เรื่องหลงๆ ลืมๆ ได้หน้าลืมหลัง พูดถูก พูดผิด หรือบางทีก็ memory ช๊อต ไปเสียดื้อๆ จำไม่ได้ว่าจะพูดอะไรทำอะไร จนทำให้กลายเป็นเรื่องโจ๊กประจำกลุ่มที่เก็บมาเผากันกี่ครั้งกี่หน ก็ยังขำกันได้ไม่หยุดหย่อน อาการเอ๋อๆ แบบนี้น่าจะมีหลายๆคนที่เป็นอย่างเรา.....จิงป่ะ (ขำๆ)
ในหมู่เพื่อนฝูงยกให้เราเป็นสุดยอด คุณนายเอ๋อ แห่งปีไปแล้ว เพราะความที่เป็นคนคิดเร็ว บางทีในขณะที่กำลังทำอะไรอยู่ ในสมองก็คิดเรื่องอื่นล่วงหน้าไปแล้ว เป็นแบบนี้บ่อยๆ จนสติไม่ค่อยจะอยู่กับเนื้อกับตัว (แต่ยังไม่ถึงกับเสียสตินะ ฮาๆ )
ด้วยเหตุนี้เอง จึงกลายเราเป็นคนขี้หลงขี้ลืมสุดฤทธิ์ เช่น เวลาขับรถไปห้างกับเพื่อน เราจะจำที่จอดรถตัวเองไม่ได้เป็นประจำ ว่าจอดไว้แถวโซนไหน
มีครั้งนึงนัดกับเพื่อนว่าจะไปรับที่ห้าง พอจอดรถเสร็จก็เดินดุ่ยๆ เข้าห้างไปหาเพื่อนพอจะเดินกลับมาที่รถ
อ้าว...ตายล่ะหว่า ตะกี้ฉันจอดรถไว้ตรงไหนล่ะเนี่ย
เป็นอันว่าเพื่อนๆต้องช่วยกันเดินหารถเราให้วุ่นไปหมด เฮ้อ...!! จนเดี๋ยวนี้เพื่อนที่ไปด้วยกันมีหน้าที่คอยจำที่จอดรถแทนเราไปเสียแล้ว หรือไม่ก็ ต้องคอยถามเราว่า เธอจำได้รึเปล่าตะกี้จอดรถตรงไหน..เป็นอย่างนี้ประจำ...
ไหนๆก็พูดถึงเรื่องเอ๋อแล้ว ขอแอบเม้าส์เพื่อนรักสักคนที่เรายกให้เรื่องของคุณเธอเป็นสุดยอดอมตะเอ๋อแห่งพุทธศักราชนี้...คุณนายอ้วน
คุณนายอ้วนเป็นเพื่อนสมัยเรียนที่เรายังคบกันอยู่จนถึงทุกวันนี้ มีอยู่ครั้งนึงเรานัดไปเดินช๊อปปิ้งกัน ความที่เราสองคนไม่ได้เจอกันนานแล้ว จึงมีเรื่องมากมายให้เม้าส์กันไม่รู้จักจบ เดินซื้อของไปคุยกันไป จนถึงเวลาต้องแยกย้ายกันกลับ เรายืนที่ป้ายรถเมล์เพื่อรอส่งคุณนายอ้วนขึ้นแท๊กซี่ เพื่อนรักทั้ง 2 ก็ยังไม่หยุดเม้าส์ รถแท๊กซี่เจ้ากรรมก็เข้ามาจอดพอดี
คุณนายอ้วนโบกมือลาเราแล้วก็ตะโกนว่า
"เค้าไปก่อนนะ...เดี๋ยวถึงบ้านแล้วจะโทรหา..."
ว่าแล้วคุณนายอ้วนก็เปิดประตูรถแท๊กซี่ แล้วก็พูดกับคนขับรถด้วยเสียงอันดังว่า
"ฮัลโหล.....??!!" แป่ว..ว..ว..ว..ว!!!!
พอนึกขึ้นได้ว่า นี่มันรถแท๊กซี่นี่หว่า ไม่ใช่เครื่องโทรศัพท์น่ะเว๊ย คุณนายก็อายหน้าแดงรีบปิดประตูรถ แล้วออกมาระเบิดเสียงหัวเราะอยู่ริมถนนเป็นนานสองนาน....
ส่วนพี่คนขับรถแท๊กซี่ก็ได้แต่ "อึ้ง อึ้ง ..!!!???" งง อย่างแรง คงคิดในใจว่า "ยัยคนนี้ มันโบกรถแท๊กซี่ มา say hi !! เท่านั้นเองเหรอว่ะเนี่ย"
---------------------------
เรื่องแบบนี้ฟังกันกี่ครั้งกี่หนก็หัวเราะกันได้ทุกทีไป แต่ถ้าจะให้ดี ก็ไม่น่าปล่อยให้เกิดขึ้นบ่อยๆ เป็นเพราะความที่เราขาดสมาธิ ขาดสติ จิตก็เลยไม่นิ่ง ทำให้คิดนั่นคิดนี่ไปเรื่อยเปื่อย ฟุ้งซ่าน ไม่แน่...ถ้าเป็นแบบนี้บ่อยๆ เดี๋ยวใครๆ จะหาว่า "เสียสติ" ไปแล้วจะยุ่งกันใหญ่...ฮาๆ
---------------------------
เราเองคงต้องหมั่นฝึกฝนตัวเองให้มีสมาธิมากขึ้น เพื่อจะได้มีสติกับสิ่งที่เรากำลังปฏิบัติอยู่ จิตจะได้นิ่ง พอจิตนิ่งสมองก็จะได้ปลอดโปร่งและจดจำสิ่งต่างๆได้ เหมือนที่มีคำกล่าวว่า " สติมา ปัญญาเกิด"
ป้าบวม
ก็เป็นธรรมดาของคนอายุ(เหลือ)น้อย เอ๋อประจำ ส่วนมากจะเป็นเวลาจะออกจากบ้าน
เท่าที่จำได้ล่าสุด lock ประตูบ้านแล้วลืมกุญแจไว้ข้างใน ออกประตูรั้วไม่ได้ โชคดีบ้านแม่อยู่ใกล้กัน ต้องปลุกท่านแต่เช้าขอกุญแจ ม่ายงั้นยังคิดไม่ออกจะลาอะไรดี คงไม่ได้ไปทำงานแน่ๆ
kai angel
พี่ปัทม์