มีความรู้เกี่ยวกับโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังหรือ COPD มาบอก

  ตอนนี้ที่บ้านผมคุณพ่อผมกำลังป่วยด้วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรั้งครับ ตอนแรกผมคิดว่าคุณพ่อเป็นแค่โรคหอบหืด แต่คุณหมอให้ทำการตรวจสมรรถภาพปอดครับ เลยทราบแน่ชัดว่าเป็นโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง ผมเลยลองหาเรื่องโรคปอดอุดกั้นเรื้อรั้งอ่านจากในเน็ตครับ ผมค่อนข้างตกใจเพราะไปผมไปเจองานสำรวจชิ้นหนึ่ง ที่ชื่อว่า EPIC Asia survey ในนั้นเค้าบอก ชาวไทยอายุมากกว่า 40 ปี ป่วยเป็นโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง ประมาณ ร้อยละ 5 องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ประมาณการว่ามีผู้ป่วยจากโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังอยู่กว่า 65 ล้านคนทั่วโลก ปัจจุบัน โรคปอดอุดกั้นเรื้อรังถือเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับที่ 5 ของโลก และอาจขยับขึ้นเป็นอันดับที่ 3 ในปี 2573 อีกด้วย โดยในปี 2548 นั้น มีผู้เสียชีวิตจากโรคนี้ถึง 3 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 5 ของจำนวนผู้เสียชีวิตรวมทุกสาเหตุทั่วโลก ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลกคาดการณ์ว่าจะมีผู้เสียชีวิตเนื่องจากโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 30 ในอีก 10 ปีข้างหน้า

 

  ส่วนคุณพ่อของผม ปัจจุบันคุณพ่อต้องลาออกจากงานมาอยู่ที่บ้านอย่างเดียวเลยครับ เพราะเมื่อมีอาการกำเริบจะทำให้อาการหายใจติดขัด ไอ และ หายใจลำบาก มีเสียงฟืดฟาดในคอ แถมตอนกลางคืนดึกๆ ยังตื่นขึ้นมาไอ บ้างครับ เห็นแล้วก็สงสารแก ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา คุณพ่อต้องเข้าห้อง ICU บ่อยมากครับ ผมเลยคิดว่างานสำรวจนี้ค่อนข้างมีประโยชน์อยู่ทีเดียวใครสนใจก็เข้าไปอ่านกันได้นะครับที่ http://www.thaihealth.or.th/healthcontent/article/29605 แบบ เต็มๆที่ http://www.thaipr.net/health/418973 หวังว่าจะเป็นประโยชน์แก่ทุกคนนะครับ

 

  ในผลสำรวจเค้ายังบอกเลยครับว่าคนไทยเราเอง กว่า 3 ใน 10 ของผู้ร่วมทำแบบสำรวจไม่มีงานประจำ เนื่องจากไม่สามารถไปทำงานได้อย่างเต็มเวลาเพราะเป็นโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง ครึ่งหนึ่งของผู้ป่วยที่ทำงานประจำต้องลางานติดต่อกันเป็นเวลาหลายวัน และ ในช่วงเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมา พบว่า 1 ใน 4 ของผู้ร่วมทำแบบสอบถาม ต้องเข้าพบแพทย์ในแผนกฉุกเฉินด้วย และมากกว่า 1 ใน 5 ก็ต้องเข้าพบแพทย์แบบฉุกเฉินโดยไม่ได้นัดหมาย

 

  ส่วนใครคิดว่าน่าจะเป็น หรือมีคนที่บ้านน่าจะมีความเสี่ยงเป็น ก็ลองไปปรึกษาคุณหมอ ดูนะครับ  พวกกลุ่มเสี่ยงก็คือคนที่สูบบุหรี่จัด มีอาการไอเรื้อรัง หอบ เหนื่อยง่าย หรือใครมีคนที่บ้านเป็น คุณหมอแนะนำบอกให้เลิกพวกบุหรี่อย่างเด็ดขาดครับ เพื่อไม่ให้ปอดเสื่อมลงไปมากกว่านี้ แถมคุณหมอบอกให้ออกกำลังกายครับเพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพปอดด้วย ปัจจุบันคุณพ่อผมเองแกก็พยายามออกกำลังกายเบาๆ ครับ พวกรำไทเก็ก ยังไงก็ดูแลสุขภาพกันดีๆนะครับ