เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2547 ในงานตลาดนัดการจัดการความรู้ “Food Safety” ของกรมส่งเสริมการเกษตร ได้ทำหน้าที่ คือ 1) ประมวลข้อมูลและสรุปบทเรียนจากที่แต่ละกลุ่มนำเสนอเนื้อหาสาระจากนิทรรศการของแต่ละจังหวัดที่ตนเองไปดู และ 2) ดำเนินรายการสัมภาษณ์เจ้าของเนื้อหาแต่ละจังหวัดที่มานำเสนอนิทรรศการของ 18 จังหวัดนำร่อง
จากการทำหน้าที่ดังกล่าวทำให้ดิฉันเกิดข้อสรุปของตนเองในเนื้องานของ “การพัฒนาบุคลากร” จากคำตอบที่มาจากการเล่าและการซักถามเนื้อหาสาระ โดยเฉพาะทุกจังหวัดมีกลุ่มเป้าหมายในการจัดการความรู้ที่เป็นเกษตรกร 100 % ซึ่งเป็นคำตอบของการให้บริการและดูแลลูกค้าหลักให้กับองค์กรที่มาจากอาชีพการเกษตรตามชนิดพืชต่าง ๆ เช่น ข้าว ลองกอง ผัก มะม่วง อื่น ๆ แต่การจัดการความรู้ของตนเองที่เป็นเจ้าหน้าที่นั้นมีค่อนข้างต่ำ จึงเป็นสิ่งที่เราจะต้องมุ่งเน้นและกระทำให้มีเพิ่มขึ้น เพราะมิฉะนั้น เราจะได้จากเกษตรกร มากกว่าเกษตรกรได้จากเรา และเราจะไม่มีอะไรไปแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับเกษตรกร
ส่วนการดำเนินการสัมภาษณ์เจ้าหน้าที่ที่เป็นนักส่งเสริมการเกษตรและเป็นเจ้าของเนื้อหาสาระที่จัดการความรู้และนำผลงานดังกล่าวมาจัดสถานีหรือเป็นร้านค้าต่าง ๆ ให้ผู้สนใจได้จับจ่ายใช้สอยกันอยู่นั้นทำให้ดิฉันได้ข้อสรุปในการพัฒนาเจ้าหน้าที่ในการทำงานส่งเสริมกับเกษตรกรที่ว่า
1) ขณะนี้นักส่งเสริมการเกษตรกลุ่มนี้ “รู้วิธีการค้นหาองค์ความรู้และประสบการณ์จริงที่สั่งสมมาในการทำอาชีพการเกษตรของเกษตรกร”
2) นักส่งเสริมการเกษตรกลุ่มดังกล่าวรู้ช่องทางของการได้มา การใช้ประโยชน์ และการคืนองค์ความรู้ที่ได้มาจากเกษตรกรสู่ชุมชนแล้วว่าควรจะทำอย่างไร
3) นักส่งเสริมการเกษตรมีทักษะเกี่ยวกับ “การจัดเวทีแลกเปลี่ยนองค์ความรู้การเกษตรที่เป็นกระบวนการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม” ซึ่งเป็นฐานในการทำงานส่งเสริมการเกษตรได้4) นักส่งเสริมการเกษตรมีเครือข่ายตัวอย่างเกษตรกรที่ประสบผลสำเร็จในอาชีพการเกษตร และตนเองสามารถนำมาใช้เป็น Best Practice เพื่อขยายการเรียนรู้สู่ชนิดพืชต่าง ๆ ได้
5) องค์กรมีเครือข่ายตัวอย่างเจ้าหน้าที่ในการทำงานส่งเสริมการเกษตรที่เป็น Best Practice ในการพัฒนาบุคลากรตามสมรรถนะต่าง ๆ ได้เห็นเป็นรูปธรรม
ฉะนั้น จากข้อมูลดังกล่าวทำให้ “การจัดการความรู้เป็นทางลัดในการพัฒนาบุคลากรที่เกิดขึ้นจริง” ตามตัวแบบต่าง ๆ ที่มีอยู่และสัมผัสได้ และส่วนหนึ่งกำลังพลของเรามีฐานในการทำงานส่งเสริมการเกษตรที่แบ่งระดับความยาก-ง่าย ได้ การจัดงานและการจัดคนที่เหมาะสมสามารถทำได้ ตลอดจนการยกระดับสมรรถนะของบุคลากร (เจ้าหน้าที่และเกษตรกร) ก็จะเร็วขึ้น ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับการวางเป้าหมายงานว่า “ต้องการอะไร? จริง ๆ” และ “ต้องการคนที่ทำอะไรเป็นบ้าง? จำนวนเท่าไหร่” เท่านั้นเอง.