนที่แตกต่างไปจากที่อื่น นักศึกษาสามารถที่จะเรียนวิชาใดก่อนก็ได้ แต่จะต้องเรียนภายในวันนั้น ก็เป็นหลักคิดที่ทำให้คนที่ไม่ชอบวิชานี้ตอนเช้า...ก็สามารถที่จะมาเรียนได้ตอนบ่าย และเรียนรู้ไปกับชีวิตจริงด้วยกับธรรมชาติ

ดีครับ..ชอบ...แต่ก็คงอยู่ในฝันจริง ๆ ก้ได้นะครับในประเทศไทย เพราะวุฒิก็ยังเป็นเรื่องสำคัญมากกว่าจิตใจอยู่ บางที่เรียน ม.๓ ก็สามารถเรียนปริญญาตรีไปด้วยได้ บางที่เรียนตรีและโทไปพร้อมกันได้ คงไม่มีความสุขนะครับ

ถ้าเป็นโรงเรียนของอาจารย์นักเรียนคงจะเยอะดีนะครับ

เจริญพร อ.ขจิต

อาตมาเคยอ่านหนังสือที่กระทรวงศึกษาตีพิมพ์เมื่อกว่าสิบปีที่แล้ว ตอนนั้นฮือฮากันทั้งประเทศ แต่ไม่ทราบว่ามีใครติดตามผลหรือไม่ว่า ผลจากหนังสือเล่มนั้นนอกจากคนอ่านได้ฝันร่วมกันแล้ว มีอะไรที่เดินออกมาจากหนังสือเป็นรูปธรรมที่เราสามารถจับต้องได้บ้าง หรือว่าเราก็อยู่ในฝันกันมาตลอดเพราะหนังสือเล่มนั้นมีชื่อว่า "ฝันของแผ่นดิน"

ตามหลักจิตวิทยาชาวบ้านก็คือ "เมื่อความจริงไม่มี เราก็ฝันไปก่อน เพื่อให้ชีวิตมีความหวัง" ละครประเภทห่างไกลจากชีวิตจริง เรตติ้งคนดูจะสูง โฆษณาเพียบ และแน่นอนยุงชุม !

ไหนๆ เราก็อยู่ร่วมแผ่นดินเดียวกันแล้ว จึงขอร่วมฝันกับ อ.ขจิตและนักฝันชาว Gotoknow ทุกๆ ท่านด้วยอีกคน

ÄÄÄ..สวัสดีค่ะ..ท่านอาจารย์ ขจิต..(ถ้า..ข้อเขียนของท่าน..มีคะแแนนให้..ก็ให้เกินร้อยจ้ะ บวกๆๆๆ)และไม่อยากให้เป็นเพียงฝัน..ที่อยู่กับความจริงในความเป็นอยู่เรียนรู้...รางวัล..ไอเพด..ถ้า..ยายธีได้เป็นกรรมการ..ไม่ติดสินบนนะ..อ่านจบ..ยกให้..ไปเลย..ผ่านตลอด..อิอิ..ดีมากๆๆๆๆเจ้าค่ะ..ข้อเขียนของท่าน..คิดว่ามันออกมาจากใจ..จริง..).(ยายธี)

มีอยู่หลายข้อที่ตรงกับใจและอยากเขียนอยู่แล้ว

แต่ติดที่ขี้เกียจนี่แหละ.....ขอยาขยันหน่อยน้องจิตอาสา

บันทึกของน้องจุดประกายไฟเกือบติดแล้วล่ะ

ชอบมากค่ะ กำลังทำห้องเรียนแบบนี้ในรพ. แต่ผู้ป่วยแต่ละรอบที่เข้ามาเรียนรู้นั้นมากจริงๆ ขอบคุณค่ะ

ยอดเยี่ยมเลยครับ ตรงใจผม

  • ๙ ข้อ ไม่มากหรอก ถูกใจ ตรงใจและ... เลขสวยซ๊ะด้วย ฮ่าๆๆๆ
  • ขอบคุณครับอาจารย์>>สำหรับแนวคิดห้องเรียนในฝันอยากให้ฝันอาจารย์เป็นจริงครับ

ห้องเรียน น่าจะมีครูหน้าตาดี อิอิ

ตรงทุกข้อค่ะอาจารย์ ถ้าได้ร่วมเรียนด้วยกันแบบนี้คงมีความสุขมากนะคะ

  • ทุกข้อถูกใจและตรงประเด็น
  • ห้องเรียนดีต้องมีรอยยิ้มฮ่าๆๆๆ

ห้องเรียนในฝันเลยค่ะอาจารย์ ^---------<

ตรงกับความต้องการค่ะขอให้ห้องเรียนในฝันขยายพื้นที่ให้มากขึ้นค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท