ดินแดนเทพนิยาย


ตื่นเช้า แสงสว่างอ่อนๆทะลุหน้าต่างเข้ามา สวยงามมากคะ วันนี้เราจะไปเที่ยวปราสาทอันสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลกกันแล้ว

เคยฝันเอาไว้ว่าอยากใช้ชีวิตบางเสี้ยวบางตอนท่องเที่ยวไปในดินแดนที่ต่างๆ ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะจะว่าไปแล้ว การเดินทางคือการได้เรียนรู้ เรียนรู้จากความหลากหลายของวิถีต่างในโลกนี้

          แม่ต้อยจึงดำเนินชีวิตตามความฝันด้วย ในการทำงานทุกๆครั้งในชีวิตประจำวันก็ต้องเดินทางไปในที่ต่างๆ ตามโรงพยาบาล ในชุมชน ในท้องถิ่น ยิ่งไปมากก้ได้ประสบการณืมากยิ่งขึ้น

“ โครเอเชีย “ เป็นที่แห่งหนึ่งที่แม่ต้อยอยากไปมาก เพราะได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่สวยงาม แม้ว่าจะเป็นประเทศที่เพิ่งเปิดให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสมาไม่นานนักก็ตาม  ดังนั้นเมื่อเพื่อนๆในกลุ่ม ซึ่งมีชื่ออันโก้เก๋ว่า” กลุ่ม เปรี้ยวหวานมันเค็ม” จำนวน ๖ คนได้ชักชวนกันว่า เราจะไปเที่ยวโครเอเชียกัน  การเดินทางของกลุ่มสาววัย พระรามหก จึงได้เริ่มขึ้นอย่างชื่นมื่น

ในกลุ่มที่ไปด้วยกันนี้ มีคนที่สุขภาพเต็มร้อย คือไม่เป็นอะไรเลยพียงคนเดียว นอกจากนั้น ลางคนก็เพิ่งผ่าหัวเขา ลางคนก็กระดูกเท้าแพลง ลางคนก็เดินเป๋ไปเป๋มา ดังเช่นแม่ต้อยเป็นต้น อิอิ

แต่พอมาร่วมเดินทางด้วยกัน อาการที่ว่าก็หายเป็นปลิดทิ้งราวกับยาวิเศษทีเดียวเชียว

เราเดินทางยาว ไปที่กรุงเวียนนา เลย แวะเปลี่ยนเครื่องที่DOHA เมืองการ์ต้า ประมาณ สองชั่วโมง อากาศที่นั่นร้อนระอุ จากลมที่ผ่านทะเลทรายมา สัมผัสผิวกายยามเรานั่งรถผ่านเข้าไปที่ในตึกเพื่อเปลี่ยนเครื่อง   แม้กระนั้น แม่ต้อยยังสามารถนั่งหลับตาได้ แม้ในขณะรถวิ่ง( ก็มันดึกมากแล้วตอนนั้น อิอิ)

เมื่อถึงเวียนนา เรามีรถบัสขนาดใหญ่เป็นของตัวเอง สำหรับกลุ่ม” เปรี้ยวหวานมันเค็มนี้”

ทุกคนจะมีลักษณะประจำตัว ของตนเองว่าใคร เปรี้ยว ใครหวาน ใครเค็ม หรือใคร มันๆ

อยากให้เดากันเสียจริงว่าแม่ต้อยนี่อยุ่ในข้อใด อิอิ

เพื่อให้ดูดี เราจึงผลัดเปลี่ยนชุดใหม่ เข้าเข้ากับบรรยากาศกรุงเวียนนาอันแสนโรแมนติค ในห้องน้ำที่สนามบิน นั่นแหละ  ดื่มกาแฟร้อน หอมกรุ่น ล้างหน้า แต่งหน้าจนสวยเช้งกระเด้ะออกมา เป็นแถว

เพื่อที่จะมานั่งหลับ บนรถจนถึงเมือง GRAZ   ฮ่าๆๆ 

เมืองนี้อยู่ทางตอนใต้ของออสเตรีย เป็นเมืองประวัติศาสตร์ และขนาดใหย่เป้นอันดับที่สอง รองจากเวียนนา เมืองนี้มีมหาวิทยาลัยมากมาย ราวกับเป็นเมืองของนักศึกษา  สิ่งก่อสร้างและสถาปัยตยกรรมหลายแห่งได้รับการยกให้เป็นมรดกโลก เนื่องจากการได้รับการดูแลอย่างดี

