"ปักดำที่นา แกร่งกล้าที่ใจ"


“ต้นไม้ไม่ว่าเราจะปลูกมันกี่ต้น เป็นผืนป่า ต้นไม้มันไม่เคยทะเลาะกัน มีแต่ผู้คนที่คอยแต่จะทะเลาะกัน แก่งแย่งแข่งขันกัน ไม่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กัน เห็นใจกัน มีน้ำใจต่อกัน สิ่งสำคัญของการอยู่ร่วมกันในสังคม คือ คุณงามความดีที่คอยช่วยเหลือเกื้อกูลกัน...จะช่วยให้เราอยู่อย่างปลอดภัยและมีความสุข บนพื้นฐานของการดำเนินชีวิตบนวิถีเศรษฐกิจพอเพียง “

ปักดำที่นาแกร่งกล้าที่ใจ

แรงบันดาลใจ  จากธรณี  นี่  นี้  ใครครอง....

                เปิดเรียนมาได้เกือบสองเดือนแล้ว......สำหรับภาคเรียนแรกของปีการศึกษานี้....

                                       "ถอนกล้า"

กิจกรรม   “ปักดำที่นา  แกร่งกล้าที่ใจ”   เกิดขึ้น...เพื่อเติมพลังกายใจให้กับครูและนักเรียน  เติมเชื้อไฟ...ให้ลุกโหมขึ้นอีกครา...ก่อนจะมอดดับไป...หลังจากกลับจากกิจกรรมค่ายนักเรียนแกนนำ  ที่สวนป่า  มหาชีวาลัยอีสาน  ของพ่อครูบาสุทธินันท์   

                การจัดกิจกรรมแต่ละครั้งคำนึงถึงผลที่จะเกิดกับลูกๆของเราเป็นหลัก...เป็นการทำงานเพื่องาน  เพื่อตอบสนองจิตวิญญาณของตนเองด้วยประการหนึ่ง....ไม่ให้เลือนหายไปตามกลไกทางสังคม...เพื่อพัฒนาลูกๆทั้งด้านความคิดและจิตใจ ตลอดจนพัฒนาทักษะชีวิต..ที่มีมากกว่าและให้บทเรียนที่แปลกใหม่มากกว่าห้องเรียนสี่เหลี่ยมแคบๆที่แน่อัดเป็นปลากระป๋อง...กับจำนวนนักเรียนต่อห้องที่มากถึง  50  คน

                                 "รวมพลังต้นกล้า "

            กิจกรรมครั้งนี้...คงเหมือนกับหลายกิจกรรมที่แหวกแนวของฉันออกมาเช่นทุกๆครั้ง....มองตรงๆ....ไม่มีตรงไหนที่เกี่ยวกับวิชาคณิตศาสตร์เลย....ครั้งนี้ก็เช่นกัน  “ ไปดำนา  เกี่ยวกับคณิตศาสตร์ด้วยเหรอ?   อิอิ   “อ่อ ไม่เกี่ยวโดยตรงค่ะ  แต่การสอนคนให้เป็นคนดี  เป็นหน้าที่ของครูทุกคน  ทุกวิชาทุกสาระไม่ใช่หรือคะ”   หากจะมองให้เป็นคณิตศาสตร์ก็ย่อมทำได้...ขึ้นอยู่กับว่า...เราจะเอาเกณฑ์อะไรมาจับ...แต่สำหรับฉัน...ฉัน  “ เอาใจมาจับ”  เพื่อ “ ให้ใจได้สื่อถึงใจ”  เพราะฉันเชื่อว่า...คนเราจะสามารถสัมผัสได้เองถึงใจบริสุทธิ์ที่มีแต่ความรักและปรารถนาดีต่อกัน....

                กิจกรรมอาสา  ก็ควรเป็นไปตามความต้องการและอาสาสมัครใจ   บางคนมาเพราะตั้งใจมา  บางคนตามเพื่อนมา  บางคนมาเพราะเกรงใจครู   แต่สุดท้ายทุกคนก็ได้มารวมตัวกันทำกิจกรรมร่วมกัน

                เช้าวันเสาร์ ที่  28  กรกฎาคม  2555   กิจกรรมของเราได้เริ่มดำเนินการขึ้น...หลังจากครูสองคนได้สุ่มตามท้องไร่ท้องนา...หาพื้นที่ดำนา...เดชะบุญ...ที่พบแหล่งเรียนรู้ชั้นดีโดยบังเอิญ....พบปราชญ์ผู้พร้อมจะถ่ายทอดบทเรียนชีวิตชาวนา...ผ่านกิจกรรมถอนกล้า  ไถนา  ดำนา  หาปลา ...ที่เด็กชนบทแท้ๆ...แต่หลายคนไม่เคยได้สัมผัส....เพียงเพราะค่านิยมและยุคสมัยเปลี่ยนไป....เพราะพ่อแม่ไม่อยากให้ลูกๆลำบากเฉกเช่นพ่อแม่ที่เป็นชาวนา...ยากจน...ลูกชาวนาบางคนจึงถูกไล่ขึ้นจากท้องนา...เพื่อให้มุ่งหน้าสอบเข้ามหาวิทยาลัย....เช่นก็เป็นลูกชาวนาคนหนึ่ง....แต่ทว่าโชคดีเหลือเกิน...ที่ยังพอมีโอกาสได้สัมผัสบ้าง...เมื่อครั้งเยาว์วัย....

                             "หาบกล้า  โดยใช้ไม้หลาว"

         ทุกวันนี้หายากเต็มที่เพราะส่วนมากชาวบ้านทำนาผายหรือนาหว่าน

              กิจกรรมฐานช่วงเช้า  ละลายพฤติกรรมพี่น้องที่อาสามาหลากหลายตั้งแต่  ม.1  ถึง  ม.6   เด็กๆได้ฝึกปั้นจักรยานพลังน้ำ...เดินทางไกลนิดๆ...ตามชายทุ่งสัมผัสบรรยากาศใบตระไคร้ลิ่วล้อลม...ชวนให้เด็กประทับใจ...กับอากาศเป็นใจที่ไม่ร้อนจนเกินไปนัก....ฝึกเดินข้ามขัว (สะพานไม้ขนาดเล็ก)    ลอดรั้วหนาม...ได้บรรยากาศของการช่วยเหลือเกื้อกูลกัน  ดูแลกันระหว่างพี่น้อง....:) 

                           "คราดนา  เตรียมดิน  สำหรับปักดำ"

                พ่อเชื่อม   บัตรมาตย์    ปราชญ์ผู้ใจดีของเรา...ยินยอมให้เด็กๆมาฝึกดำนา ถอนกล้า ในที่นาของท่าน...ทั้งๆที่นาอาจจะเละก็ได้...แต่พ่อเชื่อมก็ต้อนรับเราด้วยความเต็มใจ....

                พ่อเชื่อม  ให้ความรู้ก่อนลงมือปฏิบัติจริง...

                ถอนกล้า   ต้องกางขายืนให้มั่น...ไม่ให้ล้ม...จับโคนต้นกล้าให้มั่น ถอนยังไม่เก่ง จับทีละน้อย  3-4 `ต้น  พยายามอย่าให้ต้นกล้าขาด  ถอนแล้วตวัดเฉียงตามข้างที่ถนัด   ถอนไปเตะกล้าไป  ให้ดินที่ติดรากกล้าหลุดออกมา  เสร็จแล้วมัดให้เรียบร้อย

                                        "หาบกล้า"

                มัดกล้า   ต้องมัดด้วยตอกไม้ไผ่  เวลาบิดเป็นเกรียว   ต้องบิดจากข้างนอกเข้าข้างในให้ยาว  อย่าบิดเกรียวสั้นๆมัดให้แน่น  ไม่เช่นนั้นตอกจะขาดกล้าจะหลุด

                ดำนา    กางขายืนทรงตัวให้มั่น    แขนซ้ายยื่นออกมา  ทำท่าเหมือนอุ้มลูกน้อย...มีต้นกล้ามัดน้อยๆนอนหงายอยู่บนฝ่ามือ...ตั้งท่าให้มั่น...มือซ้ายกับมือขวาสัมพันธ์กัน...มือขวาหยิบกล้ามาสัก 3 – 4 ต้น  ปักลงไปในดินที่เตรียมไว้แล้ว  ให้ลึกประมาณ  1  องคุลี  ( 1  นิ้วหัวแม่มือ)    เวลาปักดำให้ใช้แค่นิ้วหัวแม่มือกับนิ้วชี้ลง...ไม่เช่นนั้นกล้าจะลอย...

                              "ปักดำที่นา  แกร่งกล้าที่ใจ"

                เวลาผ่านไป...ปักดำนาไปแล้วค่อนวัน....เกือบบ่ายสามโมงพื้นนาไร่นั้นสำเร็จตามเป้าหมาย....ถึงเวลาถอดบทเรียนผ่านกิจกรรมปักดำที่นาแกร่งกล้าที่ใจ....

อาหารกลางวันจากข้าวที่ห่อมาเอง และจากผุ้ใหญ่ใจดีที่ทำมาสนับสนุน และจากปลาที่หาได้เองจากท้องนา

               

                                  "แข่งขันดำนา ตามระดับชั้น"         

                   

                    "รวมพลต้นกล้าอาสา  ปักดำที่นา  แกร่งกล้าที่ใจ"

 

พ่อเชื่อม  ให้ข้อคิดหลักใจ  แก่ลูกๆหลานๆ....

                “พ่อแม่กลัวลูก”  คือ  กลัวลูกลำบาก  กลัวลูกไม่ได้กิน กลัวลูกไม่อิ่ม  กลัวลูกไม่ได้เรียน  ฯลฯ  ดังนั้นๆลูกๆที่ดี ควรกลัวพ่อแม่   กลัวพ่อแม่จะลำบาก  กลัวพ่อแม่เสียใจ   ทำดีให้พ่อแม่ชื่นใจที่มีลูกที่ดี   อย่างน้อยที่สุด คือการตั้งใจเรียน

            “ต้นไม้ไม่ว่าเราจะปลูกมันกี่ต้น เป็นผืนป่า ต้นไม้มันไม่เคยทะเลาะกัน  มีแต่ผู้คนที่คอยแต่จะทะเลาะกัน แก่งแย่งแข่งขันกัน  ไม่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กัน เห็นใจกัน  มีน้ำใจต่อกัน   สิ่งสำคัญของการอยู่ร่วมกันในสังคม  คือ คุณงามความดีที่คอยช่วยเหลือเกื้อกูลกัน...จะช่วยให้เราอยู่อย่างปลอดภัยและมีความสุข บนพื้นฐานของการดำเนินชีวิตบนวิถีเศรษฐกิจพอเพียง  “

             กิจกรรมนี้...นอกจากนักเรียนจะได้เรียนรู้วิธีการดำนาแบบดั้งเดิม  การทำนาแบบเกษตรอินทรีย์แล้ว  การใช้ชีวิตตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง  เรียนรู้โลก เรียนรู้ผู้คน  เรียนรู้การอยู่ร่วมกันในสังคม  เรียนรู้การทำงานเป็นทีมฝึกความอดทน  เสียสละ  รู้จักเห็นใจผู้อื่น  ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน  และไม่ลืมวิถีชีวิตดังเดิมรากเหง้าของบรรพบุรุษ  เรียนรู้ค่าของคน   คุณของแผ่นดิน  และเรียนรู้ทุกข์ของชาวนา  

            ฝึกหลักคิด  สร้างหลักใจ  ผ่านกระบวนการกิจกรรมที่หลากหลายและต่อเนื่อง...การปลูกฝังการสร้างความตระหนักและจิตสำนึกดี...คงต้องใช้เวลาและใช้กำลังใจอย่างมหาศาล...บนเส้นทางของกระแสทุนนิยมรุนแรง...

           ก้าว...ต่อไป...ทุกอย่างก้าว...ขอให้ก้าวเดินอย่างมีสติและมั่นคง...นะคะ...^_^

หมายเลขบันทึก: 497084เขียนเมื่อ 3 สิงหาคม 2012 18:54 น. ()แก้ไขเมื่อ 16 สิงหาคม 2012 23:07 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (22)

อนุโมทนา.. เป็นหนึ่งในบันทึกแง่มุมของประสบการณ์ที่ดีมากๆ ให้คุณค่าและความหมายต่อชีวิต และสังคม:-)

ขอบพระคุณคะพระอาจารย์ ธรรมหรรษา

      ขอบคุณเด็กด้วยค่ะ  ที่ช่วยเติมเชื้อไฟให้หัวใจมีพลัง...ทำต่อไป...:)

ฝึกหลักคิด สร้างหลักใจ ผ่านกระบวนการกิจกรรมที่หลากหลายและต่อเนื่อง

นี้..ใช่เลย กว่าจะตกผลึกต้องใช้เวลาหลายวัน แต่มาแล้วมั่นใจในหลักคิด และจิตอาสาของนักเรียน

มีโอกาสจะแวะไปเติมไฟใส่ฟืน ฟื้นเชื้อ

ขอบคุณคะป๊ะ วอญ่า-ผู้เฒ่า-natachoei

มาตามสัญญา เปิดบันทึก อาจจะนานหน่อยหลังจากห่างหายไปนาน...สู้ๆคะป๊ะ ;)

  "รวมพลต้นกล้าอาสา  ปักดำที่นา  แกร่งกล้าที่ใจ".....ดีใจด้วยที่มี...จิตอาสา...นะคะ....ขอบคุณบทความดีดีนี้นะคะ

โอ้โฮ...แรงบันดาลใจจากธรณี นี่นี้ใครครอง...

ทำให้เกิดการเรียนรู้ด้วยการปฎิบัติจริง

มีผลงานสำเร็จเป็นรูปธรรม

ทุกคนเป็นพระเอก นางเอก ของเรื่องเลยค่ะ

อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ กิจกรรมที่ทำงานกันจริงๆ เหมือนมืออาชีพเลยค่ะ ได้เรียนรู้จากประสบการณ์ตรงจดจำได้ขึ้นใจ และยังได้ความรัก ความสามัคคี

ค่ะพี่ KRUDALA

  วันหนึ่งพี่ในกลุ่มก็เดินมาบอกว่า...น่าจะหาเรื่องทำ...ทำแบบพี่อาทิจดีไหม...คำพูดข้อคิดเขาดีๆ...เด็กเราลูกชาวนาแท้ๆ...ไม่ค่อยได้สัมผัสเท่าที่ควร...ทั้งที่เราก็อยู่ในชนบทกัน...:)  ค่ะ
  • ดูภาพแล้ว
  • น่าสนุกมากๆ
  • อาจารย์หายไปนานมาก
  • สบายดีไหมครับ

สวัสดีคะพี่ Sila Phu-Chaya

      ขอบคุณมากคะ...กิจกรรมหนักๆ...แต่ได้บรรยากาศดีคะ...เด็กก็สนุกและให้ความร่วมมือดีคะ  :)

ชื่นชมกิจกรรมดีๆนี้ค่ะ..ปลูกจิตสำนึกรู้รักสามัคคี..ร่วมคิด..ร่วมทำ..หมั่นฝึกฝนตน..สู่ผลได้ดั่งใจประสงค์..

สวัสดีคะอาจารย์ ขจิต ฝอยทอง

ไม่ได้หายไปไหนหรอกคะ  อิอิ  แค่ไม่ได้เขียนและทิ้งร่องรอยไว้เฉยๆคะ

หายไปทำอะไรหลายอย่างคะ แต่ไม่ได้เขียนบันทึกค่ะ ขอบคุณอาจารย์มากคะที่ยังไม่ลืมกัน...

กิจกรรมแต่ละครั้ง...มันช่วยกระตุ้นแรงกายพลังใจ...ให้มีพลังในการทำการก้าวไปข้างหน้า...เรื่อยๆคะ...

กิจกรรมครั้งนี้สนุกมากคะ...:) ประทับใจเด็กๆและวิทยากรเช่นทุกครั้ง...คงเป็นเพราะทุกครั้งที่ทำกิจกรรมเราลงแรงด้วยหัวใจ

เราจึงมีความสุขกับทุกๆกิจกรรม โดยไม่รู้จักเหน็ดหนื่อยคะ หากจะมีท้อบ้าง...ก็ปล่อยไป...ตามธรรม..._^

-ขอบคุณคะพี่นาง นงนาท สนธิสุวรรณ

          ที่มาส่งกำลังใจให้เทียนน้อยเสมอ  ไม่ว่าจะหายไปจากบันทึกนานเพียงใด  พี่สาวคนดีก็ยังมิลืมเลือน ^_^


สวัสดีปีใหม่นะครับคุณครูเทียนน้อย ครับ

ไปอยู่ในเฟสครับอาจารย์  ป๊ะตามกลับมาในโกทูโนว์ ยังไม่เห็นมาลูกสาวคนนี้

ตามบังมาครับ  ตอนนี้เขียนบันทึกได้หรือยังครับ

เห็นเข้าระบบได้แล้ว

นั่งหน้าคอมฯ หาบทความอ่าน บังเอิญมาเจอ "ปักดำที่นา แกร่งกล้าที่ใจ" อ่านไปเรื่อย ๆ เยี่ยมมาก ๆเลยค่ะ ทำให้ผู้อ่านนึกถึงสมัยก่อนตอนเด็ก ๆ กลับจากโรงเรียนไปท้องนาช่วยคุณพ่อคุณแม่ถอนต้นกล้า สนุกมาก แต่มีสิ่งหนึ่งที่กลัวมาก นั่นก็คือ "ปลิง" นึกแล้วขนลุกซู่เลย  แต่ทว่า...น่าเสียดาย ที่ตอนนี้ผืนนาได้แปรสภาพเป็นสวนปาล์มน้ำมันหมดแล้ว  ยังไงก็ขอให้ผู้ที่ยังคงทำนา  จงรักษาอาชีพเดิมเอาไว้นะค่ะ

ขอบคุณค่ะคุณต้นกรูด...:)  ปีนี้ถ้ามีโอกาสมาร่วมกิจกรรมนะคะ

จะทำกิจกรรมอีกเมื่อไรบอกนะครับ

5555

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท