วันที่ 3 ต.ค. ที่ผ่านมา หลังจากที่ดิฉันได้ทาบทาม ขุนพลคู่ใจ จำนวน 3 ท่าน เพื่อเป็นรองคณบดี 3 ฝ่าย คือ ฝ่ายวิชาการ (ผศ.ปนดา เตชทรัพย์อมร) ฝ่ายวิจัยและประกันคุณภาพ (ดร.ศิริลักษณ์ ธีระภูธร) และฝ่ายกิจการนิสิต (อ.นพดล จำรูญ) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดิฉันได้เรียนเชิญท่านรองฯ ทั้ง 3 พร้อมด้วยรองคณบดีท่านเดิม 2 ท่าน(อ.สราวุธ คำปวน) และ อ. สมภิยา สมถวิล ผู้ซึ่งกำลังจะไปศึกษาต่อปริญญาเอก) มาร่วมกันปรับโครงสร้างการบริหาร และกำหนดขอบข่ายงานงานบริหารของรองฯแต่ละฝ่าย เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการทำงานของทุกฝ่าย
พอวันที่ 4 ต.ค. ดิฉันก็ได้เชิญบุคลากรทุกคนของคณะ ให้มาร่วมรับฟังภาพหมายในอนาคต (Vision) ของคณะสหเวชศาสตร์ที่ดิฉันวาดฝันไว้ และอยากให้ประชาคมช่วยสานฝันให้เป็นจริงตลอดจนนำเสนอพันธกิจ เป้าประสงค์ ยุทธศาสตร์ ค่านิยมร่วม และนโยบายสำคัญๆ โดยขยายความให้แจ่มแจ้งมากกว่าเมื่อตอนที่ดิฉันไปให้คำมั่นกับท่านผู้บริหารสูงสุดของสถาบัน ทั้งนี้ก็เพื่อให้ทิศทางของคณะฯ มีความชัดเจน และบุคลากรทุกคนเข้าใจตรงกัน ดิฉันไม่ได้ใช้เวลาในการอธิบายมากนัก เพื่อเปิดโอกาสให้ท่านรองฯ แนะนำตัว และแสดงวิสัยทัศน์ของท่านเองด้วย หลังจากนั้นก็เปิดโอกาสให้บุคลากรทุกคนซักถาม ปรากฎว่า หลายท่านให้ความสนใจไถ่ถามข้อปัญหา ตลอดจนเสนอแนะข้อคิดเห็นมากมาย โดยเฉพาะในเรื่องวิจัย ซึ่งทำให้ดิฉันมีพลังใจในการทำงานเป็นอย่างมาก
ถัดมาในวันที่ 5 ต.ค. ดิฉันเรียกประชุมกลุ่มบุคลากรสายสนับสนุนทุกคน เพื่อชี้แจงนโยบายและแนวปฏิบัติในการจัดทำเอกสารอธิบายลักษณะงาน (Job Description) โดยเริ่มด้วยการชี้แจงวัตถุประสงค์ให้ทราบก่อนว่า การทำ JD ก็เพื่อให้ผู้ดำรงตำแหน่งได้ทราบขอบเขตความรับผิดชอบและหน้าที่ที่ตนจะต้องปฏิบัติ ตลอดจนเพื่อใช้ประโยชน์จากข้อมูลในการบริหารทรัพยากรบุคคลด้านต่างๆ แล้วก็เริ่มแจกแบบสอบถามลักษณะงานให้ทุกคนกรอก โดยกำหนดวันส่งคืน เพื่อให้งานบุคคลนำมาวิเคราะห์และร่างเอกสารอธิบายลักษณะงานกลับไปให้พิจารณากันอีกครั้ง
วันนี้ วันที่ 6 ต.ค. ดิฉันเริ่มลงรายละเอียดของงานแต่ละด้าน เช่น การแต่งตั้ง และมอบหมายงานกรรมการฝ่ายต่างๆ ที่จะเป็นกลไกในการขับเคลื่อนการดำเนินงานของท่านรองฯ และยังได้เชิญ ดร.สุรพล ตั้งวรสิทธิชัย เป็นผู้ช่วยคณบดีฝ่ายสหเวชศาสตร์ชุมชนอีกตำแหน่งหนึ่งด้วย โดยท่านรับภาระหนักถึง 3 ด้าน ได้แก่ ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพชุมชน Mobile Unit และวิทยุสหเวชเพื่อชุมชน
มีงานอีกหลายอย่างที่ดิฉันต้องปฏิบัติและเรียนรู้ไปพร้อมกัน กว่าจะสามารถกล่าวได้อย่างท่านคณบดีคณะศึกษาศาสตร์ ท่านอาจารย์สมบัติ (รองศาสตราจารย์ ดร. สมบัติ นพรัก) ได้ว่า การบริหารไม่ยากอย่างที่คิด คงใช้เวลาและการเดินทางอีกหลายหมื่นลี้
อย่างไรก็ตาม ดิฉันรู้สึกมั่นใจในท่านขุนพลทั้ง 4 ท่านของคณะสหเวชศาสตร์ ที่ต่างพร้อมสู้ศึกด้วยพลังที่เต็มเปี่ยม
ขอเป็นกำลังใจให้อาจารย์มาลินี (แม่ทัพ) พร้อมด้วยขุนพลคู่ใจทุกท่าน สู้ สู้ นะคะ
กราบขอบพระคุณท่านคณบดี อ.สมบัติ ที่ดิฉันเคารพรัก เป็นอย่างสูง ดิฉันแอบเดินตามหลังอาจารย์เรื่อยมา ทางที่เดินจึงราบเรียบ มีแถวมีแนวให้ติดตามได้โดยไม่ยากนัก ด้วยกำลังใจที่อาจารย์มอบให้ ดิฉันจะพยายามทำให้ดีสุดเท่าที่กำลังสติปัญญาดิฉันจะทำได้ค่ะ