กลยุทธ์ผู้นำมืออาชีพ
โดยทั่วไปแล้วคนเราจะใช้ชีวิตอยู่กับการทำงานเพื่อให้ได้มาซึ่งผลตอบแทนตามที่ตัวเองต้องการ แต่ยังมีทัศนคติที่ผิดๆเกี่ยวกับงาน พฤติกรรมในการทำงานทีไม่ถูกต้อง การทำงานหนักเกินไป เพราะคิดว่ายิ่งทำมากผลตอบแทนก็ยิ่งมากตามไปด้วย ทำงานที่ไม่ตรงกับความถนัดหรือไม่มีความสุขกับงาน การทำงานที่ปราศจากซึ่งเป้าหมายที่ชัดเจน ขาดการวางแผนในการทำงาน ไม่มีการจัดสรรเวลา จนงานที่ทำออกมาไม่มีประสิทธิภาพ ชอบผัดวันประกันพรุ่งขาดความกระตือรือร้นจนกลายเป็นนิสัย และขาดความไว้วางใจในตัวคนอื่นจนต้องทำงานคนเดียว หรือไม่รู้จักการแบ่งงานให้คนอื่นทำ เหล่านี้ล้วนแต่เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นโดยตรงต่อชีวิตการทำงานของเรา บางครั้งงานที่ทำออกมาจึงไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ได้กำหนดไว้ ซึ่งแท้จริงแล้วการรู้จักการทำงานอย่างฉลาด คือรู้จักคิดที่จะเปลี่ยนแปลง สร้างมุมมองปรับเปลี่ยนทัศนคติ คำนึงถึงความสำคัญในการทำงานอยู่เสมอ หาวิธีการสร้างความสุขให้เกิดกับงานที่ทำ ทำด้วยความสนุกจะช่วยให้เรารักงานสามารถปฏิบัติงานได้อย่างเต็มที่ การสร้างระบบในการทำงานสิ่งทีสำคัญเป็นอันดับแรกคือสมาธิ การสร้างสมาธิจะช่วยดึงเอาพลังความคิดสร้างสรรค์ ช่วยเพิ่มทักษะทางด้านความจำ ทำงานอย่างเป็นระเบียบสร้างกฎเกณฑ์กำหนดทิศทางวางแผนเอาไว้ล่วงหน้า และมีแผนสำรองเอาไว้อยู่เสมอๆ การสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นกับตัวเอง คิดว่าเรามีศักยภาพและความสามารถไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าคนอื่น หมั่นทำงานด้วยความมานะอุตสาหะไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคที่เข้ามาบ่อนทำลายจิตใจให้เกิดการย่อท้อ ในเรื่องของเวลาก็เช่นเดียวกัน ตัวชี้วัดที่สามารถบ่งบอกถึงคนว่ามีประสิทธิภาพแค่ไหน นั้นอยู่ที่ผลของการกระทำหรือคุณภาพของงานที่ทำออกมา งานที่ดีจะต้องใช้เวลาในการทำ ฉะนั้นการจัดสรรแบ่งเวลาอย่างเหมาะสมถูกต้องรู้จักคุณค่าของเวลา ไม่ปล่อยให้ผ่านเลยไปโดยไม่ได้ทำให้เกิดประโยชน์ ก่อนที่จะลงมือทำควรคิดอย่างรอบคอบเพื่อที่จะลดการใช้เวลาโดยไม่ให้เสียเปล่า เพราะเวลามีค่ายิ่งคนที่ทำอะไรโดยคิดว่าเป็นการค่าเวลา เราก็จะถูกเวลาฆ่าแน่นอน ฉะนั้นการแบ่งเวลาอย่างเหมาะสมเพื่อนำมาบริหารจัดการในการทำงานของแต่ละวัน ทำให้ไม่เกิดความสับสน การจัดลำดับขั้นของความสำคัญของแต่ละอย่างก็จะทำให้งานรุดหน้าได้อย่างรวดเร็ว และเกิดประสิทธิผลตามมา การจัดการตัวเองหรือการทำสิ่งที่อยู่รอบตัวให้เป็นระเบียบทำให้การทำงานราบรื่น ไม่วุ่นวาย อย่างไรก็ดีหลักในการทำงานเราก็ควรมองถึงความสำคัญของงานเป็นหลัก ควรทำงานตั้งแต่เนินๆ หรือตั้งแต่ที่ได้รับมอบหมาย อย่าปล่อยให้อารมณ์หรือสิ่งแวดล้อมรอบข้างมายับยั้งการทำงาน คือจะได้มีเวลาในการไตร่ตรองงาน และไม่เหน็จเหนื่อยมากนัก การที่เรามีความกระตือรือร้นพร้อมที่จะทำงานอยู่เสมอ เป็นการสร้างนิสัยให้กับเราซึ่งทำให้เราเป็นคนขยัน เป็นการฝึกความรับผิดชอบของเราต่อผู้อื่นในการทำงานร่วมกัน และที่ขาดไม่ได้คือจะต้องมีความไว้วางใจบุคคลรอบข้าง ต้องรู้จักการแบ่งงานกันทำหรือการมอบหมายงานให้คนอื่นอย่างเหมาะสม และถูกต้องทั้งคนและงาน เช่นเดียวกันไม่ว่าจะเป็นผู้นำในองค์กรหรือผู้บริหารก็ดี ควรที่จะเป็นตัวอย่างที่ดีในการทำงาน รู้จักสอนงานให้กับเขา รู้จักให้กำลังใจและให้ความเชื่อมั่นกับเขา รู้จักใช้คนให้เหมาะกับงาน นักบริหารที่ดีจะต้องมีการวางแผนงานที่เก่ง การตัดสินใจต้องแนวแน่ สามารถควบคุมและติดตามผลให้บรรลุตามเป้าหมาย การกล้าเผชิญกับปัญหาและอุปสรรคมองไปข้างหน้าโดยไม่เกรงกลัว ถือเป็นแกนหลักสำคัญที่นักบริหารทุกคนทุกองค์กรต้องคำนึงถึงอยู่เสมอ การที่จะนำพาองค์กรไปสู่ความสำเร็จนั้น จะต้องขึ้นอยู่ทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องมีผู้บริหารและทีมงานที่ดี มีระบบการจัดการที่คงประสิทธิภาพ พร้อมที่จะแก้ไขปัญหาได้ทุกเมื่อ สิ่งสำคัญที่สุดคือตัวเราเองจะต้องเป็นบุคคลที่มีศักยภาพตามที่ได้กล่าวมา เพราะไม่มีสิ่งใดที่มีความสำคัญต่อความสำเร็จในฐานะผู้บริหารมากกว่าการจัดการตัวเราเองอย่างมีประสิทธิภาพ
ในทุกวันนี้จะเห็นได้ว่าการปรับตัวเพื่อให้องค์กรต่างๆสามารถอยู่รอด และเจริญก้าวหน้าภายใต้การแข่งขันที่สูงขึ้นอยู่ตลอดเวลา นักบริหารที่ดีต้องมีแนวคิดใหม่ๆอยู่เสมอ รู้จักใช้นวัตกรรมใหม่ๆในการสร้างระบบของการทำงาน หรือการปรับเปลี่ยนองค์กรอย่างสร้างสรรค์ การเตรียมความพร้อมสู่การเปลี่ยนแปลงทุกเมื่อโดยไม่เกลงกลัวต่อเหตุการณ์ การสร้างความเชื่อมั่นทีดีต่อสายตาของสังคม และต้องทำตามเป้าหมายสูงสุดที่ได้มีการวางแผนเอาไว้จนสำเร็จ ผลที่ได้รับนั้นจะบ่งบอกถึงความสามารถของทุกคน ทุกระดับภายในองค์กร ว่ามีประสิทธิภาพไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าหน่วยงานอื่นๆ
ไม่มีความเห็น