ในที่สุดฉันก็ได้ทำกระบวนการ World Café จริง บ้างแล้ว
สะสมบัญชีมีสุขตอนนี้เกี่ยวข้องกับสภากาแฟ หรือ World Café ค่ะ เพราะที่ผ่านมาฉันเคยแต่ได้ฟังได้อ่านวิธีการจัดการความรู้ด้วยกิจกรรม World Café
แม้ได้มีโอกาสทำกิจกรรมร่วมกับ gotoknow เรื่อง สามคำถามจากวงสนทนา World Café ออนไลน์ซึ่งไม่เข้าใจวิธีการเล่นอยู่ดีค่ะ (เพราะติดอยู่กับการเรียนรู้ผ่านการปฏิบัติจริงมากไป)
สัปดาห์ที่ผ่านมา (18 กรกฎาคม 2555) ฉันมีโอกาสได้เข้าสัมมนาเชิงปฏิบัติการปรับเปลี่ยนแนวคิด พิชิตความสำเร็จร่วมกัน โดย อาจารย์ธีระชัย เชมนะสิริ เป็นวิทยากรค่ะ การสัมมนาครั้งนี้จัดขึ้นสำหรับหัวหน้างานในสำนักงานมหาวิทยาลัย ซึ่งมีผู้เข้าสัมมนาจำนวน 40 คน
วัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างสัมพันธภาพ เรียนรู้และผสานทัศนคติในการทำงานร่วมกัน ระหว่างหน่วยงาน ให้เป็นทีมงานที่มีประสิทธิภาพ ขจัดข้อขัดแย้งระหว่างกัน ทบทวนวิธีการทำงานร่วมกันอย่างสร้างสรรค์ และสนองตอบนโยบายของคณะผู้บริหารได้อย่างชัดเจน รวดเร็ว ถูกต้องและมีประสิทธิผลค่ะ
วิธีการสัมมนาแบบ Executive Forum แบ่งผู้เข้าสัมมนาเป็นห้าทีม สมาชิกทีม 7-8 คน โดยคละสายงานกันค่ะ
ตลอดวันทั้งวันท่านวิทยากรให้พวกเราทำกิจกรรมอยู่สี่รายการ สลับกับการบรรยายหลังทำกิจกรรม กิจกรรมนั้นได้แก่
- ปริศนาค้างคาใจ ให้เราเขียนความในใจของเรา ปัญหา หรือความห่วงใยที่ประสบจากที่ทำงาน จากนั้นให้คุยกันในกลุ่มเพื่อการตกผลึกปริศนาค้างคาใจ เลือกปริศนาที่เป็นประเด็นร่วมกันมานำเสนอ รวมแล้วเราก็ได้ปริศนาห้ากลุ่ม 15 ปริศนา ถึงตรงนี้ท่านผู้บริหารของฉันซึ่งหลังจากเป็นประธานเปิดการสัมมนาแล้ว ท่านก็ได้รับโจทย์การบ้านจากท่านวิทยากรให้ช่วยนำปริศนาไปตกผลึกออกมา 5 ข้อสำคัญๆ ค่ะ
- Another side of the coin โดยใช้วิธีการ Round Table Discussion เป็นกิจกรรมที่สองที่เราได้ทำ ให้เราเขียนข้อดีของเพื่อนๆ ในห้องและพูดถึงข้อดีนั้นในห้องประชุม รายการนี้เล่นเอาฉันหวาดหวั่นไปเลย เพราะฉันเองมาใหม่ไม่ถึงปี พลาดโอกาสเข้าสัมมนากลุ่มหัวหน้างานถึงสองครั้งสองครา จึงไม่ค่อยได้สุงสิงกับบรรดาหัวหน้างานมากกว่า 30 คน แต่ในที่สุดฉันก็หายใจโล่ง เมื่ออย่างน้อยยังเป็นที่รู้จักของเพื่อนร่วมสำนักงานฯ อยู่บ้าง(พอสมควร)
- World Café เพื่อการแก้ไขปริศนาสำคัญที่สุด 5 ปัญหาแรก จากกิจกรรมแรกค่ะ
- Talking stick เป็นกิจกรรมไมค์โครโฟนกายสิทธิ์ เพื่อร่วมแก้ไขปัญหาที่เหลือ กิจกรรมนี้เรียกทั้งรอยยิ้มและน้ำตาได้ก่อนกลับบ้านค่ะ แต่ฉันเชื่อว่าผู้ที่ได้ถือไมค์กายสิทธิ์และได้พูดคงสบายใจที่ได้ระบายความรู้สึกอัดอั้นตันใจ และวิทยากรท่านให้สัญญาว่าจะเป็นสื่อกลางบอกต่อถึงผู้บริหารในโอกาสการประชุมที่ท่านมีบทบาทร่วมด้วยค่ะ
กิจกรรมWorld Café เล่นอย่างไรนั้น
มีผู้เขียนอธิบายเรื่องนี้ไว้หลายคน แม้แต่ใน gotoknow แ่ห่งนี้ อย่างเช่น คุณ นาย ไพรัชช์ (เอิร์ท) สาระคง AI Thailand / World Cafe Thailand / MBA KKU บันทึกไว้ชัดเจนค่ะ "World Cafe" step-by-step กับจิตวิทยาการขอ ลองติดตามอ่านดูนะคะ
กิจกรรมครั้งนี้ จับพลัดจับผลูฉันได้เล่นบทเป็นเจ้าของบ้าน (Host) คู่กับน้องแมว หัวหน้างานในสำนักงานทรัพย์สินฯ เราสองคนผลัดกันทำหน้าที่เจ้าของบ้านที่ดี อธิบายในรายละเอียดที่สมาชิกกลุ่มร่วมกันหาข้อเสนอแนะในปริศนาค้างคาหัวใจข้อสุดท้าย "การพัฒนาบุคลากรโดยองค์กรอย่างเป็นระบบ" ที่แอบบ่นว่า ยากกว่ากลุ่มอื่นๆ ซะอีกแน่ะ แต่ผลจากการทำงานเป็นทีม เราก็ผ่านกิจกรรมในข้อนี้ไปได้ด้วยคำชื่นชมจากท่านวิทยากรว่า "ดีมาก ดีจัง ขอให้ช่วยกลับไปทำการบ้านเพิ่มเติม สรุปส่งให้ผมด้วย ผมจะนำไปศึกษารายละเอียดก่อนนำเข้าประชุมร่วมกับทีมผู้บริหารของมหาวิทยาลัยเดือนหน้า"
การบ้านเสร็จเรียบร้อยแล้ว ฉันมานึกขึ้นได้ว่า การสัมมนาครั้งนี้ เหมือนการให้เราทำการบ้านอีกหัวข้อหนึ่ง คือ การเขียนข้อเสนอแนะเพื่อนำเสนอผู้บริหารใหม่ของมหาวิทยาลัยที่กำลังจะเปลี่ยนแปลงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า หากเป็นเช่นนั้นได้จริงๆ ก็นับเป็นความน่าภาคภูมิใจที่ทีมงาน 40 คน ในวันสัมมนานี้ได้มีบทบาทมีส่วนร่วมในการเป็นตัวแทนระดมข้อคิดเห็นโดยเฉพาะเรื่อง การพัฒนาบุคลากรโดยองค์กรอย่างเป็นระบบ
สุดท้ายฉันคิดว่าฉันได้...
เรียนรู้จักและมีประสบการณ์ตรงจากกิจกรรม World Café และเชื่อว่าจะสามารถนำไปปรับใช้ในกระบวนการทำงานและกิจกรรมกลุ่มที่ทำงานได้ค่ะ
จึงเป็นที่มาของบันทึกเรื่องดี บัญชีมีสุข สะสมรายสัปดาห์ครั้งนี้ค่ะ
ความเห็น (8)
รู้จัก World Cafe ครั้งแรกจากอ.หมอสกลที่งาน GotoKnow ครั้งที่ 1 ที่หาดใหญ่ ก็ติดใจตลอดมา
มาเรียนรู้world cafe'. ด้วยคนค่ะ
แอบเห็นข้อ๓. เอาKM. มาใช้ฯ. อย่างจริงจังด้วยค่ะพี่ต๋อย
- เป็นประสบการณ์ที่ดีมากนะคะ บุคลากรได้พัฒนาตนเอง และก็จะนำไปสู่การพัฒนาองค์กรด้วย
- โดยเฉพาะเรื่อง "การทำงานเป็นทีม" ที่มีปัญหามากในสังคมไทย ดังที่มีสำนวนไทยว่า ปัดแข้งปัดขา ลูบหน้าปะจมูก เสือสองตัวอยู่ในถ้ำเดียวกันไม่ได้ ฯลฯ
- วิชา "พฤติกรรมมนุษย์กับการพัฒนาตน" ที่อ.วิสอนมีเรื่องการพัฒนาทีมงานด้วยค่ะ
- มีผู้คิด "TEAM MODEL" ออกมาดังนี้ (อ้างอิงจาก Powerpoint ของ รศ.เฉลา ประเสริฐสังข์ ที่ Save Files Powerpoints การบรรยายในหัวเรืองต่างๆให้ ตอนไปอบรมวิทยากรแกนนำสาขาการแนะแนวร่วมกันที่ กทม.ปี 2553 ค่ะ)
- T = Together
- E = Everybody
- A = Achieve
- M = More
"ช่วยกันทุกคน ผลสัมฤทธิ์จะมากกว่า (อ.วิแปลเองค่ะ)"
สวัสดีค่ะท่าน 
วอญ่า-ผู้เฒ่า-natachoei--
- ไม่คิดว่า World Café จะสนุกดีอย่างนี้ค่ะ
- เป็นกิจกรรมที่น่าสนใจ
- น่าเปิดสภากาแฟได้บ่อยๆ เลยนะคะ
สวัสดีค่ะน้อง 
ชาดา ~natadee
- น้องอิงตาดีจริง
- กระแส KM ยังตามหลอนไม่เลิกค่ะ ไม่พูดเรื่องนี้จะหาว่าไม่อินเทรนด์นะคะ แต่สิ่งสำคัญคือ มันถูกบรรจุไว้อย่างเหนียวแน่นหนึบหนับในภารกิจด้านการประำักันคุณภาพค่ะ
- เอาภาพอีกบางส่วนมาฝาก เผื่จะหายปวดหัวกับทางออก...อิอิอิ โครงการ5ส ถึงไหนแล้วคะ
เรียนท่านอาจารย์ 
ผศ. วิไล แพงศรี
ขอบพระคุณค่ะอาจารย์ที่ได้กรุณามาเติมเต็มเพิ่มให้เรื่องการทำงานเป็นทีมค่ะ Happy together ค่ะ
- T = Together
- E = Everybody
- A = Achieve
- M = More
- ปริศนาค้างคาใจได้แก้เสียทีนะคะ ถ้าทุกคนมีส่วนร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์เพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกัน
- หัวหน้างานมีหน้าที่ปรับตัวกับลูกน้องที่แตกต่างกันทุกรูปแบบ งานหนักเหมือนกันนะคะ เจอหัวหน้าขยันแบบนี้ ลูกน้องไม่กล้าขี้เกียจแน่เลยค่ะ
สวัสดีค่ะคุณ 
Sila Phu-Chaya
- หัวหน้างานมีหน้าที่ปรับตัวกับลูกน้องที่แตกต่างกันทุกรูปแบบ ถ้าเจอหัวหน้าขยัน ลูกน้องเหนื่อย ก็ไม่ดีอีกนะคะ เกรงใจๆ