วิชา Human-Computer Interaction
โดยมีเนื้อหาหนักไปทางการออกแบบและพัฒนาระบบ เช่น Usability engineering, Human information processing, HCI Research methodologies, Agile user-centered system development, Requirement gathering & analysis, Interface design, Information architecture design, HTML & CSS, Usability testing, Online communities, E-marketing & SEO
ระดับชั้นที่สอน
นักศึกษามหาวิทยาลัยชั้นปีที่ 3-4 คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
จำนวนนักเรียนในชั้น
74 คน
เทคโนโลยีสารสนเทศที่นำมาใช้
http://ClassStart.org
บทบาทความรับผิดชอบของครูผู้สอนทั้งทางออนไลน์และในชั้นเรียน
ดิฉันใช้ ClassStart ในการทำ Flipped Classroom หรือห้องเรียนกลับทางที่ทำให้การ lecture ในชั้นเรียนลดลงแต่สามารถพูดคุยแลกเปลี่ยนกับนักเรียนในชั้นเรียนได้มากขึ้น ไม่ใช่เน้นสอนแต่เฉพาะทางออนไลน์เพียงอย่างเดียวนะคะ
“สอนให้น้อย เพื่อให้นักเรียนเรียนรู้ให้มาก” เป็นปรัชญาการสอนที่อาจจะเข้าใจผิดได้ง่ายนะคะ เพราะบางคนก็อาจคิดไปว่าสอนให้น้อยลงหรือแทบจะไม่ต้องสอน แล้วมอบหมายให้นักเรียนทำแบบฝึกหัดแะอ่านหนังสือเองเท่านั้น
อันที่จริงแล้วการสอนให้น้อย หมายถึงว่า ครูจะใช้เวลาในการสอนในชั้นเรียนลดลง โดยจะนำเวลาที่เหลือมาใช้ในการกระตุ้นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในชั้นเรียนเพื่อให้นักเรียนเกิดทักษะในการตั้งโจทย์ การคิดวิเคราะห์ การสื่อสารพูดคุย หรือทักษะอื่นๆ ที่จำเป็นต่อการเรียนรู้ค่ะ
ความรับผิดชอบของครูนั้นมีมากกว่าการสอนแบบเดิมๆ นะคะ คือ
ปัญหาและอุปสรรคที่เกิดขึ้นจากการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในชั้นเรียน
ด้วยขนาดชั้นเรียนจำนวนกว่า 70 คน จึงทำให้การ Flipped Classroom ในครั้งนี้ทำได้ลำบากมากค่ะ การดูแลเอาใจใส่นักเรียนให้อ่านหนังสือหรือดู VDO Clip มาก่อนล่วงหน้าทำได้ยากค่ะ
และเนื่องจากเอกสารทั้งหมดเป็นภาษาอังกฤษจึงเป็นปัญหาที่สำคัญอย่างยิ่งต่อการเรียนรู้ค่ะ ถ้าเทียบดูแล้วจากที่ผ่านมาก่อนหน้าที่จะ ดิฉันคิดว่าดิฉันสอนลดลงไปมากพอสมควร เหลือประมาณ 65-70%
การกระตุ้นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ของผู้เรียนทั้งทางออนไลน์และในชั้นเรียน
ดิฉันใช้กลวิธีที่สำคัญ 3 อย่างคือ
- พยายามให้นักเรียนถามตอบในชั้นเรียน และเก็บเป็นคะแนนเก็บ โดยนักเรียนจะต้องเข้าไปใน ClassStart เพื่อบันทึกผลการถามตอบของตนเองไว้ด้วยค่ะ ซึ่งอาจารย์จะให้คะแนนผ่านระบบได้ทันทีค่ะ
- ให้นักเรียนเขียนบันทึกการเรียนรู้ (Reflextive Journal) เพื่อนๆ เมื่ออ่านแล้วสามารถกด like ได้ อาจารย์ก็กด like ได้ แต่เนื่องจากยังไม่ได้ทำระบบ comment บันทึกการเรียนรู้ไว้ จึงขาดการแลกเปลี่ยนแบบสองทางไป และพบว่านักเรียนต้องการ Feature นี้มากแสดงว่า นักเรียนมีความสนุกสนานและอยากแลกเปลี่ยนเมื่อได้อ่านบันทึกของเพื่อน
- ให้สอบถามพูดคุยการเรียนได้ผ่านทางเว็บบอร์ด ดิฉันพบว่ากลวิธีนี้ไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร นักศึกษาไม่ค่อยถามผู้สอนหรือเพื่อนๆ ผ่านทางเว็บบอร์ดมากนัก
การติดตามการเรียนรู้ของผู้เรียนทั้งทางออนไลน์และในชั้นเรียน
ดิฉันใช้วิธีการอ่านจากบันทึกการเรียนรู้ และมีการสอบถามเพิ่มเติมก่อนเริ่มชั้นเรียนหรือหลังเลิกเรียนอยู่บ้าง
การประเมินผลการเรียนของผู้เรียนทั้งทางออนไลน์และในชั้นเรียน
10% บันทึกการเรียนรู้
10% ถามตอบในชั้นเรียน และ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางเว็บบอร์ด
30% โครงงาน
25% สอบกลางภาค
25% สอบปลายภาค
ประโยชน์ที่ได้รับจากการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในชั้นเรียน
ดิฉันเองสนุกกับการสอนมากขึ้น ใช้เวลาน้อยลงในการตรวจแบบฝึกหัดให้คะแนน ไม่ต้องหอบหิ้วเอกสารแบบฝึกหัดไปตรวจ ติดตามผลการสอนของตนเองได้ดี รู้ได้ว่านักเรียนเข้าใจสิ่งที่สอนมากน้อยแค่ไหน มีเวลาในการได้พูดคุยกับนักเรียนมากขึ้น สนิทกับนักเรียนมากขึ้น
ส่วนทางผู้เรียนเองนั้น ดิฉันกำลังทำแบบสอบถาม Flipped Classroom ขึ้นมา และเตรียมถามนักเรียนในอาทิตย์หน้าค่ะ ผลเป็นอย่างไรจะแจ้งให้ทราบนะคะ
ขอบคุณค่ะ
อ.จันทวรรณ
เป็นแบบอย่างที่ดีมากเลยค่ะท่าน
น่าจะเสนอให้เป็นนโยบายของ ก.ศึกษาไปเลยนะครับ
สวัสดีค่ะอาจารย์จัน หนูได้รับเงิน 2500 บาทแล้วนะคะ ขอบคุณอาจารย์มากค่ะ กล้วยไข่
ดิฉันรับรางวัล 5,000 บาทแล้วค่ะ ได้เรียนรู้จากอาจารย์เห็นทิศทางมากมาย จึงขออนุญาตนำไปเผยแพร่เพื่อนปริญญาเอก มสธ บริหารการศึกษาค่ะ
ขอบคุณอาจารย์มากนะคะที่ร่วมถ่ายทอดเรื่องราวดีๆ ไว้ใน GotoKnow ค่ะ