เราได้เดินในเมืองเก่า หรือ Old town ที่มีหอนาฬิกาเป็นสัญลักษณ์ ในเมืองเก่า ยังคงมีบ้านเรือนในยุคโบราณ หรือปราสาทที่พักผ่อนของราชสำนักยุโรป ให้ผู้คนได้เข้ามาสัมผัส กลิ่นอาย

พวกเราเดินเล่นอย่างสบายใจ และไม่รีบร้อนที่จะเดินทาง จึงมีเวลามากพอที่จะแวะไปชมสิ่งของสวยงามต่างๆข้างถนน  แฮ่ๆๆ  แต่แม่ต้อยว่าของทุกอย่างแพงระยับ สุ้เมืองไทยไม่ได้เลย ขอรับประกันเลยละคะ

เรานั่งรถต่อไปอีกจนเข้าเขตประเทศสโลเวเนีย ที่เมือง เบลด

 เบลด (Bled) เป็นเมืองริมเทือกเขาแอลป์จูเลียน เป็นทะเลสาบที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในประเทศสโลเวเนีย ตัวทะเลสาบเกิดจากการกัดเซาะของธารน้ำแข็งโบฮินจ์ (Bohinj Glacier)ในยุคน้ำแข็ง แต่ที่แปลกกว่าที่อื่นก็คือ น้ำในทะเลสาบ ไม่ได้มาจากการละลายของธารน้ำแข็ง แต่ได้น้ำมาจากบ่อน้ำร้อนใต้ดินหลายแห่ง น้ำในทะเลสาบนี้จึงใสบริสุทธิ์ และไม่กลายเป็นน้ำแข็งในฤดูหนาว ทะเลสาบถูกล้อมรอบไปด้วยป่าทึบ ทำให้ทะเลสาบนี้งดงามยิ่ง

      โรงแรมที่เราพักอยุ่ริมทะเลสาบนี่แหละคะ แต่ว่าเจ้าประคุณเอ๋ย นั่งเครื่องบินมาสิบกว่าชั่วโมง

และนั่งรถบัสมาอีกทั้งวัน  ดังนั้นหลัง อาหารเย็นอันสุดแสนจะอร่อย แม่ต้อยก็หัวถึงหมอน หลับใหลอย่างมีความสุขภายใต้ห้องพักอันน่ารักนั่นเอง

     ตื่นเช้า แสงสว่างอ่อนๆทะลุหน้าต่างเข้ามา สวยงามมากคะ วันนี้เราจะไปเที่ยวปราสาทอันสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลกกันแล้ว

เรานั่งรถสักไม่กี่นาทีก็ถึงปราสาทแล้ว แม่ต้อยนึกจินตนาการย้อนไปไกลสักสามสี่ร้อยปี ว่าเจ้าของปราสาทหลังนี้ คงเป็นดยุค องค์ใดองค์หนึ่ง ควบม้ามาไกลแสนไกล และเพื่อมาพักหรือมาจัดงานเลี้ยงรับรองต่างๆ ณ ที่แห่งนี้  แม่ต้อยนึกขำในใจกับความคิดของตนเองเมื่อค่อยๆเดินขึ้นบันไดอันสูงชันไปบนปราสาทอันงามยิ่งนี้

     ปราสาทเบลด (Bled Castle) ตั้งอยู่บนริมผาติดทะเลสาบ เป็นปราสาทที่เก่าแก่ที่สุดในสโลเวเนีย จักรพรรดิ์เฮนริค ที่ 2 แห่งเยอรมัน ยกให้เป็น   สถานที่พักของบิชอป อัลเบี่ยม แห่งบริเซน (Bishop Albium of  Brixen) ในปี ค.ศ.1004 มีการก่อสร้างต่อเติมติดต่อกันมาหลายยุค ดังเห็นได้จากอาคารแบบโรมัน ต่อมาด้วยโบสถ์อัสสัมชันในรูปแบบกอธิค  สวยงามจริงๆ คะ

บนปราสาท มีลานหินกว้างขวางเหมาะสำหรับการจัดงานเลี้ยง  แม่ต้อยกระซิบกับเพื่อนว่า

“ ดูสิ  หากมีงานเลี้ยงบนลานนี้คงเต็มไปด้วย เหล่าอัศวินนักรบ และดัสเชส แสนสวยนะ”

เพื่อนแม่ต้อย หันมาขำ และบอกว่า “ เออ  เธอน่าจะเพี้ยน  “

ภายในปราสาท ซึ่งตั้งบนริมผา แม่ต้อยชะโงกออกมาจากห้องหนึ่ง คงจะเป็นห้องนอน แน่ๆ แต่ปัจจุบัน ปรับเป็นห้องสำหรับของที่ระลึก แม่ต้อยเห็นภาพสวยสุดใจ เป็นทะเลสาบสีฟ้าใสแจ๋ว  ตัดกับเมฆสีขาวลอยนุมนวลบนท้องฟ้า มีโบสถ์กลางน้ำ เด่นเป็นสง่า สวยงามมากๆคะ

     สักพัก เราลงจากปราสาท นั่งเรือแจวโดยสารถีหนุ่มรูปหล่อ เพื่อข้ามไปยังโบสถืแสนสวยลอยกลางน้ำ

 

ราวกับภาพฝัน โบสถ์ที่เล็กๆเมื่อสักครู่ค่อยๆขยาย ใหญ่ขึ้นจนเห็นชัดเต็มตา ท่ามกลางความสงบของทะเลสาบ โบสถ์แห่งนี้คือตำนานเก่าแก่ของคนที่นี่โดยแท้ ชาวบ้านจะมาทำบุย และจัดงานต่างๆที่โบสถ์ แห่งนี้  เช่นงานแต่งงาน ที่เขาจะวัดใจเจ้าบ่าว โดยการให้อุ้มเจ้าสาวขึ้นบันไดที่มีจำนวนขั้นมากมาย

แม่ต้อยว่าดินแดนแห่งนี้ คล้ายๆกับ ดินแดนของนิยายปรัมปรา ไม่ว่าจะเป็นปราสาท ริมหน้าผา โบสถ์อันงดงามราวเทพนิยาย

สิ่งเหล่านี้ทำให้การเดินทางในวันแรกของแม่ต้อย แสนจะคุ้มค่าเป้นอย่างยิ่ง

เรายังได้มีโอกาสเข้าเยี่ยมชมวิลล่าของท่านปรานาธิบดี ตีโต้ ผู้โด่งดังของยูดกสลาเวียก่อนแยกประเทศ อีกด้วย  ช่างหรูหรา น่าเข้าพักแรมอีกสักคืน น่าจะดีทีเดียว

ดูเหมือนว่าความเหนื่อยล้าของแม่ต้อยจากการเดินทางได้มลายหายไปหมดสิ้น จากความงามที่สัมผัสได้  แค่ในวันแรก

แม่ต้อยคงจะมีเวลามาเล่าให้ฟังอีกนะคะ  สำหรับการแวะเที่ยวในเมืองต่างๆ นับจากนี้ต่อไป

วันนี้ขอเล่าเพียงเท่านี้นะคะ

สวัสดีคะ

และขอขอบคุณภาพสวยๆจากGoogle นะคะ

กำลังจะย้ายภาพที่ถ่ายเองมาลงคะ

 

 

 

 

 

 

 

 

คำสำคัญ (Tags): #bled
หมายเลขบันทึก: 502443เขียนเมื่อ 16 กันยายน 2012 17:06 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 กันยายน 2012 18:21 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

สวยมากคะแม่ต้อย เหมือนเมืองเทพนิยายเลยคะ ขอบคุณนะคะที่นำมาแบ่งปันให้ได้ชม

สวยมากค่ะ แม่ต้อย

เหมือนดินแดนในเทพนิยายจริงๆค่ะ

สวยงามจริงๆๆ ค่ะแม่ต้อย ... เหมืนแดนนวิมาน......ชั้นน สูง ขอบคุณบทความดีดีนี้ค่ะ

บรรยากาศน่าไปจังค่ะแม่ต้อย

 

ภาพสวยมากค่ะแม่ต้อย แต่หนูเวียนหัวกับตัวชี้เมาส์ค่ะ

สวัสดีคะ

ตัวชี้เม้าคืออะไรคะ

ต้องขออภัยจริงๆคะ จะได้แก้ไขนะคะ

ขอบคุณมากๆคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท